ที่มา มติชน
โดย OneThaiVoice
ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงก่อนเลยว่า ไม่ใช่ให้เลิกอย่างอื่นแล้วมาทำสิ่งนี้ ทำอะไรอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยได้ก็ perfect ข้อเสนอของผมนี้เพียงแต่เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัวกับสิ่งที่ผมคิดว่าเราควรทำ ผิดถูกประการใดอย่างน้อยขอได้พิจารณาตามความเหมาะสม ผมเพียงแต่เรียนเสนอจากมุมมองของ “เสียงของมวลชน(แน่นอน เสื้อแดง)คนหนึ่ง”
ใน บรรดาวาระทางการเมืองที่จะตีฝ่ายตรงข้าม ณ ขณะนี้ สิ่งที่เสื้อแดงควรทำที่สุด คือ การขับเคลื่อนกระแสข้อเสนอของนิติราษฎร์จากภาคประชาชน เป็นแรงให้ฝ่ายนิติบัญญัติ(ฝ่ายการเมือง)ใช้เป็นเหตุผลอธิบาย (justification) ในการดำเนินการต่อ เหตุผลสนับสนุนมีดังนี้
1. ประการแรก ข้อเสนอของนิติราษฎร์ไม่ใช่วาระของขั้วการเมืองโดยตรง
แน่ นอนที่สุดที่ถึงแม้จะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ที่มาเกิดจากแวดวงวิชาการ ไม่ใช่จากขั้วการเมืองเสื้อแดง/เพื่อไทยอย่างการเคลื่อนไหวอื่นๆ เช่น การทวงฎีกาขออภัยโทษ การทำนิรโทษกรรม การพยายามเอาผิดกับผู้มีส่วนร่วมในการสลายการชุมนุม หรือแม้กระทั่งการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งหมดมีส่วนร่วมที่เรียกได้ว่าเป็นปูนป้ายที่หน้าผากหรือตามสำนวนจีน ว่าเขียนไว้ที่บนหน้า คือ ความเป็นวาระการเมืองโดยตรงของเสื้อแดง/หรือเพื่อไทย
ข้อเสนอของนิติ ราษฏร์ถึงแม้จะถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงว่าเป็น นิติเรด รับงานทักษิณ หรืออะไรก็ตามแต่ ในมุมกว้างไม่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นข้อเสนอทางการเมืองของขั้วเสื้อแดง/เพื่อ ไทย ถึงแม้เนื้อหาจะดูเผินๆจะตรงกันด้วยว่าข้อเสนอนั้นต่อต้านรัฐประหารและเน้น ไปที่ประชาธิปไตยและความยุติธรรม แต่ไม่มีอะไรในข้อเสนอที่เป็นของเสื้อแดงหรือเพื่อไทยโดยตรง กระทั่งการแก้ ม.112 ที่เป็นข้อที่เสื้อแดงกลุ่มก้าวหน้าต้องการให้ยกเลิก ข้อเสนอของนิติราษฎร์นั้นก็มุ่งที่ให้เกิดการปฏิรูปโดยเสียงของประชาชน ผลจะเป็นยกเลิกเลยหรือแก้ไขก็ยังยากที่บอกได้ 100% (มุ่งไปที่ผล – เสื้อแดงก้าวหน้า VS มุ่งไปที่ให้เกิดกระบวนการแก้ไข - นิติราษฎร์) ในเรื่องการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 นั้น ก็ยังเป็นคนละแนวกับความต้องการแก้รัฐธรรมนูญของเพื่อไทยอยู่ดี อาจจะมีหลายส่วนหรือทั้งหมดของเสื้อแดงที่อยากจะยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 แต่ก็ยังมีความแตกต่างในเชิงของหลักการและปฏิบัติ (มุ่งผลยกเลิกรัฐธรรมน...ย 50 เหมือนกัน แต่ต่างวิธี ตีเนื้อหาของรัฐธรมนูญ – เสื้อแดง/เพื่อไทย VS ทำลายความชอบธรรม – นิติราษฎร์)
จุดนี้ทำให้การอธิบายเพื่อขอความเห็นชอบโดยลดโอกาสที่โดนเจาะยางตกข้างทางไปเสียก่อนจากข้ออ้างของฝ่ายตรงข้าม
2. ข้อเสนอของนิติราษฎร์เรียกแนวร่วมพลังเงียบและทำให้การต่อสู้นั้นไม่โดดเดี่ยว
อัน นี้ก็บริบทที่คล้ายกันกับเหตุผลแรก ไม่โดนเจาะยางง่าย แต่ที่สำคัญกว่าคือ พื้นที่ทางวิชาการเป็นพื้นที่ที่มีอาณาเขตส่วนตัวของนักวิชาการ ครั้งนี้ต้องขอบคุณที่ปชป.และนักวิชาการซีกเผด็จการ”เรียกแขก”ให้ บรรดาพลังเงียบที่รู้สึกว่าตนเองถูกรุกล้ำพื้นที่ได้ดาหน้าออกมาปกป้องกันยก ใหญ่และไม่มีทีท่าจะหยุด ไม่เพียงในแวดวงวิชาการในรั้วอุดมศึกษาเท่านั้น แต่ลามไปถึงวงการกฎหมายอาชีพ วงการศิลปศาสตร์วรรณกรรม และสื่ออีกด้วย แนวร่วมเหล่านี้ทำให้เกิดบรรยากาศการอภิปรายอย่างคึกคักในสาธารณะเป็นอย่าง มาก ซี่งก็สมเจตจำนงค์ของคณะนิติราษฎร์เองแล้วส่วนหนึ่ง
ทางคณะนิติ ราษฎร์และแวดวงนักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยเองก็ไม่เลิกรา คอยจัดงานเสวนาจนหัวกระไดคณะนิติศาสตร์ไม่แห้ง สัปดาห์หน้าก็จะมีอีกและคงตามมาเรื่อยๆ เสื้อแดงควรจะ”สานต่อ”ยกระดับจากกระแสอภิปรายให้เป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของ สังคม ณ ช่วงเวลาหนึ่ง กระแส“เรารัก...”ที่ใช้ความรู้สึกชี้นำยังถูกติดตั้งลงบนสังคมได้ กระแสความคิดที่มาประกอบไปด้วยทั้งความรู้สึกของความต้องการความเท่าเทียม ประชาธิปไตยและความเป็นเหตุเป็นผลก็น่าจะถูกติดตั้งได้เช่นกัน เป็นโอกาสที่ดีที่นอกเหนือจากจะได้ผลทางการเมืองแล้ว ยังจรรโลงสังคมโดยการเติม rationality คืนให้สังคมด้วยไม่มากก็น้อย <-อันนี้บรรเจิดออกนอกประเด็นนิดหน่อย
ความสำเร็จระดับหนึ่งของ แรงสนับสนุนทางสังคมนี้จะส่งผลดีให้กับฝ่ายการเมืองและเป็นเชื้อเพลิงให้ พาหะประชาธิปไตยของเราขับใช้ justify กับสาธารณะในการดำเนินการต่อ ซึ่งจากที่เป็นอยู่ขณะนี้ฝ่ายการเมืองน่าจะกำลังรอจังหวะเข้าทำอยู่ ปราศจากพลังทางสังคม การดำเนินการของฝ่ายการเมืองมีโอกาสจะโดนรุมตีและล้มเหลวได้ง่ายเช่นกรณีที่ ผ่านมาเนื่องจากต่อสู้ในพื้นที่ปิดที่เราก็รู้กันอยู่ว่ากฎเกณฑ์และกรรมการ อยู่ข้างใคร
งานนี้ต้องอาศัยกองเชียร์ ประชาร่วมใจจะทำให้แนวร่วม”อุ่นใจ” ทำให้ฝ่ายการเมือง”มั่นใจ” และทำให้การดำเนินการ”มั่งคง” (อันสุดท้ายนี้กลอนพาไป จริงๆแล้วอาจจะเป็นแค่เพิ่มความเป็นไปได้ก็แค่นั้น)
3. ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ไม่ มีอะไรที่น่ากังวลเกี่ยวกับการ defend ข้อเสนอและจุดยืนของนิติราษฎร์เอง ด้วยองค์ความรู้ จุดยืน สถานะและต้นทุนของเจ้าของข้อเสนอประกอบกัน พวกเค้าอยู่ในค่ายที่มั่นคงแข็งแรงดีอยู่แล้ว ต่างจากการนำนโยบายฝ่ายการเมืองมานำโดยตรงที่กระเตงเอาคำถามเส็งเคร็งทาง สังคมที่ฝ่ายตรงข้ามยังไงก็ต้องจุดอย่างที่รู้ๆกันอยู่มาด้วย ไม่ใช่นิติราษฎร์ไม่มี คนมันจะเป็นประเด็นก็ยังจะเป็น แต่ที่ได้เปรียบคือเนียน สมบูรณ์และ clean กว่าเยอะ ตอบแทบจะทุกประเด็นที่ฝ่ายเรามี ยกเว้นเรื่องสัตยาบรรณ ICC คณะนิติราษฎร์นั้น เค้าไม่แค่ standalone ได้ แต่ยังช่วยคนอื่นได้อีกด้วย
ลักษณะ การใช้แรงสนับสนุนจากภาคประชาชนที่มีต่อข้อเสนอของนิติราษฎร์ เทียบกับที่มีต่อวาระที่เป็นนโยบายทางการเมือง เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนชัยภูมิในสมรภูมิเลยทีเดียว (ข้อนี้ขอห้วนๆอย่างนี้แหละ)
4. ไม่เป็นการสู้ที่สุ่มเสี่ยงการแตกหักในทันที
กระบวน การที่นิติราษฎร์เสนอนั้น เริ่มที่ความคิด พูดถึงก็ขอยกตัวอย่างการทำสัตยาบรรณ ICC หรือขอแก้ม. 112 โดยตรง เปรียบเทียบกับ 2 กรณีนั้น ก็เหมือนกับการทำหมู่บ้านเสื้อแดง VS การชุมนุม อาจจะดูช้าแต่พอ pick up แล้ว slow but sure ลักษณะจะเป็นการสะสมกำลังเพื่อทะยาน ลองนึกภาพจู่ๆพรรคเพื่อไทยเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภาในการร่วมสัตยาบรรณ ICC ต่อให้ผ่านในวาระนั้นเลย ผลพวงคือการแตกหักที่ไม่ทันทีก็แทบจะเรียกได้ว่าทันที อันนี้ขออนุญาตประเมิณว่าเป็นยุทธวิธีสุ่มเสี่ยงพอควร ซึ่งอย่างไรก็ตามขอให้กลับไปที่ออกตัวไว้ข้างต้นว่าไม่ใช่ไม่ทำ ก็ทำควบคู่ไปด้วยก็ได้ แต่ต้องประเมิณจุดแตกหักให้ดี
ท้ายนี้...
ขอเรียนเสนอพวกเราซ้ำอีกครั้งสำหรับแนวทาง
อยาก จะขอให้ทุกท่านที่มี connection กับกลุ่มต่างๆช่วยกันโฟกัสกันนะครับ แคมเปญ "สนับสนุนนิติราษฎร์" (หรือว่า "เรารัก.." จะเป็นประเด็นมั้ย แต่ถ้าจะทำขอรูปหัวใจ อิอิ)
1. เชิงสัญลักษณ์ ประกาศเจตนารมณ์ (manifest ) ในชีวิตประจำวันตามเงื่อนไขที่ทำได้ เช่น ใส่เสื้อ ติดเข็มกลัด ติดสติ๊กเกอร์ที่รถ ฯลฯ แล้วแต่สะดวกมากหรือน้อย จุดมุ่งหมาย(สูงไว้ก่อน )เอาให้เป็นแบบสติ๊กเกอร์ที่เจอบ่อยที่สุดที่ท้ายรถอันนั้น เอาให้เป็นแบบเสื้อที่เคยฮิตซึ่งถึงแม้ปัจจุบันจะหาฮิตไม่แล้ว ยังคงถึงความรู้สึกซาบซึ้งได้ทันที
2. เชิงความคิด อ่านและทำความเข้าใจ ทำตนให้พร้อมที่จะ อธิบาย อภิปราย ชี้แจง ตอบข้อสงสัย ข้อกังขา ข้อโต้แย้ง เกี่ยวกับข้อเสนอของนิติราษฎร์ โดยทำการศึกษาและซักซ้อม role play กันในกลุ่ม
3. แง่การเผยแพร่ หามือดีที่เขียนคำอธิบายข้อเสนอแบบกระชับๆ เข้าใจง่าย Xerox ไว้แจกก็ดี ติดตัวไว้ใช้งานเป็น reference หรือยื่นให้คนที่สนใจถาม ขอความร่วมมือผู้ขายเสื้อแนบใบนี้ไปด้วย
4. เชิงยุทธวิธี ชักชวนประสานเป้าหมายกับกลุ่มอื่นๆที่จะทำแบบ"จุดเทียน"ให้สว่างไสวไปทั่ว ทั้งท้องสนามหลวง อันนี้คำพาไป แต่เชื่อว่าเห็นภาพ ทำพร้อมๆเหมือนๆกัน จึงจะเรียกว่าเป็นแคมเปญ