ที่มา thaifreenews
โดย ป้าพลอย
ถ้าเป็นผม ผมคงไม่กล้าหรอกครับ
ผมคงไม่กล้าบอกรัฐบาลว่า การกู้เงินหมื่นล้าน เป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับประชาชน
ในขณะที่ผมเองกลับไปกู้เงินมาตั้งแปดแสนล้าน
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลทำตามนโยบายทันที
ในขณะที่สองปี นโยบาย 99 วันทำได้จริง แล้วผมยังทำไม่ได้
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลให้ดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ
ในขณะที่ผมอนุมัติโครงการเป็นร้อยโครงการในเวลาแค่ 15 ชั่วโมง
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลโยกย้ายข้าราชการตามระบบคุณธรรม
ในขณะที่ ก.พ.ค.ให้คืนตำแหน่งคุณวงศ์ศักดิ์หรอกครับ
ผมคงไม่กล้าบอกว่า รัฐบาลแต่งตั้ง ผบ.ตร.เพื่อญาติตัวเอง
เพราะผมอายคุณพัชรวาทมากเลยครับ
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ในขณะที่มีคนจะแต่งตั้งคุณสรยุทธเป็นนายกฯแทนผม
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลเร่งเยียวยากับผู้ประสบภัย
ในขณะที่ยังมีผู้ประสบภัยไม่ได้รับเงินเยียวยาตั้งแต่ปีก่อนโน่น
ผมคงไม่กล้าบอกให้นายกฯมุ่งช่วยเหลือน้ำท่วมเพียงอย่างเดียว
ในขณะที่ผมมุ่งแสดงปาฐกถามากกว่าลงพื้นที่
ผมคงไม่กล้าขอเวลาในการออกอากาศทางช่อง 11 แข่งกับนายกฯ
ทั้งๆที่ผมไม่เคยเปิดโอกาสให้แถมยังให้คนจัดรายการด่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ข้างเดียว
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนในเรื่องต่างประเทศ
ในขณะที่ด่านเมียวดีถูกปิดมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลยืดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลักในเรื่องพื้นที่ทับซ้อน
ในขณะที่ผมไม่สามารถสร้างสัมพันธ์ไมตรี จนเกิดสงครามตามชายแดนหลายครั้ง
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลให้เจรจาเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลอย่างโปร่งใส
ในขณะที่ผมส่งคนแอบไปเจรจาโดยที่ไม่มีประชาชนคนไหนได้รับรู้เลย
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลสั่งการให้คนเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหว
ในขณะที่ผมทั้งแอบขนคน ทั้งส่ง ส.ส.ในพรรคไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ
ผมคงไม่กล้าบอกให้รัฐบาลหยุดประชานิยมที่จะทำให้วินัยการคลังเสียไป
ในขณะที่สื่อฯต่างๆตั้งโครงการของผมว่า ดับเบิ้ลประชานิยมหรอกครับ
ผมคงไม่กล้าสั่งสอนการบริหารให้กับนายกฯที่เป็นซีอีโอของธุรกิจหมื่นล้าน
ในขณะที่คนทั้งหลายให้ฉายาผมว่า “ดีแต่พูด”
ผมคงไม่กล้าบอกว่า นายกฯเป็นเพียงนอมีนีของพี่ชาย
ในขณะที่สื่อฯต่างๆบอกว่า ผมเป็นเพียงนายกฯหุ่นเชิด
ผมคงไม่กล้าบอกว่านายกฯสั่งการใครก็ไม่ได้
ในขณะที่กฎเหล็ก 9 ข้อ ไม่เห็นมีใครปฏิบัติตาม
ผมคงไม่กล้าบอกว่า รัฐบาลกำลังทำให้ประเทศเป็นรัฐตำรวจ
ในขณะที่ผมยอมสยบกับรัฐทหาร
ผมคงไม่กล้าให้ ส.ส.ในพรรคไปตั้งฉายานายกฯด้วยคำดูถูกในเรื่องการพูดเท็จ
ในขณะที่สองปีที่ผ่านมา หลายคนหาว่า ผมคิดอย่าง พูดอย่างและทำอย่าง
ผมคงไม่กล้าบอกว่านโยบายบ้านหลังแรก เป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กับเอสซีฯ
ในขณะที่ผมให้ปรับราคาพร้อมทั้งนำเงินภาษีของประชาชนไปช่วยบริษัทน้ำมันปาล์ม
ผมคงไม่กล้าพูดถึงจริยธรรมของนายกฯ
ในขณะที่ผมไม่แสดงความรับผิดชอบกับการสูญเสียชีวิตของประชาชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
ผมคงไม่กล้าพูดถึงจิตสำนึกของนายกฯ
ในขณะที่ผมเป็นนายกฯได้เพราะอำนาจนอกระบบช่วยเหลือ
ผมคงไม่กล้าพูดถึงคุณธรรมของนายกฯ
ในขณะที่มีคนถูกขังด้วยข้อหาที่เกินจริง
ผมคงไม่กล้าให้คนอื่นแสดงจุดยืนของสัญชาติ
ในขณะที่ผมเองยังถือสองสัญชาติอยู่
ผมคงไม่กล้าบอกว่ารัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนๆเดียว
ในขณะที่ผมแก้รัฐธรรมนูญ 2 ข้อเพื่อพรรคตัวเอง
ผมคงไม่กล้าบอกว่า เอไอเอสได้กำไรจากการขายแอร์การ์ดให้กับส.ส. 4 ปีเป็นเงินกว่า 15 ล้าน
ในขณะที่เช็ค 2000 บาท แค่ครั้งเดียว แบงก์กรุงเทพขายเช็คได้เกือบ 150 ล้านบาท
ผมคงไม่กล้าบอกว่า ผมจะยึดถือนิติรัฐมากกว่านิติราษฎร์
ในขณะที่สังคมรู้กันหมดแล้วว่า ผมได้อำนาจมาจากเผด็จการ
ผมคงไม่กล้าบอกว่า จะถอดถอน อัยการสูงสุดในกรณีไม่ฎีกาเรื่องหุ้นชิน
ในขณะที่ผมไม่เคยคิดจะถอดถอนนายทะเบียนพรรคการเมืองที่ทำให้ยกฟ้องคดียุบพรรคถึง 2 คดี
ผมคงไม่กล้าบอกว่า รัฐบาลชุดนี้พยายามจะทำเพื่อช่วยเหลือคนๆเดียว
ในขณะที่ผมพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำร้ายคนๆเดียวมาตลอด
และสุดท้ายผมคงไม่กล้าบอกทุกๆคนว่าจะเป็นฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์
ในขณะที่ผมค้านมันทุกวัน ค้านมันทุกเรื่องอย่างนี้
นี่ คือผม คนที่ผิวหน้าบาง คนที่รู้จักหิริโอตตัปปะ ดังนั้นผมจึงไม่กล้าทำหรอกครับกับเรื่องต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ผมยังจะไม่ทำตัวเป็นจระเข้ปวดฟันที่คอยขวางการทำงานของรัฐบาลของ ประชาชนหรอกครับ เพราะนี่คือรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ครับ
จากคุณ : ทวดเอง