ประชาธิปัตย์ 4 ก.พ. – โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โต้ “สมัคร” ไม่เคยอยากแก้รัฐธรรมนูญจนตัวสั่น เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เตือนให้วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ หวั่นกระทบภาพลักษณ์นายกรัฐมนตรี พร้อมยันตั้งครม.เงาเพื่อตรวจสอบ ไม่ใช่เสียดสีรัฐบาล
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โต้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี คนใหม่ ที่ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการแก้รัฐธรรมนูญจนตัวสั่น เพราะต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ ว่า งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีวาระประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในช่วงของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพราะพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า รัฐธรรมนูญมีทั้งส่วนที่เป็นข้อดี และข้อด้อย จึงไม่ควรจะแก้ไขทันทีที่มีการใช้รัฐธรรมนูญ แต่ควรใช้รัฐธรรมนูญไปสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยดูว่าควรจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร
“ผมอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรี คนใหม่ อย่าใช้คำพูดเยาะเย้ยถากถาง ผมอยากจะบอกว่า นายสมัครเป็นนายกฯ แล้ว การจะพูดให้ความเห็นในเรื่องอะไร ควรพูดถึงเนื้อหาสาระ มากกว่าที่จะใช้วิธีการกระแนะกระแหน หรือการเยาะเย้ยถากถาง” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ ยังแนะนำให้นายสมัครปรับเปลี่ยนบุคคล ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ ให้มีความเหมาะสม หากเห็นว่าคณะรัฐมนตรีหน้าตาขี้เหร่ ตามที่ออกมาวิจารณ์ก่อนหน้านี้ ก็ควรใช้ภาวะความเป็นผู้นำ ในฐานะหัวหน้าของคณะรัฐมนตรีที่มี เลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม เชื่อว่าในพรรคพลังประชาชนยังมีคนที่มีความเหมาะสมอีกมาก ถ้าไม่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีขี้เหร่ ดีกว่าบ่นเฉย ๆ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร
นายองอาจ ยังกล่าวถึง คณะรัฐมนตรีเงาของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พรรคพลังประชาชนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ดีพอ จึงระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งคณะรัมนตรีเงา เพื่อต้องการเสียดสีคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศ เพราะจุดมุ่งหมายของการตั้งคณะรัฐมนตรีเงา เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญ และเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่าเป็นโทษ
“ถ้าพรรคพลังประชาชนจะใจกว้าง ศึกษาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ จะเห็นชัดเจนว่า เป็นเรื่องปกติของการปกครองระบอบประชาธิปไตย แบบรัฐสภา ที่พรรคฝ่ายค้านจะมีรูปแบบการติดตามเช่นนี้ ดังนั้น การตั้งครม.เงา จึงไม่ได้ทำเพื่อเสียดสีรัฐบาล หรือทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ยืนยันว่าเราทำงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง” นายองอาจ กล่าว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการเพิ่มคณะกรรมาธิการประจำสภาฯ จาก 31 คณะ เป็น 36 คณะนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการฯ ที่กำลังร่างข้อบังคับการประชุมสภา ซึ่งคงดูตามความเหมาะสม ให้เป็นไปตามเนื้อหาสาระของงาน หากจำเป็นและมีเหตุผล คิดว่าสภาฯคงไม่ว่าอะไร อย่างไรก็ตาม ต้องดูด้วยว่า คณะกรรมาธิการฯ ที่ตั้งขึ้นใหม่ จะทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ตั้งเพิ่มขึ้น เพราะมีคนในพรรคไม่ได้รับตำแหน่ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-02-04 13:20:54