ใครที่คิดว่า สมัคร สุนทรเวช เป็นเพียงนายก
รัฐมนตรีร่างทรง หรือเป็น “นอมินี” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร ถึงวันนี้อาจต้องเปลี่ยนใจเสียแล้ว
เพราะคุณสมัครได้ออกมาแสดงบทบาทในการเป็น
นายกรัฐมนตรีอย่างเต็มตัว ในการฟอร์มคณะรัฐมนตรี
ครั้งนี้
หลายตำแหน่งถูกเปลี่ยนกะทันหัน เพราะนายกฯ
สมัคร ไม่เห็นด้วย!! คุณสมัครต้องการตัดชื่อ “ยี้” ทิ้งไป
หลายคน เป็นใครบ้างก็คงรู้ๆ และเห็นกันอยู่
ชัดเจนที่สุดว่า สมัครไม่ใช่ “นายกฯ หุ่น” ก็น่าจะ
เป็นคำพูดที่ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า
ท่านไม่เห็นด้วยกับรายชื่อรัฐมนตรีบางกระทรวง
และต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่?? ซึ่ง
คุณสมัครก็ตอบสวนทันที
“ไหนบอกว่าผมเป็นหุ่นไง บ่ายนี้ผมจะเข้าร่วม
ประชุมกรรมการบริหารพรรค ตอนนี้ชื่อของรัฐมนตรี
ยังไม่เสร็จสิ้น บ่ายๆ เขาจะมาดูกัน
แต่ยังไม่ใช่ว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมด แล้วจะมีการ
นัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยเร็ว ไม่ช้าแน่นอน
ตอนนี้ต้องรอให้เสร็จกระบวนการก่อน จวนเสร็จแล้ว”
กระทรวงใหญ่และสำคัญอย่างกระทรวง
คมนาคม พาณิชย์ และศึกษาธิการ จึงมีการแก้ไข
ปรับกันใหม่ในเกือบนาทีสุดท้าย
ตามที่คุณสมัครเสนอ!!
การเสนอรายชื่อคนเป็นรัฐมนตรีในเบื้องต้นนั้น
ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนเป็นผู้ดำเนินการกันมา
แต่เมื่อมาถึงมือคุณสมัคร นายกรัฐมนตรี ก็ได้แสดง
ความไม่สบายใจต่อรายชื่อรัฐมนตรีบางคน
การแก้ไขจึงเกิดขึ้น!!
และในที่สุด ก็เป็นไปตามที่คุณสมัครต้องการ
ว่ากันไปแล้ว การฟอร์มคณะรัฐมนตรีในกรอบของ
การเป็น “รัฐบาลผสม” นั้น ค่อนข้างจะยากและเต็มไป
ด้วยอุปสรรคปัญหา
แต่เพราะความเก๋าของ สมัคร สุนทรเวช เรื่องยาก
ก็กลายเป็นเรื่องง่าย
อย่างกรณีกลุ่ม ส.ส.อีสาน ที่เดินทางไปกดดัน
คุณสมัครถึงบ้านพัก ยื่นหนังสือขอให้การจัดสรร
รัฐมนตรีมีความเหมาะสม หลังจากทราบว่า ส.ส.อีสาน
ได้รับโควตาน้อย ไม่เป็นไปตามสัดส่วนจำนวน ส.ส.
คุณสมัครก็ไม่ออกมารับหนังสือเอง เพียงแต่
ให้เลขาส่วนตัวออกมารับหนังสือแทน
เมื่อเรื่องนี้เกิดเป็นข่าว อาจทำให้มีหลายฝ่ายหรือ
หลายคนเกิดอาการกังวล แต่เมื่อดูชื่อคนที่มายื่นหนังสือ
ให้เพิ่มรัฐมนตรีโควตาอีสานแล้วก็หายวิตก
เพราะคนที่มายื่นหนังสือร้อง คือ ส.ส.เจ้าเก่า
อย่าง พีรพันธุ์ พาลุสุข ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม
ที่คุ้นหูผู้คนในเรื่องทำนองนี้
มาถึงวันนี้ ผมกลับคิดว่าเรื่องที่ยากเย็นเข็ญใจกว่า
การฟอร์มชื่อคนเป็นรัฐมนตรี กลับเป็นปัญหาการปฏิเสธ
ไม่ยอมเอาทีมอารักขาและรถนำขบวน มานำหน้าเหมือน
นายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ
ซึ่งมันอาจขัดต่อระเบียบการให้ความปลอดภัยต่อ
นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ผู้นำประเทศ
ท่านจะชอบหรือไม่ชอบ ก็น่าจะต้องรับกติกา
ซึ่งถือเป็นหลักการที่สากลโลกเขาทำกันไปก่อน
เพราะทุกวันนี้ท่านไม่ใช่ผู้จัดรายการ “ชิมไป-บ่นไป”
อีกแล้วนะครับท่าน
สองคม
รัฐมนตรีร่างทรง หรือเป็น “นอมินี” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร ถึงวันนี้อาจต้องเปลี่ยนใจเสียแล้ว
เพราะคุณสมัครได้ออกมาแสดงบทบาทในการเป็น
นายกรัฐมนตรีอย่างเต็มตัว ในการฟอร์มคณะรัฐมนตรี
ครั้งนี้
หลายตำแหน่งถูกเปลี่ยนกะทันหัน เพราะนายกฯ
สมัคร ไม่เห็นด้วย!! คุณสมัครต้องการตัดชื่อ “ยี้” ทิ้งไป
หลายคน เป็นใครบ้างก็คงรู้ๆ และเห็นกันอยู่
ชัดเจนที่สุดว่า สมัครไม่ใช่ “นายกฯ หุ่น” ก็น่าจะ
เป็นคำพูดที่ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า
ท่านไม่เห็นด้วยกับรายชื่อรัฐมนตรีบางกระทรวง
และต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่?? ซึ่ง
คุณสมัครก็ตอบสวนทันที
“ไหนบอกว่าผมเป็นหุ่นไง บ่ายนี้ผมจะเข้าร่วม
ประชุมกรรมการบริหารพรรค ตอนนี้ชื่อของรัฐมนตรี
ยังไม่เสร็จสิ้น บ่ายๆ เขาจะมาดูกัน
แต่ยังไม่ใช่ว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมด แล้วจะมีการ
นัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยเร็ว ไม่ช้าแน่นอน
ตอนนี้ต้องรอให้เสร็จกระบวนการก่อน จวนเสร็จแล้ว”
กระทรวงใหญ่และสำคัญอย่างกระทรวง
คมนาคม พาณิชย์ และศึกษาธิการ จึงมีการแก้ไข
ปรับกันใหม่ในเกือบนาทีสุดท้าย
ตามที่คุณสมัครเสนอ!!
การเสนอรายชื่อคนเป็นรัฐมนตรีในเบื้องต้นนั้น
ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนเป็นผู้ดำเนินการกันมา
แต่เมื่อมาถึงมือคุณสมัคร นายกรัฐมนตรี ก็ได้แสดง
ความไม่สบายใจต่อรายชื่อรัฐมนตรีบางคน
การแก้ไขจึงเกิดขึ้น!!
และในที่สุด ก็เป็นไปตามที่คุณสมัครต้องการ
ว่ากันไปแล้ว การฟอร์มคณะรัฐมนตรีในกรอบของ
การเป็น “รัฐบาลผสม” นั้น ค่อนข้างจะยากและเต็มไป
ด้วยอุปสรรคปัญหา
แต่เพราะความเก๋าของ สมัคร สุนทรเวช เรื่องยาก
ก็กลายเป็นเรื่องง่าย
อย่างกรณีกลุ่ม ส.ส.อีสาน ที่เดินทางไปกดดัน
คุณสมัครถึงบ้านพัก ยื่นหนังสือขอให้การจัดสรร
รัฐมนตรีมีความเหมาะสม หลังจากทราบว่า ส.ส.อีสาน
ได้รับโควตาน้อย ไม่เป็นไปตามสัดส่วนจำนวน ส.ส.
คุณสมัครก็ไม่ออกมารับหนังสือเอง เพียงแต่
ให้เลขาส่วนตัวออกมารับหนังสือแทน
เมื่อเรื่องนี้เกิดเป็นข่าว อาจทำให้มีหลายฝ่ายหรือ
หลายคนเกิดอาการกังวล แต่เมื่อดูชื่อคนที่มายื่นหนังสือ
ให้เพิ่มรัฐมนตรีโควตาอีสานแล้วก็หายวิตก
เพราะคนที่มายื่นหนังสือร้อง คือ ส.ส.เจ้าเก่า
อย่าง พีรพันธุ์ พาลุสุข ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม
ที่คุ้นหูผู้คนในเรื่องทำนองนี้
มาถึงวันนี้ ผมกลับคิดว่าเรื่องที่ยากเย็นเข็ญใจกว่า
การฟอร์มชื่อคนเป็นรัฐมนตรี กลับเป็นปัญหาการปฏิเสธ
ไม่ยอมเอาทีมอารักขาและรถนำขบวน มานำหน้าเหมือน
นายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ
ซึ่งมันอาจขัดต่อระเบียบการให้ความปลอดภัยต่อ
นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ผู้นำประเทศ
ท่านจะชอบหรือไม่ชอบ ก็น่าจะต้องรับกติกา
ซึ่งถือเป็นหลักการที่สากลโลกเขาทำกันไปก่อน
เพราะทุกวันนี้ท่านไม่ใช่ผู้จัดรายการ “ชิมไป-บ่นไป”
อีกแล้วนะครับท่าน
สองคม
ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด - ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด