WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, February 1, 2008

สพรั่ง เจิมศักดิ์ 'หน้าแหก' : ถึงเวลาชดใช้สิ่งที่กระทำไว้กับ ทอท.

ที่มา เวบไซต์ บางกอกทูเดย์
1 กุมภาพันธ์ 2551

“หน้าแตก” หรือจะเรียก “หน้าแหก” อาการก็คงไม่ต่างกันนัก!!! สำหรับ บอร์ด บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.นำโดย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ด และ“โฆษกฯ ปากกล้า” นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง หนึ่งในบอร์ดทอท.

ก่อนหน้านี้ “บางกอกทูเดย์” เคยเขียนบอกด้วยซ้ำว่า...ระวัง!!!... อย่าได้ทำการละเมิดคำสั่งของศาลแพ่ง ที่ได้ให้ความคุ้มครอง “โจทก์” และ “คู่กรณี” อย่าง กลุ่มคิงเพาเวอร์ ตามที่ร้องขอไว้ เมื่อ 28 ธ.ค.50

นอกจากบอร์ดชุดนี้ จะไม่ฟังแล้ว ยังปล่อยให้นายเจิมศักดิ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ “เขย่าขวัญ” ไม่เฉพาะกลุ่มคิงเพาเวอร์ หากยังรวมถึง “คู่ค้า” และพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกด้วย

แทบจะทุกครั้งที่มีการประชุมบอร์ด ทอท. ก็มักจะเห็น“โฆษกบอร์ดฯ” คนนี้เอง ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมฯ ประกาศขับไล่ กลุ่มคิงเพาเวอร์ พ้นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

กระทั่ง ช่วงสายของวันนัดหมาย 31 ม.ค. ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดา ศาลแพ่งได้นัดพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 2441/2550 กรณีบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด เป็นโจทก์และ ทอท.เป็นจำเลย โดยโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา เพื่อขอศาลให้คุ้มครองแก่โจทก์ ให้ดำเนินการทำธุรกิจต่อไปได้อย่างปกติ โดยฝ่ายจำเลยจะต้องไม่ขัดขวางโดยการกระทำใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะก่อให้เกิดการขัดขวางในการทำธุรกิจแบบปกติ รวมตลอดถึงให้ความคุ้มครองบริษัทคู่ค้ากับโจทก์ และพนักงานของบริษัทคู่ค้ากับโจทก์ด้วย

ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า... เหตุที่โจทก์จะยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาก็ตาม แต่คณะกรรมการของจำเลย ก็แสดงเจตนาไว้โดยชัดแจ้งแล้วว่า จะฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ ทั้งยังอาจให้ข่าวแก่สื่อมวลชนอีก อันเป็นผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของโจทก์ เพราะย่อมอยู่ในสภาวะที่ไม่มีความแน่นอน ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนของผู้ที่จะมาประกอบธุรกิจ เป็นคู่ค้ากับโจทก์ โจทก์จะได้รับความเสียหายทั้งๆ ที่ยังไม่ทราบว่าสัญญามีผลผูกพันกันอย่างไรหรือไม่??? ตลอดจนอาจเป็นผลกระทบต่อเนื่อง ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศที่ต้องขาดรายได้ กรณีนับว่ามีเหตุจำเป็นเห็นเป็นการยุติธรรม และสมควรที่จะนำวิธีคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้บังคับ

ชัดเจนขนาดนี้ จะไม่ให้บอร์ด ทอท.“เสียหน้า” ได้อย่างไร???

ทันทีที่ข่าวชิ้นนี้ถูกรายงานออกไป ก็มีปฏิกิริยาเชิงแบ่งรับแบ่งสู้จาก ผู้บริหาร ทอท.พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กก.ผอ.ใหญ่ ทอท. บอกในวันเดียวกันว่า... ทอท. พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล แต่ก็ยังไม่ทิ้งลูกเล่น ก่อนบอกกับนักข่าวว่า... แต่จะขอนำเรื่องการรับเงินหลักประกันส่วนแบ่งรายได้เข้าหารือในที่ประชุมบอร์ด ทอท. เป็นครั้งที่ 3 ว่า...บอร์ด ทอท. จะมีมติให้รับเงินดังกล่าวหรือไม่???

หยั่งว่า...พล.อ.ท.ชนะ คงจำเป็นที่จะต้องออก “ลูกเล่น”เช่นนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นบอร์ด ทอท.เอง ที่สร้างปัญหาให้กับ ทอท.และฝ่ายบริหาร

เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งเช่นนี้ ก็ต้องให้บอร์ด ทอท. ยุคของ พล.อ.สพรั่ง “รับลูก” ไปเล่นต่อ “เรื่องนี้ต้องเอาเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ด ว่าจะอนุมัติให้รับเงินหรือไม่ ในเมื่อศาลมีคำสั่งให้รับ ก็ต้องดูว่าบอร์ดจะมีความเห็นอย่างไร มติบอร์ดเรื่องนี้จะต้องเป็นเอกฉันท์ หากให้รับก็รับ แต่ถ้าไม่ให้รับก็เป็นเรื่องของบอร์ด เพราะเรื่องการรับรู้รายได้มีกำหนดถึงสิ้น ก.ย.นี้ ซึ่งตอนนั้นก็คงจะมีบอร์ดใหม่มาแล้ว” พล.อ.ท.ชนะ ให้เหตุผลสนับสนุนพร้อมกันนี้

เขาย้ำด้วยว่า... หากรัฐบาลใหม่เสนอให้ทอท.ทำการเจรจากับกลุ่มคิงเพาเวอร์ เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวก็พร้อมเจรจาทันที เพราะ ทอท.ก็เป็นองค์กรที่ประกอบกอบธุรกิจเช่นเอกชนที่หวังผลกำไรเช่นกัน

ถือเป็นการ “ฟาดดาบซ้ำ” ไปหาใครบางคน ที่เคยออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า... ทอท.เป็นบริการสาธารณะ... ไม่จำเป็นต้องแสวงหาผลกำไร

อย่างไรก็ตาม กก.ผอ.ใหญ่ ทอท.แสดงความเห็นว่า... การรับเงินหลักประกันส่วนแบ่งรายได้ที่กลุ่มคิง เพาเวอร์นำมาวางไว้ จะเป็นผลดีต่อ ทอท.เพราะจะได้นำเงินดังกล่าวมารับรู้รายได้และดำเนินธุรกิจของ ทอท.ต่อไปโดยเชื่อว่า...การรับเงินจำนวนนี้ จะไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีอย่างแน่นอนถึงตรงนี้...

ใครที่ทำอะไรไว้กับใคร โดยเฉพาะกับผู้ถือหุ้นพนักงาน และผู้บริหารทุกระดับของ ทอท.คงถึงเวลาที่ต้องชดใช้ ในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำกันเอาไว้บ้างแล้ว???

หลังเงาเมฆทะมึนและห่าพายุฝนที่พัดกระหน่ำ ก็มักจะมีแสงนวลๆ ฉาดฉายสอดส่องลงผืนดิน...เพื่อคืนความชุ่มฉ่ำให้สรรพสัตว์ มวลพืชพรรณ และสิ่งมีชีวิต ได้อยู่เย็นเป็นสุขเช่นปกติ... ธรรมดา!!!.


จาก Thai E-News