WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 31, 2008

นพดลรับมีแนวโน้มได้นั่งรมว.ต่างประเทศ

'นพดล' เผย1-2 วันนี้น่าจะทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อครม.ได้ ระบุยังติดปัญหามฌ.รอผ่านกระบวนการของพรรควันนี้ รับมีแนวโน้มได้นั่งรมว.ต่างประเทศ พร้อมนัดพรรคร่วมรัฐบาลถกนโยบายรัฐบาลพรุ่งนี้

นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน (พปช.) ให้สัมภาษณ์ “ข่าวเช้าโมเดิร์นไนน์” ถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในส่วนของ พปช. นิ่งหมดแล้ว รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยส่งรายชื่อมาแล้วเช่นกัน เข้าใจว่าเหลือเพียงพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ต้องไปดำเนินการตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคให้เรียบร้อยก่อน ซึ่ง พปช.ต้องการให้เป็นเช่นนั้นด้วย เพื่อความเป็นปึกแผ่น และไม่เกิดปัญหาเสถียรภาพตามมา อย่างไรก็ตาม น่าจะทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อ ครม.ได้ใน 1-2 วันนี้ เพราะประชาชนรอมานานมากที่จะมีรัฐบาลมาทำงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ยาเสพติด และการศึกษา

เมื่อถามว่า นายนพดล มีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โผนี้ชัดเจนแล้วหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ต้องรออีก 2-3 วัน คงรู้ แต่คิดว่าแนวโน้มคงเป็นลักษณะนั้น ตนไม่กล้าพูด เพราะนายกรัฐมนตรียังไม่ได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวาย โดยส่วนตัวแล้วได้ตำแหน่งใดจะทำงานให้ดีที่สุด

นายนพดล กล่าวถึงการร่างนโยบายรัฐบาลด้วยว่า ในส่วนของ พปช. เสร็จแล้วประมาณร้อยละ 90 ซึ่งนโยบายบางส่วนต่อยอดพรรคที่ถูกยุบไป และจะได้เห็นกลับมาแน่นอน เช่น กองทุนหมู่บ้าน งบประมาณพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน (SML) หวยบนดิน ผู้ว่าฯ ซีอีโอ โครงการโคล้านตัว กองทุนกู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ทั้งนี้ คงต้องฟังแนวนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งได้นัดหารือในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.)

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำให้เห็นผลใน 2-3 เดือนนี้ เช่น ปัญหาภาคใต้ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนในเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เอกชนได้เห็นทิศทาง การดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท พิจารณายกเลิกมาตรการกันทุนสำรองร้อยละ 30 ของธนาคารแห่งประเทศไทย