การเมืองกำลังอยู่ช่วงเปลี่ยนฉาก
การเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลเก่าไปสู่รัฐบาลใหม่ ทำให้การบริหารประเทศต้องกลายเป็นสุญญากาศไปช่วงหนึ่ง
ถึงแม้คณะรัฐมนตรีชุดเก่ายังไม่พ้นตำแหน่ง แต่ตามมารยาทต้องหยุดการทำงานทุกอย่าง
ส่วนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก็ยังเริ่มทำงานไม่ได้ เพราะต้องรอเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณเสียก่อน
แต่ในช่วงที่รัฐบาลตัวจริงยังไม่มี ก็ยังมี “รัฐบาลเงา” ของฝ่ายค้าน เพิ่มความคึกคักขึ้นอีกหลายกิโลขีด
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พลาดเก้าอี้นายกฯไปเส้นยาแดงผ่าแปด ได้ประกาศตั้ง ครม.เงาประกบ ครม.จริงครบทุกตำแหน่ง!!
เพื่อท้าพิสูจน์ว่า “รัฐบาลจริง” กับ “รัฐบาลเงา” รัฐบาลไหนทำงานเก่งกว่า??
นายกฯจริง (สมัคร) กับ นายกฯเงา (อภิสิทธิ์) ใครควรนั่งเก้าอี้นายกฯคนใหม่??
นี่คือการประกาศสงครามตั้งแต่ยังไม่เริ่มระฆังยกหนึ่ง
ยุทธการเงาอำมหิตแค้นฝังหุ่นจะดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหน คงไม่ต้องบรรยายให้ปวดเมื่อยต่อมลูกหมาก
แต่สำหรับวันนี้...ต้องขออนุญาตพูดถึงท่านนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นการส่งท้ายก่อนรัฐบาลขิงแก่จะเก็บฉาก
“แม่ลูกจันทร์” ดีใจที่นายกฯ พล.อ. สุรยุทธ์ ยุติบทบาทนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
“บิ๊กแอ้ด” เปิดใจยืนยันถ้าย้อนอดีตกลับไปได้ จะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด!!
เรียกว่าเข็ดจนกระดูกเข้าหม้อว่างั้นเหอะ
เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นงานที่หนักหนาสาหัส
โดยเฉพาะเป็นนายกฯในช่วงสถาน-การณ์ไม่ปกติ ไม่ใช่เรื่องสนุก
ถึงแม้จะทุ่มเททำงานเต็มที่ แต่การแก้วิกฤติประเทศหลายอย่างก็ยังไม่สำเร็จ
แต่หนึ่งปีสี่เดือนที่ผ่าน ก็มั่นใจว่าไม่ได้สูญเปล่า
อะไรที่เป็นนโยบายดีๆที่รัฐบาลขิงแก่ เริ่มต้นไว้ ก็อยากขอให้รัฐบาลใหม่ช่วยสานต่อ
ก็อย่างที่ “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นไว้ว่าคนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ นายกฯสุรยุทธ์ ในบทบาทนายกรัฐมนตรีมีจุดอ่อนหลายอย่าง
โดยเฉพาะการทำงานส่วนใหญ่ใช้เกียร์ ว่างเป็นหลัก
การบริหารประเทศไม่มีเป้าหมาย ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่เป็นระบบ
การตอบสนองความเดือดร้อนประชาชนก็เชื่องช้าเกินไปหน่อย
ก็สมแล้วกับฉายาฤาษีเลี้ยงเต่า
แต่ผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลขิงแก่คือการนำประเทศไทยกลับคืนสู่ระบอบประชา-ธิปไตยได้อย่างราบรื่นตามกรอบเวลาที่กำหนด
นี่คือภารกิจสำคัญที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษ
ถ้านายกฯไม่ใช่ “พล.อ.สุรยุทธ์” ก็ไม่แน่ใจว่าวันนี้ ประเทศไทยจะได้รัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งหรือเปล่า??
ถ้านายกฯไม่ใช่ “พล.อ.สุรยุทธ์” วิกฤติสังคมแตกแยกอาจจะบานไม่หุบ??
อย่างน้อย...ผลจากเกียร์ว่าง ก็ทำให้ชาติบ้านเมืองผ่านช่วงวิกฤติไปได้ในระดับหนึ่ง
“แม่ลูกจันทร์” ไม่ลืมสิ่งดีๆที่นายกฯคนนี้ได้สร้างไว้แก่บ้านเมืองในช่วงหนึ่งปีกับสี่เดือนที่ผ่าน
ถ้าจะให้คะแนนเฉลี่ยของ “พล.อ. สุรยุทธ์” ก็ไม่แพ้อดีตนายกฯคนอื่นๆ
ในแง่ความตั้งใจ...เอาไป 9 เต็ม 10!!
ในแง่ความเป็นผู้นำ เอาไป 8 เต็ม 10!!
ในแง่ฝีมือบริหารงาน เอาไป 6 เต็ม 10!!
ในแง่ความซื่อสัตย์สุจริต เอาไป 9 เต็ม 10!!
รวมคะแนน 4 ด้าน ได้ 32 จาก 40 ถือว่าสอบผ่าน
น่าเสียดาย...ถ้าไม่มีกรณีบ้านเขายายเที่ยงเป็นตัวถ่วง...ภาพรวมของนายกฯ บิ๊กแอ้ด จะใสปิ้งยิ่งกว่านี้อีก.
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว