การเมืองยุคใหม่เริ่มเดินหน้าบรรยากาศอบอุ่นดี
เพราะช่วงนี้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีซ้อนกัน 2 คน
คนเก่า (เบอร์ 24) กำลังจะพ้นตำแหน่งไป คนใหม่ (เบอร์ 25) กำลังจะเข้ามารับไม้แทน
หวังว่าการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลลากตั้งไปสู่รัฐบาลเลือกตั้ง จะไม่ทำให้ ประชาชนผิดหวังอย่างที่แล้วๆมา
อดีตที่ผ่านไปคือบทเรียน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อให้อนาคตของประเทศไทยคืนสู่ปกติโดยเร็ว!!
การที่ “อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติ” กับ “อดีตนายกฯที่ถูกปฏิวัติ” ยกหูโทรศัพท์คุยกัน เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ขาดหายไปหนึ่งปีกับสี่เดือน
“แม่ลูกจันทร์” แปลกใจเล็กน้อย แต่ ก็ขออนุโมทนา
เพราะความสมานฉันท์คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. และกำลังจะเป็นอดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ยอมรับว่าเพิ่งได้คุยเปิดใจกับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร โดยมีคนกลางเป็นผู้ประสานการเจรจา
เป็นการพูดคุยฉันพี่ฉันน้อง ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวกับ คมช.
เพียงแต่พี่บังอยากบอกน้องแม้วว่า แม้สถานการณ์เปลี่ยนไปแต่ความรักผูกพันระหว่างพี่น้องยังไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวของเราสองคน
ถามว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนไม่ได้เป็นรัฐบาล พล.อ.สนธิ อดีตประธาน คมช. จะคุยโทรศัพท์เคลียร์ใจกับอดีตนายกฯที่ตัวเองโค่นล้มหรือไม่??
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าไม่คุย
เพราะถ้าแผนบันได 4 ขั้นเข้าเป้า พรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาล ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมก็คงไม่ผิดฝาผิดตัว??
แต่ในเมื่อผลเลือกตั้งไม่เข้าเป้า อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติ ผู้ใช้แผนปฐพี 149 โค่นล้มรัฐบาลไทยรักไทย ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน
ยอมให้พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลตามกติกา
เป็นอันว่าภารกิจของ คมช.ต้องจบเกม
เมื่อเกมจบแล้วการพูดคุยปรองดองกันได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี
ดีทั้งส่วนตัวและดีสำหรับส่วนรวม
พล.อ.สนธิ บอกว่า การปฏิวัติที่ผ่านมาประสบความสำเร็จหรือไม่อยู่ที่สังคมจะพิจารณา
สำหรับ “พล.อ.สนธิ” เห็นว่าการที่ คมช.
คืนอำนาจให้ประชาชนจนมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยถือเป็นความสำเร็จของการปฏิวัติ 19 กันยายน
ทุกฝ่ายต่างได้บทเรียนจากการปฏิวัติไปพอสมควร
รัฐบาลใหม่ก็ยืนยันจะไม่มีการล้างแค้นใดๆ จะตั้งหน้าทำงานเพื่อประชาชนอย่างเดียว
ฝ่าย คมช.เองก็ยอมรับรัฐบาลที่มาจากประชาชน กองทัพพร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีเงื่อนไขต่อรอง
ส่วนข้อหาทุจริตต่างๆ ก็ปล่อยให้ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยไม่ มีการแทรกแซง
ถ้าทุกฝ่ายยึดมั่นตามหลักการ วิกฤติการเมืองก็จะคลี่คลาย
สำหรับตัว “พล.อ.สนธิ” การลงจาก หลังเสือได้อย่างปลอดภัยก็ถือว่าโชคดี
ขอให้ยอมรับความจริงว่าการปฏิวัติไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการเมือง
แต่ทำให้บ้านเมืองยิ่งเสื่อมทรุดลง
นักปฏิวัติไม่เคยได้เป็นวีรบุรุษของประ-ชาชนในระยะยาว
บั้นปลายของการปฏิวัติทุกครั้งไม่เคยจบอย่างสวยงาม
คนที่ร่วมกันปฏิวัติมักจะแตกคอกันเอง
ความคิดจะสืบทอดอำนาจเผด็จการไม่เคยสำเร็จซักครั้งเดียว
ขอให้การปฏิวัติครั้งนี้เป็นครั้งสุด ท้ายเถอะนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว