สัมภาษณ์พิเศษ
ท่ามกลางความอึงอลที่เกิดขึ้นในบ้านเลขที่ 70/98 หมู่บ้านโอฬาร ซอยนวมินทร์ 81 ระคนกับความปีติยินดีของญาติมิตร ผองเพื่อน รวมถึงแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "สมัคร สุนทรเวช" เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ได้ปรากฏภาพของ "บุรุษผมขาว" ผู้หนึ่ง ซึ่งใครเห็นเป็นต้องชะงักเพราะรูปร่างหน้าตาถอดแบบกันมากับเจ้าของบ้าน
จะแปลกและแตกต่างก็อยู่ที่ "เขา" อยู่ในอิริยาบถอ่อนโยน เพราะเจ้าตัวกำลังอุ้มหลานตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับหลบความวุ่นวายจากภายนอก มาอยู่ในห้องนั่งเล่นผนังกระจก ซึ่งสามารถมองเห็นความเป็นไปที่เกิดขึ้นในวันแห่งความสำเร็จของ พี่ชาย
เขาคือ มโนมัย สุนทรเวช ทายาทคนที่ 5 ของ เสวกเอก พระยาบำรุงราชบริพาร กับ คุณหญิงบำรุงราชบริพาร
"มโนมัย" ระบายยิ้ม ก่อนระบายความรู้สึกในฐานะ "น้องนายกฯ" ว่า "ดีใจมากๆ เพราะไม่คิดว่า จะมีวันนี้ ผมคิดว่าทางเดินของคุณสมัครจะสิ้นสุดลงตรงการเป็น ส.ว.กทม. ก็นึกว่าจะจบแค่นั้น"
ก็ต้องถือว่าอุบัติเหตุทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติ ต่อด้วยการยุบพรรคไทยรักไทย จนทำ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกฯ) ต้องมาขอให้คุณสมัครไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) คือโอกาสที่ทำให้ท่านได้ขึ้นเป็นนายกฯ แบบเหลือเชื่อ!!
"สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณสมัครในวันนี้ จึงเป็นการ ผสมผสานกันระหว่างความสามารถและพรสวรรค์ของคุณสมัครที่สั่งสมมานาน บวกกับพรรคพลังประชาชน เป็นพรรคที่พรรคพวกของ พ.ต.ท. ทักษิณสร้างขึ้นมา เมื่อคุณสมัครกระโดดเข้ามาสู่ แบรนด์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำเอาไว้ จึงมีโอกาส ได้เป็นนายกฯ ถ้าลงเอง หรือไปลงแบรนด์อื่น ผมเชื่อว่าคงมาไม่ถึงจุดนี้เหมือนกัน"
หากยังจำกันได้ สโลแกน "ถ้าจะใช้ผม กรุณาเลือกผม" เป็นสโลแกนประจำตัวของ "สมัคร" การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจเลือก "สมัคร" มาใช้งาน เป็นหัวหน้าพรรคขัดตาทัพ จนถูกตราหน้าว่าเป็น "นอมินี" นั้น "มโนมัย" บอกว่า การเป็นนอมินีไม่ใช่เรื่องเสียหาย ซึ่งตัวของ "สมัคร" เองก็เคยอรรถา ธิบายเรื่องนี้ไปแล้ว
"ผมคิดว่าท่านเลือกถูกคนนะ เพราะถ้าไปเลือกคนอื่นอาจมีวิธีการต่อสู้ หรือการหาเสียงสู้คุณสมัครไม่ได้ ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าคุณสมัครเก๋าเกมกว่า ส่วนเรื่องนอมินี หรือไม่นอมินีก็พูดกันไป ไม่มีปัญหา"
อย่างไรก็ตาม "มโนมัย" ยอมรับว่าเส้นทางขึ้นสู่บัลลังก์อำนาจของ "สมัคร" ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่อน เพราะต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง เมื่อครั้งกำลังจะพ้นจากเก้าอี้ ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่ง "สมัคร" ยืนยันกับสมาชิกในครอบครัวว่า "มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ใดๆ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด"
สิ่งที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่า ณ เวลานี้คือ ภารกิจบนบ่าของประมุขฝ่ายบริหาร
"ภารกิจเดียวที่คุณสมัครเคยบอกว่าอยากจะทำคือ การคืนความเป็นประชาธิปไตยให้ประเทศ เพราะตั้งแต่ปฏิวัติรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณมา ก็ไม่เห็นว่าคณะยึดอำนาจจะทำอะไรให้ประเทศชาติดีขึ้น ตรงกันข้ามมีแต่ทำให้เลวลงทั้งภาวะเศรษฐกิจ สังคม และความสมานฉันท์ คุณสมัครจึงต้องการแก้ไขปัญหาการเมืองด้วยการเมือง นี่คือความตั้งใจของเขา
"แต่ก็มีคนมาดูถูกคุณสมัครว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้หรอก มองว่าเป็นคนปากคอเราะราย ชอบทะเลาะกับคนนั้นคนนี้โดยเฉพาะกับสื่อ เลยคิดว่าคุณสมัครจะไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องการบริหารต้องแยกจากกัน"
อย่างไรก็ตาม "มโนมัย" ก็เห็นพัฒนาการของพี่ชายว่า "อ่อนลง" แล้ว
"คุณสมัครเองก็พยายามลดโทนลงแล้วนะ เรื่องปะทะรายวันก็เพลาลงแล้วเขาบอกว่าเขาจะเป็นนิว สมัคร!"
นิยามคำว่า "นิว สมัคร" ในความเห็นของ "มโนมัย" ก็คือ นายกฯคนใหม่ จะลดการให้สัมภาษณ์ในลักษณะปะ-ฉะ-ดะให้น้อยลง และที่สำคัญคือ นายกฯ ไม่จำเป็นต้องพูดเองทุกเรื่อง
"นายกฯ สามารถส่งคนในระดับรองๆ ลงไป ให้สัมภาษณ์มากขึ้น และเวลาไปไหนต่อไหนก็จะไม่มีภาพเอาไมค์ไปจ่อที่ปาก ถ้านายกฯ จะให้สัมภาษณ์ก็น่าจะมีโพเดียมอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้คงจะใช้รายการ "สนทนาประสาสมัคร" ในทุกเช้าวันอาทิตย์เป็นช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน"
"มโนมัย" ทิ้งท้ายไว้ว่า ที่ไปพาดหัวข่าวว่า "สมัครจะอยู่ได้ไม่นาน" นั้น เจ้าตัวอยากให้เติมอีกนิดว่า "คุณสมัครจะอยู่ไม่นาน อย่างน้อยไม่เกิน 4 ปี" ฟังกันชัดๆ จากคนใกล้ตัวผู้นำรัฐบาลอย่างนี้ 6 พรรคร่วมคงจะแฮปปี้ แต่เห็นทีว่าพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวในสภาอย่าง "ประชาธิปัตย์" จะเซ็งไปอีกนาน