ที่มา thaifreenews
โดย tongtata
วันที่ 10 เมษายน 2553 การปะทะกันของมวลชน เสื้อแดง กับกองกำลังทหารของ ศอฉ. บนถนนราชดำเนินนอก
ถูกถ่ายทอดออกทางโทรทัศน์ตั้งแต่ตอนบ่าย ภาพและเสียงที่ได้ยินเหมือนหนังบู๊ แต่เมื่อมีความตายเกิดขึ้น
มีการนองเลือดจริง ๆ แม้บางช่วงเวลามีเสียงเพลงเหมือนในหนัง แต่การสูญเสียทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้ว่า
นี่คือชีวิตจริง ตายจริง ๆ มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว
แต่อำนาจไม่เข้าใครออกใคร คนที่ต้องการปกป้องอำนาจ คงสั่งให้สลายการชุมนุมให้ได้ และคงไม่สั่งให้ฆ่าคน
แต่เมื่อมีคนเสียชีวิต ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงขึ้นไปก็ต้องรับผิดชอบต่อคำสั่งของตน บางเรื่องอาจอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ
แต่บางเรื่องก็เป็นการจงใจสังหารคนมือเปล่า
ผู้รู้ในวงการทหารบอกว่า เรื่องที่น่าอับอายที่สุดคือการที่หน่วยสไนเปอร์ใช้อาวุธร้ายแรงมาซุ่มยิง ผู้ชุมนุมมือเปล่า
กลางถนน โดยเฉพาะกรณี นายวสันต์ ภู่ทอง ช่างเย็บผ้าชาวสมุทรปราการ อายุ 39 ปี
ซึ่งมีภาพวิดีโอขณะเกิดเหตุแพร่ไปทั่วโลก
คนทั้งโลกมองเห็นภาพนายวสันต์ถือธงชาติอยู่กลางถนนราชดำเนิน และถูกยิงสมองกระจายล้มลงนอนอยู่บนพื้น
มีธงชาติพาดอยู่บนหน้าอก คนที่ยิงมองจากกล้องที่ติดปืน ก็เห็นอยู่แล้วว่านายวสันต์ไม่มีอาวุธใด ๆ นอกจากธงชาติ
และนายวสันต์ก็คงมองไม่เห็นคนซุ่มยิง ซึ่งอยู่ไกลเป็นร้อย ๆ เมตร เขาไม่มีทางที่จะถือธงไปทำร้ายคนซุ่มยิงได้
นี่จึงไม่ใช่การป้องกันตัว แต่เป็นการจงใจฆ่า จะฆ่าเพราะอะไรไม่มีใครตอบได้ ภาพสยดสยองนี้แพร่ไปทั่วโลก
และจะยังคงอยู่เป็นสิบ ๆ ปี วันนี้ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนในโลก เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์แล้วคลิกไปที่เหตุการณ์
10 เมษายน ในประเทศไทย คุณจะได้เห็นภาพนี้ มันเป็นการประจานทุกคนที่เกี่ยวข้อง ชี้ให้เห็นถึงการด้อย
ความสามารถในการบังคับบัญชา การกำหนดเปาหมายและภารกิจ การอบรมสั่งสอนผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งในเรื่องจริยธรรม และการควบคุมอารมณ์