ที่มา ประชาไท
“ป๋าเปรม” เมิน นปช. ฟ้องหมิ่นสถาบัน ขอเรื่องจบหยุดพูดถึงสถาบัน ด้าน มทภ. 1 ชี้ไม่สมควรฟ้องป๋าหมิ่น ยันภักดีสถาบันสูงสุดแล้ว แนะแยกเรื่องการเมืองกับสถาบัน ขณะที่โฆษก ทบ.เตือนผู้ใหญ่เพื่อไทยต้องปรามแดงจาบจ้วง วอนคนไทยอย่าเชื่อลมปาก นปช."มาร์ค" หนุน ผบ.ทบ.ฟ้องคดีหมิ่นสถาบัน นัดคุยกกต.เตือน กม.หาเสียงระวังหมิ่น
16 เม.ย. 54 - พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กำลังแปลเอกสารลับที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริการายงานกลับประเทศ และถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์วิกิลีกส์เป็นภาษาไทย เพื่อจะแจกจ่ายให้กับคนเสื้อแดงทั่วประเทศนำไปดำเนินคดีกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในข้อหาหมิ่นสถาบันว่า เป็นเรื่องเก่าที่เขาพูดกันมานานแล้ว ซึ่งไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง เป็นแค่เพียงเอกสารแผ่นหนึ่งเท่านั้น และเท่าที่ทราบ พล.อ.เปรม ท่านไม่ได้ว่าอะไรในเรื่องนี้ เพราะไม่มีผลลบอะไรกับท่าน อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เรื่องนี้จบลงตรงนี้ ไม่อยากให้เอาไปพูดต่อๆ กัน เพราะจะกลายเป็นว่าคนที่พูดเข้าข่ายหมิ่นสถาบันไปด้วย
พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ในฐานะที่ พล.อ.เปรม เป็นที่เคารพรักของทหารทุกคน เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว คนไทยทุกคนก็ทราบดีว่า พล.อ.เปรม มีความจงรักภักดีสูงสุด ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ดังนั้นผู้ที่จะดำเนินการฟ้องร้องท่าน ถือว่าไม่สมควร และไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่งที่ไปกล่าวหาว่าท่านหมิ่นสถาบัน ตนไม่เข้าใจว่า เขาเอาเนื้อหาในเอกสารฉบับนั้นไปตีความกันอย่างไร ถึงออกมาในลักษณะเช่นนี้ เพราะ พล.อ.เปรม เป็นบุคคลที่มีความจงรักภัดดีต่อราชวงศ์จักรี ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะถูกฟ้องร้องด้วยข้อหาหมิ่นสถาบัน
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงตั้งใจทำลายองค์กรหลักๆ ที่ดูแลปกป้องสถาบัน เช่น กองทัพ สถาบันองคมนตรี หรือไม่ พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า เป็นเรื่องของคนบางคน บางกลุ่มเท่านั้น ความนิยมชมชอบทางการเมืองก็ว่ากันไป แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่ม ที่มีความคิดแอบแฝง อาศัยการชุมนุมเข้าไปหมิ่นหรือโจมตีสถาบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรกระทำ การแสดงความคิดเห็นทางด้านการเมืองสามารถพูดได้ และต้องไม่บิดเบือนความจริง แต่เราต้องแยกให้ออกระหว่างเรื่องการเมือง กับสถาบัน การที่จะมีใครคนใดหรือกลุ่มใดออกมาจาบจ้างสถาบัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควร
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการประโคมข่าวการหมิ่นสถาบัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลในการเลือกตั้ง พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า คงจะไม่ใช่ ทหารไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ดำเนินการฟ้องร้องแกนนำ นปช.นั้น เป็นเรื่องของส่วนบุคคล ไม่ได้ฟ้องร้องคนอื่นที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น และการดำเนินการเช่นนี้ เพราะผู้บัญชาการทหารบก ยอมรับไม่ได้ที่จะมีใคร คนใดคนหนึ่งออกมาพูดจาบจ้วงสถาบัน
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทั้ง พล.อ.เปรม ผู้บัญชาการทหารบก และกองทัพ มีจุดยืนเดียวกัน คือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และทางกองทัพเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พล.อ.เปรม ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทมาตลอดชีวิตของท่าน ใครจะแปลเจตนาอย่างไรเราไม่สน เรากังวลเพียงแต่ว่าในกลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมือง ถ้ามีใครคนใดที่หมิ่นสถาบัน ผู้ใหญ่ในพรรคจะต้องออกมาดูแล ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องใครพูดก็รับผิดชอบเอง ส่วนตนก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน อยู่เฉยๆ ผู้ใหญ่เหล่านั้นต้องออกมาปราม
เมื่อถามว่า เป็นการเอาคืนกองทัพหรือไม่ ที่ไปฟ้องร้องแกนนำ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา เจตนาของเราคือรับใช้ ปกป้องสถาบัน ซึ่งคนว่าสังคมไทยรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ผู้บัญชาการทหารบก ก็ขอวิงวอน ประชาชนให้พิจารณาเรื่องราวต่างๆ โดยยึดข้อเท็จจริง อย่าไปเชื่อลมปากของคนอื่น และช่วยกันปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก นอกจากนี้ ท่านได้เน้นย้ำให้กำลังพลในกองทัพ และครอบครัวช่วยกันดูแลและใส่ใจในเรื่องนี้
"มาร์ค" หนุน ผบ.ทบ.ฟ้องคดีหมิ่นสถาบัน นัดคุยกกต.เตือน กม.หาเสียงระวังหมิ่น
เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 16 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักการเมืองมองว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เดินหน้าฟ้องคดีหมิ่นสถาบัน เป็นสัญญาณหนึ่งที่อาจทำให้ไม่มีการเลือกตั้งว่า เป็นคนละเรื่องกัน เรื่องนั้นเป็นการรักษากฎหมาย ซึ่งกองทัพ ตำรวจและทุกคนมีหน้าที่ช่วยกันดูแล เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนขอให้กกต.เข้ามาช่วย โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ทำหนังสือถึงกกต. อยากให้กกต.มีข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่นำสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมืองในทุกแง่ทุกมุม ซึ่งไม่ควรจะมี เพราะพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง
นายกฯ กล่าวว่า การที่ให้สลค.ทำเช่นนั้นเพื่อให้กกต.ออกเป็นข้อกำหนดที่ชัดเจน พรรคการเมืองและนักการเมืองจะได้ทราบและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหา การมีพรรคหรือนักการเมืองคนใดนำไปปราศรัย กกต.จะได้เข้ามาดูแลอีกทางหนึ่ง เช่นเดียวกับวันที่ 10 เม.ย. ที่คนเสื้อแดงนำไปปราศรัยบนเวที ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ รัฐบาลจะไม่มีการยื่นเรื่องให้กกต.ยุบพรรค แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ และตนไม่คิดว่าจะนำเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ มาโยงการเมือง เป็นเพียงสะท้อนความคิดเห็นและความเข้มแข็งของตัวผบ.ทบ.
*อัพเดทข่าว 21.00 น.