ที่มา thaifreenews
โดย prainn
"ลดงบประมาณทหารอย่าใช้ภาษีเข่นฆ่าประชาชน"
วันนี้(12 เมษายน 2554)เวลาประมาณ 13.45 น. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)ได้อ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือต่อตัวแทนกระทรวงกลาโหม เพื่อชี้ให้เห็นว่าขณะที่ทั่วโลกจมอยู่กับความแร้นแค้น ความยากจน และเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงวิกฤติในด้านต่างๆ
รัฐบาลกับให้ความสนใจกับความทุกข์ยากเหล่านั้นเป็นเรื่องรองและตัดงบประมาณในการช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มงบประมาณทางทหารซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับวิกฤติการณ์เหล่านี้แต่อย่างใด สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอล์กโฮล์ม(Stockholm Internationnal Peace Research Institute) เปิดเผยว่างบประมาณทหารของโลกประจำปี 2553 รวมทั้งโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 ล้าน 6 แสน 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 50 ล้านล้านบาท
สำหรับประเทศไทยงบประมาณกลาโหมประจำปี 2551มีจำนวนถึง 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 39 ของโลก และสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย หรือเป็นรองเพียงแค่ประเทศเวียตนามหากคิดจากงบประมาณทหารต่อสัดส่วนของจีดีพี ที่สำคัญ คือ อาวุธเหล่านี้มาจากภาษีประชาชน แต่กลับถูกนำมาเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ในประเทศ
สนนท.จึงเรียกร้องให้กองทัพอย่าเป็นเครื่องมือของเครือข่ายจารีตนิยม อำนาจนิยม เพื่อใช้ในการปราบปรามประชาชนควรเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงกับประชาชน โดยการคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพต้องมาจากการสรรหาของสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่โดยคณะกรรมาธิการทหารของกองทัพ หรือบุคคลผู้มีบารมีนอกกองทัพ รวมถึงระบบการศึกษาของทหารต้องปลูกฝังให้เห็นคุณค่าในการพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพของประชาชนไว้เป็นอันดับหนึ่ง และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในกองทัพ
ตัดงบประมาณทหาร หยุดใช้ภาษีเข่นฆ่าประชาชน
ด้วยความสมานฉันท์
12 เมษายน 2554
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)
และองค์กรสมาชิก
ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้มีการเผาแบงค์กงเต็กและรูปรถถัง ระเบิด เครื่องบิน เรือดำน้ำ ที่หน้ากระทรวงกลาโหมเพื่อเป็นสัญญลักษณ์ให้รู้ว่า งบประมาณจำนวนมหาศาลในประเทศที่ตกอยู่กับกองทัพไม่ได้ต่างไปจากเศษกระดาษที่ถูกเผา โดยประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ใดๆจากอาวุธเหล่านี้นอกจากนำมาเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ภาพทั้งหมด >>>https://picasaweb.google.com/108313507613178447448/12201102#