ที่มา Thai E-News
โดย ชำนาญ จันทร์เรือง
13 เมษายน 2554
จากการลุกขึ้นเหน็บแนมฝ่ายค้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่า รัฐบาลช่วยเหลือน้ำท่วมล่าช้า แต่นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กลับลงพื้นที่ถึงประชาชนก่อน และหากสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงจะได้รับเลือกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ควรที่จะเชิญนายสรยุทธ์มาเป็นได้
ประสมเข้ากับการโวยวายของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่าสื่อมวลชนที่ลงไปทำข่าวทุกวันนี้ ทำเพื่อโปรโมทตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อชาติ พยายามทำเหมือนรัฐบาลไม่ทำอะไร ดังนั้น รัฐบาลต้องทบทวนแผนประชาสัมพันธ์กันใหม่ ช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเชิญ(ความหมายก็คือบีบคอ)สื่อช่อง 9 และ 11 ลงไปทำข่าวการเตรียมสร้างและซ่อมแซมบ้านในพื้นที่ประสบอุทกภัย ทำให้ผมเกิดอาการคลื่นเหียนจนอยากจะอาเจียนออกมา แต่เสียดายของเก่าที่กินเข้าไปแล้วจะเสียของ ก็เลยต้องกลั้นไว้
เรื่องของการเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นของพรรคประชาธิปัตย์นี้ผมได้ยินมานานแล้ว ไม่ได้แปลกใจอะไร แต่ไม่นึกว่าจะใจแคบได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วผมไม่ได้เป็นแฟนรายการเรื่องเล่าเช้านี้ของคุณสรยุทธ์แต่อย่างใดเพราะผมเป็นคนตื่นสาย เว้นเสียแต่ว่าวันไหนมีงานหรือชั่วโมงบรรยาย ส่วนตอนเย็นก็ดูบ้างไม่ดูบ้างแล้วแต่โอกาส หรือดูดูอยู่ก็กดช่องเปลี่ยนเสียหลายครั้งเพราะหัวข้อเรื่องการสนทนาไม่ถูกใจ แต่โดยภาพรวมแล้วผมกลับชื่นชมการกระทำของคุณสรยุทธ์และต้นสังกัดของเขาที่มีวิสัยทัศน์และมีน้ำใจต่อเพื่อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยด้วยกันเองหรือชาวญี่ปุ่น
พูดถึงการศึกษาหรือความรู้ความสามารถของคุณสรยุทธ์ไม่ได้ด้อยกว่านายกรัฐมนตรีของไทยคนไหนหรือนักการเมืองทั้งหลายที่อยู่ในสภาในปัจจุบันนี้ ที่สำคัญคือก็ใจถึงพึ่งได้กว่าหลายๆคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือตัวนายกรัฐมนตรีเองที่ถูกผู้หญิงตัวเล็กๆชูป้ายทวงจักรเย็บผ้าที่รัฐบาลเคยสัญญาว่าจะให้แล้วไม่ให้ว่า “ดีแต่พูด”จนเธอกลายเป็นขวัญใจคนใช้แรงงานไปโดยปริยาย
ครั้นหันมามองพรรคฝ่ายค้านที่ยังหาหัวไม่ได้ สุดท้ายแว่วว่าจะมาลงที่น้องสาวของคุณทักษิณโดยการันตีว่าเป็นผู้หญิงเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น สร้างตัวมาจากตำแหน่งเล็กๆจนไต่เต้าเป็นผู้บริหารระดับ หรือเป็นสายตรงกับคุณทักษิณ น้องสาวพูดก็เหมือนคุณทักษิณพูด ฯลฯ แต่ผมกลับมองว่าอย่างไรก็ตามเธอก็คือร่างทรงของคนอื่น ผมไม่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่เป็นหุ่นกระบอกของใคร
ฉะนั้น ผมจึงขอสนับสนุนให้คุณสรยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์หรือนายกรัฐมนตรีที่เป็นร่างทรงของคนอื่น โดยมีเงื่อนไขว่า
๑)ต้องยกเลิกการบริหารราชการส่วนภูมิภาคที่เป็นปัญหาถ่วงความเจริญของประเทศชาติ และเป็นแหล่งแสวงหาผลประโยชน์จากการแต่งตั้งของ”แก๊งแต่งตั้ง”ทั้งหลาย โดยให้เหลือเพียงการบริหารราชการส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นดังเช่นนานาอารยประเทศทั้งหลายที่เป็นรัฐเดี่ยวและมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ ฯลฯ
๒)ต้องยกเลิกสมาชิกวุฒิสภาที่มาจาการสรรหาจากเทวดาเพียงเจ็ดคนเสีย แล้วให้มีที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด รวมถึงทบทวนถึงที่มาของกรรมการในองค์กรอิสระทั้งหลายด้วย
๓)ต้องสอบสวนให้ได้ผลของการสังหารหมู่ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ทหาร หรือนักข่าวต่างประเทศ แล้วนำตัวมาลงโทษ
๔)ต้องให้ทหารกลับกรมกอง ไม่ต้องเสนอหน้ามายืนยันว่าจะไม่ปฏิวัติเพราะไม่ใช่หน้าที่
๕)ต้องเพิ่มเติม พรบ.ธรรมนูญศาลยุติธรรมมิให้ศาลมีคำพิพากษารับรองคณะรัฐประหารว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์เพราะไม่มีในตำรากฎหมายใดใดในโลกหรือในประเทศไทยบัญญัติไว้เช่นนั้น แต่ศาลฎีกาไทยกลับไปรับรองการกระทำเช่นนั้น ทั้งๆที่เป็นการกระทำความผิดฐานกบฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๓ อย่างชัดเจน
๖)ต้องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันฯ มิให้ใครนำมาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งผู้อื่น โดยกำหนดตัวผู้เสียหายที่มีสิทธิฟ้องคดีให้ชัดเจน มิใช่ปล่อยให้ใครก็ได้ฟ้องมั่วจนเปรอะเช่นในปัจจุบันนี้
๗)ต้องดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องในเนื้อหาที่ปรากฏว่ามีการวิ่งเต้นคดี ไม่ว่าจะเป็นตุลาการหรือเจ้าหน้าที่กรณีคลิปหลุดศาลรัฐธรรมนูญอันอื้อฉาว มิใช่ไปมุ่งดำเนินคดีเฉพาะผู้จัดทำคลิปแต่อย่างเดียว
๘)ต้องจัดให้มีการปฏิรูปที่ดินให้ชัดเจน ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือที่ดินที่ได้เอกสารสิทธิ์มาโดยไม่ชอบเอามาจัดสรรให้ผู้ที่ไม่มีที่ทำกินได้ใช้ประโยชน์
๙)ต้องให้อำนาจตุลาการมีการยึดโยงกับอำนาจอธิปไตยของปวงชน มิใช่หลุดลอยเป็นอิสระจากการตรวจสอบของประชาชนเช่นในปัจจุบัน เอะอะอะไรก็อ้างความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี ทั้งๆที่บางเรื่องไม่เกี่ยวกับการพิจารณาคดีแต่อย่างใดแต่เป็นการบริหารจัดการสำนวนคดี เช่น กรณีศาลปกครองกับ ปปช. หรือกรณีเงินค่ารถประจำตำแหน่งแต่ไม่ได้เอาไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของเงิน ฯลฯ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผู้อ่านคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก มีแต่ซูเปอร์แมนเท่านั้นกระมังที่ทำได้ ซึ่งก็อาจจะจริงแต่อย่าลืมว่าคุณสรยุทธ์เคยเป็นซูเปอร์แมนมาแล้วในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกล้าฉีกตัวมาจากค่ายเนชั่น การจัดทำรายการลักษณะของการเล่าข่าวจนทำให้จากอาตี๋ธรรมดากลายเป็นเศรษฐีหลายร้อยล้าน การระดมความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนผมเชื่อว่าไม่มีคนไทยคนไหนที่ไม่รู้จักคุณสรยุทธ์ ฯลฯ
คงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ เพราะมีหัวพรรคให้เลือก ช็อปปิงอยู่มากมาย แล้วลองออกนโยบายเช่นว่านี้ดูสิครับ รับรองว่าประชาธิปัตย์หรือคุณทักษิณไม่มีทางสู้ได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็หนึ่งเสียง(หนักๆ)จากผมอย่างแน่นอนครับ