ที่มา ข่าวสด เมื่อวันที่ 10 เม.ย. กลุ่มเสื้อแดง นปช. จัดการชุมนุมเพื่อรำลึก 1 ปีการปราบปรามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีผู้เสียชีวิต 20 กว่าราย บาดเจ็บกว่า 800 ราย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีผู้ร่วมชุมนุมหนาแน่นทั้งถนนราชดำเนิน แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ฝนตกลงมา ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักฟังการปราศรัยของแกนนำนปช. ตลอดจนข้ามคืน ไฮไลต์การปราศรัยในช่วงดึก ราว 23.00 น. เป็นการขึ้นเวทีของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์ในวันเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน ที่ไม่คิดว่าผู้ชุมนุมจะถูกยิงสังหาร ในตอนนั้นตนมีอยู่สองทางเลือก คือหนึ่งเจรจาเพื่อหยุดความรุนแรงก่อนแล้วค่อยว่ากัน สองคือปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไป เพราะเมื่อมีคนตายจำนวนมากแล้วรัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ ตนคิดถึงทางเลือกที่หนึ่งแล้วจบ แต่ทางที่สองไม่จบ จึงตัดสินใจขอเจรจาเพื่อให้ทหารหยุดยิง นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ไม่น่าเชื่อและเจ็บปวดใจยิ่งกว่าปีที่แล้ว ก็คือรัฐบาลที่สั่งการให้ปราบปรามผู้ชุมนุม ยังอยู่ในอำนาจ ลอยหน้าลอยตา และยังมาพูดให้เจ็บแค้นใจว่า คนเสื้อแดงฆ่ากันเองอีก จากนั้นเมื่อเกิดเหตุปราบปรามที่ราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยศพ จนถึงวันนี้อาคารห้างสรรพสินค้าที่ถูกเผาใกล้จะซ่อมแซมฟื้นกลับมาได้ คนพูดกันถึงความสะดวกสบายที่จะกลับคืนมา แต่กลับไม่นึกถึงคนที่ถูกฆ่าตายไปโดยไม่มีทางได้กลับมาอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ปวดร้าวใจ และไม่เข้าใจ ในตอนท้าย นายณัฐวุฒิกู่ร้องตะโกนประโยคว่า "ประชาชนถูกฆ่าตาย ประชาชนถูกยิงในเขตอภัยทาน" บางจังหวะตามด้วยคำว่า "ได้ยินไหม" ต่อเนื่องกันหลายสิบครั้ง ขณะที่ผู้ชุมนุมลุกขึ้นยืนปรบมือและโห่ร้องตามอย่างกึกก้องเป็นเวลานาน จากนั้นนายณัฐวุฒิจึงร้องเพลงที่แต่งขึ้นเองระหว่างถูกขัง ให้เพื่อนร่วมต่อสู้ที่จากไป สำหรับการปราศรัยในช่วงเย็น เริ่มต้นด้วยนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขาฯ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวเปรียบเทียบเหตุการณ์การยุบพรรคการเมือง กับการแข่งขันฟุตบอล ว่าเล่นอย่างไร้กติกา มีเจ้าของสนาม กรรมการ ไลน์แมนที่เข้าข้างสโมสรข้างหนึ่งฝ่ายเดียว ตั้งกติกาขึ้นมาเอง เตรียมมอบชัยชนะไว้ให้ตลอดเวลา ส่วนคู่แข่งอีกทีมถูกทั้งมือและเท้ารุมรังแก เล่นอย่างไรก็แพ้ จากนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.และแกนนำคนเสื้อแดง ขึ้นกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงถูกสังหารในวันที่ 10 เม.ย. ด้วยความเจ็บแค้นใจ โดยระบุว่า คนเสื้อแดงถูกกล่าวหาเผาบ้านเผาเมือง เพื่อให้ดูว่าสมควรตายแล้ว ทั้งยังมีสมาชิกที่ถูกคุมขังอยู่ตามเรือนจำในหลายจังหวัด ถูกกล่าวหาจ้องล้มสถาบัน ทั้งๆ ที่ได้แต่เรียกร้องให้ยุบสภา แต่มาตอนนี้ รัฐบาลพูดถึงการยุบสภาราวกับเป็นบุญเป็นคุณ ทั้งที่การยุบสภาก็ไม่คุ้มค่ากับคนที่ตายไป จึงต้องเอาผู้สั่งฆ่าประชาชนมาลงโทษให้ได้ ต่อมาญาติผู้เสียชีวิตได้ขึ้นเวที โดยมีตัวแทนกล่าวไว้อาลัยให้กับการจากไปของบุคคลอันเป็นที่รัก พร้อมกับคำประกาศจะต่อสู้ทวงความยุติธรรมต่อไป จากนั้นนายวิสา คัญทัพ ขึ้นอ่านบทกวีไว้อาลัยตามด้วยการจุดเทียนและเปิดเพลงอาลัยให้กับผู้เสียชีวิต บรรยากาศตอนนี้เต็มไปด้วยความเศร้า ผู้ชุมนุมหลายคนร้องไห้ออกมา เวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามาให้กำลังใจคนเสื้อแดง โดยระบุว่า โทร.มาจากประเทศในตะวันออกกลาง จากนั้นกล่าวเรียกร้องขอกรรมการที่เป็นกลางในการจัดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพราะหากการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ยุติธรรมอีก จะเสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศ นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวขอบคุณคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ รวมถึงตัวแทนแดงอียูที่มาจากยุโรป ที่ร่วมกันต่อสู้ประชาธิปไตย ดังจะเห็นได้ว่า หากประชาธิปไตยถูกขัดขวาง ไม่เพียงไม่เป็นผลดีต่อประชาชน ยังไม่ดีต่อตัวผู้ปกครองประเทศเอง เพียงแต่อาศัยจังหวะเวลาเท่านั้น ดังจะเห็นได้ในประเทศตะวันออกกลาง ไม่ว่า ตูนิเซีย อียิปต์ เยเมน ซีเรีย ฯลฯ จึงขอให้คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป และอีกไม่นานคงได้พบกัน
งานรำลึกนองเลือด 10 เมษา