ที่มา มติชน
โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 15 เมษายน 2554)
รายชื่อ ส.ว.สรรหา 73 คน ที่ผ่านการรับรองจาก กกต. เห็นชื่อแซ่หลายรายแล้ว บรรดาคนที่อยากให้วิกฤตบ้านเมืองคลี่คลายก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะส่อแสดงเจตนารมณ์ว่า คงจะรบกันต่อไม่เลิก
แทนที่จะเน้นตัวแทนจากสาขาอาชีพต่างๆ กลับเน้นไปที่เครือข่ายกลุ่มอำนาจ
เป็นการตั้งป้อมปราการพร้อมปืนใหญ่เตรียมจะใส่กับอีกฝ่ายอย่างเต็มอัตราศึก
ไม่ได้หมายถึงทั้ง 73 คน เป็นเช่นนั้นเสียทั้งหมด จำนวนไม่น้อยก็คนดีมีความรู้มีความเหมาะสมจริง
แต่รวมๆ ทั้งหมดแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีภาพเป็นคณะ ส.ว.ที่มาเพื่อพิทักษ์รักษาอำนาจของขั้วหนึ่งเป็นสำคัญ
นักวิชาการชี้ว่า สภาสูงชุดนี้กำลังจะกลายเป็นสภาของชนชั้นกลาง ตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ มากกว่าจะมาจากสาขาอาชีพในหมู่ประชาชน
ระยะนี้ยังอยู่ในเทศกาลสงกรานต์ที่ผู้คนสาดน้ำกันสนุกสนาน
ในวงการเมืองเรื่องอำนาจ ไม่เลิกราที่จะสาดโคลนสาดไฟใส่ฟืนกันอย่างเมามันต่อไป
หลังการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดง รำลึก 1 ปี เหตุการณ์ 10 เมษาฯ
นายทหารน้อยใหญ่ตบเท้ากันออกมาชนกับแกนนำเสื้อแดงอย่างดุดัน
พร้อมกับการปรากฏตัวบนโรงพักของนายทหารพระธรรมนูญตามคำสั่งของผู้นำกองทัพ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นสถาบัน กับ 3 แกนนำ นปช.ที่ปราศรัยบนเวทีรำลึก 10 เมษาฯ
ฝ่ายแกนนำเสื้อแดงก็ตอบโต้ทันควัน ด้วยการเตรียมแจ้งความกลับฝ่ายทหารในข้อหาแจ้งความเท็จ
ไม่มีใครกลัวใคร
คำปราศรัยของแกนนำเสื้อแดงเข้าข่ายหมิ่นสถาบันหรือไม่ หรือการแจ้งความของฝ่ายทหารเป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่
ต้องพิสูจน์กันไปตามกระบวนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ
แต่อันที่จริงการปราศรัยที่ว่านั้นเปิดเผยในวงกว้าง เพราะมีผู้คนไปฟังกันล้นถนนราชดำเนิน ไม่ใช่แค่พวกเสื้อแดง แต่คนทั่วไปก็มีสนใจฟังไม่น้อย
ฟังและดูผ่านทีวีดาวเทียม ผ่านอินเตอร์เน็ตก็มาก
หมิ่นฯจริงหรือไม่ ประชาชนวงกว้างที่ได้ยินได้เห็นคงวินิจฉัยได้
หลาย นยังสงสัยว่า ปัญหาที่ต้องสั่งการให้ดำเนินคดีกับผู้ปราศรัยเสื้อแดง อาจจะมาจากการขึ้นเวทีของนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ซึ่งใช้วิธีเปรียบเทียบกลโกงฟุตบอล กับกระบวนการพิจารณาคดีที่พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นคดียุบพรรค
แต่พสิษฐ์ก็แค่อ้อมๆ จนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นมาสรุปตบท้ายแบบเน้นๆ เนื้อๆ
นี่หรือเปล่าที่เป็นชนวนเหตุ
แต่ในท่ามกลางการพันตูอย่างชุลมุน ระหว่างผู้นำกองทัพที่เน้นปกป้องสถาบันกับฝ่ายแกนนำเสื้อแดงนั้นเอง
ทันใดนั้น นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอก็ปรากฏตัวขึ้น
พร้อมกับประกาศจะยื่นคำร้องต่ออัยการเพื่อให้ถอนประกันแกนนำ นปช.แบบกราวรูดในสัปดาห์หน้า
เป็นงานถนัดงานหลักที่นายธาริตทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่เคยท้อถอยเบื่อหน่าย
น่าสงสัยไม่น้อยว่า ปกติอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษคนนี้มีวิถีชีวิตเช่นไร
เช่น การกินข้าวกินปลา
ต้องนั่งประจำร้านอาหาร "ตามสั่ง" เท่านั้นหรือเปล่า!?!