ที่มา thaifreenews
โดย jomyut
โดย jomyut
ไขรหัส:ใครคนที่เคยรัก ตอนนี้'ไม่รักคนนั้นแล้ว' เราเป็นพลเมืองชั้นสอง หวั่นเป็น'ไอเวอรี่โคสต์'
ก่อแก้ว พิกุลทอง
กลายเป็นเรื่อง “ร้อนแรง” รับเทศกาลสงกรานต์ขึ้นมาฉับพลัน เมื่อ “แกนนำคนเสื้อแดง” นัดชุมนุมรำลึกครบรอบปี 10 เม.ย. แล้วมีการปราศรัยพาดพิงในสิ่งที่มิบังควร
จนนำมาสู่การดาหน้าออกมาของ “บิ๊กทหาร” ตั้งแต่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. / พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. / พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ฯลฯ ที่ออกมา “ปะ-ฉะ-ดะ” แกนนำหลายคน...ถึงขนาด “กองทัพบก” ส่งนายทหารพระธรรมนูญ ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด “จตุพร พรหมพันธุ์-วิเชียร ขาวขำ-สุพร อัตถาวงศ์” ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง
และมีแนวโน้มว่า “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” (ดีเอสไอ) จะเดินหน้าในเรื่องการถอนประกัน “แกนนำแดง” ทั้งหลาย...ที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว...
เพื่อให้ได้ “ความจริงอีกด้าน” ในการนำเสนอข้อมูล... ขอนำเสนอไปพูดคุยกับ “ก่อแก้ว พิกุลทอง” แกนนำนปช. ที่ “วันนั้น” ก็อยู่ในเหตุการณ์ และอยู่บนเวทีปราศรัย...ด้วย
Q : กระแสข่าวตอนนี้มีการพุ่งเป้าโจมตีมาที่แกนนำเสื้อแดงเกี่ยวกับการล้มสถาบัน หลังการขึ้นเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 เม.ย. จนกระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. ส่งทหารรัฐธรรมนูญไปแจ้งความดำเนินคดีกับ 3 แกนนำเสื้อแดง ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร
A : จริงๆ แล้วเป็นความเจ็บปวดของประชาชนอยู่เหมือนกันนะ ทหารที่เข่นฆ่าประชาชนก็อ้างว่า “ปกป้องสถาบัน” ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงไม่มีใครที่จะทำอะไร “สถาบัน” เลย แล้วมีการดึง “สถาบัน” มาเป็นเครื่องมือ แล้วมันมีความเจ็บปวดที่มากกว่านั้น ในกรณีของวิกิลีกส์ที่เผยแพร่ข่าวบอกว่ามีผู้ใหญ่ 3 ท่าน พูดจาในทำนองที่มุ่งร้ายต่อองค์รัชทายาท และผู้ใหญ่ที่เป็นหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.เปรม(ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ) ท่านพล.อ.ประยุทธ์บอกเสมอมาว่า พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องสถาบัน แล้วกรณีพล.อ.เปรมท่านไม่ทำอะไร นอกจากไม่ทำอะไรแล้ว เวลาปีใหม่ เวลาสงกรานต์ เวลาวันเกิด ท่านก็ไปอวยพรพล.อ.เปรมอีก อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ตกลงท่านจะปกป้องสถาบันหรือมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายต่อสถาบัน ท่านต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ ไม่ใช่มาตอบแต่ในทางที่ข่มขู่ประชาชนคนธรรมดา ท่านต้องทำตัวให้เที่ยงตรงและถ้าใครมีปัญหาในการประทุษร้ายต่อสถาบัน หรือหมิ่นสถาบัน ท่านก็จัดการอย่างตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่ ท่านมาพูดอย่างนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้คนไทยทั้งประเทศที่ติดตามฟังท่านอยู่
“ผมเองมองว่า ท่านประยุทธ์ใช้คำว่า ‘สถาบัน’ มาทำร้ายประชาชน ก่อนที่จะมีการสลายการชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ท่านเองก็อยู่ในกระบวนการกับนายทหารคนอื่นในการมาพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมเป็น ‘พวกล้มสถาบัน’ ได้ข่าวว่ามีการฉายหนังในเชิงอย่างนี้ให้กับทหารที่จะปฏิบัติการได้ฟังได้ดูก่อนในหลายๆวัน ปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง เพื่อทำให้ทหารที่จะมาปราบสลายการชุมนุม กล้าทำอะไรกับคนเสื้อแดงเพราะคิดว่า ‘จะล้มสถาบัน’ อย่างกรณีน้องเกด (น.ส.กมลเกตุ อัคฮาด 1 ใน 6 เสื้อแดงที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม) ลองคิดดู ปกติทหารคนไหนก็แล้วแต่ เขาจะไม่ฆ่าคนมือเปล่า ทหารเขาถูกสอนว่าไม่ให้ฆ่าคนมือเปล่า ไม่ฆ่าคนไทยด้วยกัน ไม่ฆ่าคนในวัด และไม่ฆ่าผู้หญิง อย่างน้องเกดเป็นคนมือเปล่า เป็นผู้หญิงถูกยิงในวัด แถมมีปลอกกาชาด ถูกยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆ การยิงแบบนี้มันไม่ได้ยิงเพื่อฆ่า แต่ยิงเพื่อระบายความโกรธแค้น คิดดูผู้หญิงคนเดียวถูกยิง 11 นัด อย่าว่าแต่ 11 นัดเลย แค่นัดเดียว ต่อให้เป็นผู้ชายโดนยิงด้วยเอ็ม 16 นัดเดียวก็ไม่รอดแล้ว เพราะฉะนั้นกรณีอย่างนี้เป็นการบ่งชี้ว่า เอ๊ะ...มีการปลูกฝังสร้างความเกลียดชัง คนเวลายิงยิงด้วยความเกลียดชัง ก็ยิงแบบไม่ยั้งคิด แล้วถามว่าทหารอยู่ๆทำไมเขาเกลียดชังพวกผมล่ะ ผมก็คนไทยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอยู่ๆเกลียดชังขึ้นมาแปลว่ามีการปลูกฝังให้เกลียดชัง และการปลูกฝังเรื่องที่ได้ผลที่สุดในประเทศไทยคือปลูกฝังว่าเราจะล้มสถาบัน นั่นคือการปลูกฝังง่ายๆ ปลูกฝังได้...ชั่วช้าจริงๆ”
Q : การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.การพูดของแกนนำแต่ละคนบนเวทีจะเป็นไปในโทนหรือทิศทางเดียวกันหรือไม่
A : ไม่ๆ...ไม่เป็นไปในลักษณะเดียวกันหรอก ค่อนข้างหลากหลาย แต่ผมมองว่าคนที่ขึ้นเวทีวันนั้นแสดงออกถึงความสิ้นหวังในประเทศนี้ เรามีเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.มา 1 ปีแล้ว เหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์เศร้าที่ไม่ควรเกิดขึ้น 1 ปีผ่านมาไม่มีอะไรที่ไปคลี่คลายข้อเท็จจริง ว่าทำไมเกิดเหตุอย่างนั้น ความผิดพลาดเกิดจากอะไร ใครเป็นคนผิด ความผิดอยู่ที่คนสั่งการ หรืออยู่ที่คนปฏิบัติการ ใครเป็นผู้ฆ่าประชาชน ใครเป็นผู้ฆ่าทหาร ปีหนึ่งแล้วมันไม่มีความชัดเจนเลย ซึ่งตรงนี้มันสร้างความรู้สึกที่เจ็บปวดต่อคนไทยทั้งประเทศ ลองคิดดูว่ากลไกทางกฎหมายมีตั้งหลายหน่วยงาน แต่มันไม่มีอะไรขยับเลย ที่ผ่านมาเราเป็นเมืองพุทธ เรารักกัน เราต้องช่วยกันผลักดันคนดีให้เข้ามาบริหารบ้านเมือง ถามว่าวันนี้มันสวนทางกันหมด แล้วไม่มีใครทำอะไรเลย มันก็ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ผมมองในแง่นี้ เปรียบเทียบในกรณีคุณสมัคร (สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี) ถูกขับออกจากตำแหน่งในข้อหาทำกับข้าว สอนทำกับข้าว แต่รัฐบาลนี้มีเหตุคนตายตั้งเกือบ 100 คน ถ้าเทียบกรณีคุณสมัครลองคิดดูมันต่างกันลิบลับ แล้วทำไมไม่มีใครมาขยับ มาต่อว่า มาทำอะไรเขาเลยเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ผมไม่ได้บอกว่าต้องเอาคนใดคนหนึ่งเข้าคุกนะ ผมบอกว่าต้องมีคนที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ ผมไม่แน่ใจความผิดพลาดอยู่ตรงไหน แต่ผมว่าอย่างน้อยมันต้องมีคนรับผิดชอบ
ตอบได้ตรง แทนคำตอบจากใจคนเสื้อแดงและผู้รักความยุติธรรมนับล้านๆคน ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้ ทำไมจึงเกิดเหตุการ์ณสั่งฆ่าปชช.โดยเฉพาะน้องเกด..ในเขตอภัยทาน..ตอนนี้ที่ณัฐวุฒิตะโกนป่าวร้องร่วม 10 นาที ได้ทรงพลัง และโดนใจมวลชน ร่วมยืนและปรบมือโห่ร้องดังกึกก้องถนนราชดำเนิน...
ก่อแก้ว พิกุลทอง
กลายเป็นเรื่อง “ร้อนแรง” รับเทศกาลสงกรานต์ขึ้นมาฉับพลัน เมื่อ “แกนนำคนเสื้อแดง” นัดชุมนุมรำลึกครบรอบปี 10 เม.ย. แล้วมีการปราศรัยพาดพิงในสิ่งที่มิบังควร
จนนำมาสู่การดาหน้าออกมาของ “บิ๊กทหาร” ตั้งแต่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. / พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. / พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ฯลฯ ที่ออกมา “ปะ-ฉะ-ดะ” แกนนำหลายคน...ถึงขนาด “กองทัพบก” ส่งนายทหารพระธรรมนูญ ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด “จตุพร พรหมพันธุ์-วิเชียร ขาวขำ-สุพร อัตถาวงศ์” ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง
และมีแนวโน้มว่า “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” (ดีเอสไอ) จะเดินหน้าในเรื่องการถอนประกัน “แกนนำแดง” ทั้งหลาย...ที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว...
เพื่อให้ได้ “ความจริงอีกด้าน” ในการนำเสนอข้อมูล... ขอนำเสนอไปพูดคุยกับ “ก่อแก้ว พิกุลทอง” แกนนำนปช. ที่ “วันนั้น” ก็อยู่ในเหตุการณ์ และอยู่บนเวทีปราศรัย...ด้วย
Q : กระแสข่าวตอนนี้มีการพุ่งเป้าโจมตีมาที่แกนนำเสื้อแดงเกี่ยวกับการล้มสถาบัน หลังการขึ้นเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 เม.ย. จนกระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. ส่งทหารรัฐธรรมนูญไปแจ้งความดำเนินคดีกับ 3 แกนนำเสื้อแดง ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร
A : จริงๆ แล้วเป็นความเจ็บปวดของประชาชนอยู่เหมือนกันนะ ทหารที่เข่นฆ่าประชาชนก็อ้างว่า “ปกป้องสถาบัน” ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงไม่มีใครที่จะทำอะไร “สถาบัน” เลย แล้วมีการดึง “สถาบัน” มาเป็นเครื่องมือ แล้วมันมีความเจ็บปวดที่มากกว่านั้น ในกรณีของวิกิลีกส์ที่เผยแพร่ข่าวบอกว่ามีผู้ใหญ่ 3 ท่าน พูดจาในทำนองที่มุ่งร้ายต่อองค์รัชทายาท และผู้ใหญ่ที่เป็นหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.เปรม(ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ) ท่านพล.อ.ประยุทธ์บอกเสมอมาว่า พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องสถาบัน แล้วกรณีพล.อ.เปรมท่านไม่ทำอะไร นอกจากไม่ทำอะไรแล้ว เวลาปีใหม่ เวลาสงกรานต์ เวลาวันเกิด ท่านก็ไปอวยพรพล.อ.เปรมอีก อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ตกลงท่านจะปกป้องสถาบันหรือมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายต่อสถาบัน ท่านต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ ไม่ใช่มาตอบแต่ในทางที่ข่มขู่ประชาชนคนธรรมดา ท่านต้องทำตัวให้เที่ยงตรงและถ้าใครมีปัญหาในการประทุษร้ายต่อสถาบัน หรือหมิ่นสถาบัน ท่านก็จัดการอย่างตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่ ท่านมาพูดอย่างนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้คนไทยทั้งประเทศที่ติดตามฟังท่านอยู่
“ผมเองมองว่า ท่านประยุทธ์ใช้คำว่า ‘สถาบัน’ มาทำร้ายประชาชน ก่อนที่จะมีการสลายการชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ท่านเองก็อยู่ในกระบวนการกับนายทหารคนอื่นในการมาพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมเป็น ‘พวกล้มสถาบัน’ ได้ข่าวว่ามีการฉายหนังในเชิงอย่างนี้ให้กับทหารที่จะปฏิบัติการได้ฟังได้ดูก่อนในหลายๆวัน ปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง เพื่อทำให้ทหารที่จะมาปราบสลายการชุมนุม กล้าทำอะไรกับคนเสื้อแดงเพราะคิดว่า ‘จะล้มสถาบัน’ อย่างกรณีน้องเกด (น.ส.กมลเกตุ อัคฮาด 1 ใน 6 เสื้อแดงที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม) ลองคิดดู ปกติทหารคนไหนก็แล้วแต่ เขาจะไม่ฆ่าคนมือเปล่า ทหารเขาถูกสอนว่าไม่ให้ฆ่าคนมือเปล่า ไม่ฆ่าคนไทยด้วยกัน ไม่ฆ่าคนในวัด และไม่ฆ่าผู้หญิง อย่างน้องเกดเป็นคนมือเปล่า เป็นผู้หญิงถูกยิงในวัด แถมมีปลอกกาชาด ถูกยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆ การยิงแบบนี้มันไม่ได้ยิงเพื่อฆ่า แต่ยิงเพื่อระบายความโกรธแค้น คิดดูผู้หญิงคนเดียวถูกยิง 11 นัด อย่าว่าแต่ 11 นัดเลย แค่นัดเดียว ต่อให้เป็นผู้ชายโดนยิงด้วยเอ็ม 16 นัดเดียวก็ไม่รอดแล้ว เพราะฉะนั้นกรณีอย่างนี้เป็นการบ่งชี้ว่า เอ๊ะ...มีการปลูกฝังสร้างความเกลียดชัง คนเวลายิงยิงด้วยความเกลียดชัง ก็ยิงแบบไม่ยั้งคิด แล้วถามว่าทหารอยู่ๆทำไมเขาเกลียดชังพวกผมล่ะ ผมก็คนไทยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอยู่ๆเกลียดชังขึ้นมาแปลว่ามีการปลูกฝังให้เกลียดชัง และการปลูกฝังเรื่องที่ได้ผลที่สุดในประเทศไทยคือปลูกฝังว่าเราจะล้มสถาบัน นั่นคือการปลูกฝังง่ายๆ ปลูกฝังได้...ชั่วช้าจริงๆ”
Q : การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.การพูดของแกนนำแต่ละคนบนเวทีจะเป็นไปในโทนหรือทิศทางเดียวกันหรือไม่
A : ไม่ๆ...ไม่เป็นไปในลักษณะเดียวกันหรอก ค่อนข้างหลากหลาย แต่ผมมองว่าคนที่ขึ้นเวทีวันนั้นแสดงออกถึงความสิ้นหวังในประเทศนี้ เรามีเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.มา 1 ปีแล้ว เหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์เศร้าที่ไม่ควรเกิดขึ้น 1 ปีผ่านมาไม่มีอะไรที่ไปคลี่คลายข้อเท็จจริง ว่าทำไมเกิดเหตุอย่างนั้น ความผิดพลาดเกิดจากอะไร ใครเป็นคนผิด ความผิดอยู่ที่คนสั่งการ หรืออยู่ที่คนปฏิบัติการ ใครเป็นผู้ฆ่าประชาชน ใครเป็นผู้ฆ่าทหาร ปีหนึ่งแล้วมันไม่มีความชัดเจนเลย ซึ่งตรงนี้มันสร้างความรู้สึกที่เจ็บปวดต่อคนไทยทั้งประเทศ ลองคิดดูว่ากลไกทางกฎหมายมีตั้งหลายหน่วยงาน แต่มันไม่มีอะไรขยับเลย ที่ผ่านมาเราเป็นเมืองพุทธ เรารักกัน เราต้องช่วยกันผลักดันคนดีให้เข้ามาบริหารบ้านเมือง ถามว่าวันนี้มันสวนทางกันหมด แล้วไม่มีใครทำอะไรเลย มันก็ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ผมมองในแง่นี้ เปรียบเทียบในกรณีคุณสมัคร (สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี) ถูกขับออกจากตำแหน่งในข้อหาทำกับข้าว สอนทำกับข้าว แต่รัฐบาลนี้มีเหตุคนตายตั้งเกือบ 100 คน ถ้าเทียบกรณีคุณสมัครลองคิดดูมันต่างกันลิบลับ แล้วทำไมไม่มีใครมาขยับ มาต่อว่า มาทำอะไรเขาเลยเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ผมไม่ได้บอกว่าต้องเอาคนใดคนหนึ่งเข้าคุกนะ ผมบอกว่าต้องมีคนที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ ผมไม่แน่ใจความผิดพลาดอยู่ตรงไหน แต่ผมว่าอย่างน้อยมันต้องมีคนรับผิดชอบ
ตอบได้ตรง แทนคำตอบจากใจคนเสื้อแดงและผู้รักความยุติธรรมนับล้านๆคน ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้ ทำไมจึงเกิดเหตุการ์ณสั่งฆ่าปชช.โดยเฉพาะน้องเกด..ในเขตอภัยทาน..ตอนนี้ที่ณัฐวุฒิตะโกนป่าวร้องร่วม 10 นาที ได้ทรงพลัง และโดนใจมวลชน ร่วมยืนและปรบมือโห่ร้องดังกึกก้องถนนราชดำเนิน...
| |