ที่มา thaifreenews
โดย bozo
เปิดร่างนโยบายรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"
ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม.และเตรียมแถลงต่อสภาฯ
หมายเหตุ - เนื้อหาในนโยบายรัฐบาลที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 16 ส.ค.
เพื่อขอความเห็นชอบในวันนี้ได้จัดทำเป็นเอกสารจำนวน 34 หน้า
โดยทุกหน้าประทับคำว่า "ร่างนโยบายรัฐบาล ยังไม่เปิดเผย"
แบ่งเป็น 8 หัวข้อดังนี้ ประกอบด้วย
1.นโยบายเร่งด่วน
2. นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ เช่น
เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์,
พัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง
3.นโยบายเศรฐกิจ
4.นโยบายคุณภาพชีวิต
5.นโยบายที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
6.นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม
7.นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
8.นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
*********************
สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มทำในปีแรก แบ่งเป็น
1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย
1.1.1 เสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของประชาชนในชาติ
ให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันิเดียวกัน
และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1.1.2 เยียวยาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องแก่บุคคลทุกแก่บุคคลทุกฝ่าย เช่น
ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชน
ซึ่งได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากควาขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองและความรุนแรง
ที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
1.1.3 สนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง
เพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ดำเนินการอย่างอิสระ
และได้รับควาร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบหาความจริง
กรณีความรุนแรงทางการเมือง
การละเมิดสิทธิมนุษยชน
การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายทางทรัพย์สิน
1.2 กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
1.3 ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง
1.4 เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว
1.5 เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ
1.6 แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
และผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
1.7 ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
1.7.1 พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย
ที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท อย่างน้อย 3 ปี
และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท
1.7.2 เพิ่มรายได้รายวันสำหรับแรงงานเป็นวันละ 300 บาท
และรายเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท
1.7.3 จัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ
1.7.4 ให้มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุน
สำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่บ้านหลังแรก
1.8 ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 2555
และลดลงร้อยละ 20 ในปี 2556 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน
ขยายฐานภาษีและรองรับเข้าสู่การเป็นประชาคาอาเซียนในปี 2558
1.9 ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนสินเชื่อรายย่อย
1.9.1 เพิ่มกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 1 ล้านบาท
1.9.2จัดตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพสตรีเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท
1.9.3จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้วงเงินประมาณ 1 พันล้านต่อสถาบันอุดมศึกษา
1.10 ยกระดับสินค้าการเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน
โดยให้มีการประกันภัยพืชผลและนำระบบรับจำนำสินค้าการเกษตรมาใช้
รวมถึงการออกบัตรเครดิตสำหรับเกษตรกร
1.11 ส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำอย่างบูรณาการ
ด้วยการสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ กลาง เล็ก
1.12 เร่งเพิมรายได้จากการท่องเที่ยวโดยได้ปี 2554 – 2555
เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิราเคิลไทยแลนด์ เยียร์)
และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคลในช่วงปี 2554-2555
1.13 สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์และผลิตสินค้าในท้องถิ่น
1.13.1 สนับสนุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปชีพ
1.13.2บริหารโครงการหนึ่งตำบลหนึ่ผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพ
1.14 พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
1.15 จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แทปเล็ตให้โรงเรียน
โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่อง
สำหรับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2554
ควบคู่กับการพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสมตามหลักสูตรบรรจุลงในแทปเล็ต
รวมถึงทำอินเตอร์เน็ตไร้สายในระดับการให้บริหาร
และในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงสถานศึกษาที่กำหนดฟรี
1.16 เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขว้าง
โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
โดยให้ประชาชนเห็นชอบโดยการออกเสียงประชามติ
*********************
นอกจากนี้ในส่วนนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐมีเรื่องการเทิดทูลและพิทักษ์รักษา
ซึ่งสถาบันพระมหากษัติย์ ดำรงรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งมหากษัตริย์
โดยการเสริมสร้างจิตสำนึกประชาชนในชาติให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน
โดยการเชิดชู ปกป้อง มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้
รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการสำเอาสถาบันมาใช้อ้างเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม
หรือเพื่อแบ่งแยกความจงรักภักดีของประชาชน
อีกทั้งส่งเสริม เผยแพร่โครงการพระราชดำริ
เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้สามัคคี
และดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง นอกจากนี้ต้องพัฒนา
และเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง
รวมถึงเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองของคนชาติ
เป็นที่น่าสังเกตว่า
นโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้แต่ไม่ได้นำมาบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
แต่กลับระบุไว้ว่าเป็นนโยบายในแต่ละด้านแทนนั้น อาทิ
โครงการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่
โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง
สายกรุงเทพฯ- เชียงใหม่
สายกรุงเทพฯ- นครราชสีมา และ
สายกรุงเพทฯ- หัวหิน
รวมทั้งเส้นทางที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน
โครงการการขยายเส้นทางรถไฟแอร์พอร์ทลิงก์จากสุวรรณภูมิไปถึงพัทยา
การเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทั้งในกทม.และปริมณฑล
โดยให้ก่อสร้างได้ครบทั้งหมดภายใน 4 ปี และเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสายทั้งระบบ
http://www.posttoday.com/วิเคราะห์/รายงานพิเศษ/105251/เปิดร่างนโยบายรัฐบาลปู16เรื่องเร่งด่วน