WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, August 17, 2011

ปากคำ22นักโทษการเมืองอุดรหลังสู่อิสรภาพ วอนส.ส.พท.ประกันเหยื่อ112พร้อมเสื้อแดงอีก110ราย

ที่มา Thai E-News



บรรยากาศต้อนรับ22นักโทษการเมืองอุดรฯเยี่ยงวีรบุรุษสู่อิสรภาพ วันนี้ส.ส.เพื่อไทยจะเดินหน้าประกันนักโทษที่เหลือ เป้าหมายต่อไปคือนักโทษการเมืองในกรุงเทพฯ 30 คน แต่รอบนี้ยังไม่รวมคดี112(คลิปวิดิโอ:เหยี่ยวข่าวอาสา พิทักษืประชาธิปไตย)



กลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี เดินทางมารอรับนักโทษการเมืองที่ได้รับการประกันตัว 22 ราย หลังจากส.ส.อุดรธานีใช้ตำแหน่งประกันนตัวในวันนี้(ภาพ:เฟซบุ๊คอานนท์ แสนน่าน)


สู่อิสรภาพ-'นาย'วิจิตต์ ตรีกุล ลาออกจากงานเข้าร่วมชุมนุม และถูกตำรวจซ้อมให้สารภาพว่าลักทรัพย์ห้างเซเว่นฯโดนขังคุก1ปี3เดือนเพิ่ง พ้นโทษเช้านี้ สิ่งแรกที่เขาจะทำคือเข้าร่วมชุมนุมรำลึกวีรชน 19 สิงหาคมที่จะถึงนี้ที่ราชประสงค์(ภาพข่าว:เฟซบุ๊คป๋าจอมตั๊บฯ)


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 สิงหาคม 2554

นักโทษการเมืองอุดรธานี 22 รายถูกปล่อยตัวชั่วคราวออกจากคุกแล้วเมื่อค่ำวานนี้ ท่ามกลางการต้อนรับจากคนเสื้อแดงเยี่ยงวีรบุรุษ โดยพวกเขาได้กล่าวขอบคุณส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ใช้ตำแหน่งประกันตัว มีกรณีหนึ่งที่เข้าไปติดคุกพร้อมกันทั้งสามี-ภรรยา โดยนับวันเวลาติกคุกอยุติธรรมจนขึ้นใจว่าเป็นจำนวนเวลาสูญสิ้นอิสรภาพ 454วัน หรือ1ปี2เดือน 26วัน"เราเป็นครอบครัวประชาธิปไตย ชีพนี้เพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณที่พวกเราไม่ทิ้งกัน"

สัมภาษณ์ทนายอานนท์ นำภา:นักโทษเสื้อแดงกับสิทธิการประกันตัว



เผยคดี112ยังไม่ได้ประกันตัวในช่วงนี้

ทนายอานนท์กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมทราบข่าวจากส.ส.เพื่อไทยที่เป็นแกนนำ นปช.ว่า พรรคมีแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังเสื้อแดงที่ยังติดคุกอยู่ทั่วประเทศ ร่วมร้อยคน ซึ่งได้เริ่มใช้ตำแหน่ง ส.ส. ในแต่ละพื้นที่ประกันแล้ว เช่น จ.อุดร ประกันเมื่อวานได้ ๒๒ คน และวันนี้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยอีก ๑๖ คน ก็จะไปขอใบรับรองเงินเดือน เพื่อยื่นประกันพี่น้องเสื้อแดงใน กทม.อีก ๓๐ คน ทั้งนี้ คนที่ต้องโทษและคดีถึงที่สุดแล้ว คงต้องใช้ขั้นตอนทางราชทัณฑ์ คือเรื่องการพักโทษ หรือ ขออภัยโทษ ต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องขังคดีหมิ่นฯ หรือคดี112ทราบว่ายังไม่ได้รับการประกันในช่วงนี้"

"ในความคิดของผมซึ่งทำคดีหมิ่นฯอยู่หลายคดี ผมเห็นว่า คนที่โดนคดีหมิ่นเกือบทั้งหมดนั้น คือคนที่ออกมาเคลื่อนไหวภายหลังจากรัฐประหาร 19 กันยา 2549 และมาถี่ๆตอนที่มีการสลายการชุมนุมในเหตุการร์ เมษา- พฤษภา ๕๓ และเมื่อพิจารณาถึง ข้อความ หรือ พฤติการณ์ที่ผู้ต้องหา(ที่สารภาพ) ได้กล่าวแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นประเด็นทางการเมือง มิได้เกิดจากการด่าทอ หรือ เป็นการล้อเลียนแต่อย่างใด

และอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างชัดเเจน เช่นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ( อ.สุรชัย พี่สมยศ) เหล่านี้เป็นนักโทษทางการเมืองโดยแท้

และยังมีกลุ่มที่ไม่ได้กระทำผิดเลย และเป็นแพะ สังเวยคดีหมิ่นฯ เช่น อากง ฯลฯ เป็นต้น เหล่านี้ถูกบรรยากาศอึมครึม และ พิษคดีหมิ่นฯ เล่นงานทั้งนั้น

ฉะนั้น เราซึ่งเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง /นักโทษ ทางความคิด ต้องไม่ลืมพวกเขาเหล่านั้น คนที่ต่อสู้เคียงข้างกับเราตั้งแต่ต้น เพราะเอาเข้าจริงๆ เขาเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้เราเข้าใจอะไรๆมากขึ้น หรือไม่ จริง ?"

22นักโทษแดงอุดรฯเฮ ศาลให้ประกันตัว ตีราคาคนละ1ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.30 น. เมื่อวานนี้ นายคารม พลทะกลาง ทนายความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ศาลจังหวัดอุดรธานี ได้มีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว แนวร่วม นปช. 22 คน จำเลยที่ถูกฟ้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปปลุกปั่นยุยงแล้ว โดยตีราคาประกันคนละ 1 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีขณะนี้ตนได้ประสานแจ้งให้ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย 9 คน ประกอบด้วย นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี เขต 1 , พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี เขต 2 , นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี เขต 3 , นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี เขต 4 , นายทองดี มนิสสาร ส.ส.อุดรธานี เขต 5 , นายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี เขต 6 , นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี เขต 7 , นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี เขต 8 และ นางเทียบจุฑา ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี เขต 9 และ นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เซ็นชื่อเพิ่มวงเงินจากเดิมที่ เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) ในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ของทั้ง 10 คน เป็นหลักทรัพย์วงเงินคนละ 500,000 บาท

นายคารม ทนายความ กล่าวว่า หลังจากยื่นประกันกลุ่ม 22 คน ที่จ.อุดรธานี เสร็จสิ้นแล้ว ยังคงเหลือกลุ่มแนวร่วม นปช. ประมาณ 110 คนจากเดิม 132 คนที่ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำในจังหวัดต่างๆ อาทิ จ.อุบลราชธานี ขอนแก่น และสารคาม ซึ่งจะใช้ตำแหน่ง ส.ส. เป็นหลักทรัพย์ยื่นประกันเช่นกัน ขณะนี้คดีดังกล่าวของกลุ่มแนวร่วม จ.อุดรธานีทั้ง 22 คน ที่ถูกฟ้องรวม 4 คดี ได้สืบพยานเสร็จสิ้นและศาลนัดพิพากษาคดีเดือน ต.ค.นี้


ส.ส.อุดรธานี 9 คน ใช้ตำแหน่งพร้อมเงินสดกว่า 23 ล้านบาท ประกันตัว 22 เสื้อแดง ออกจากเรือนจำแล้ว


ต่อมา ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัดอุดรธานี จำนวน 9 คน ได้เดินทางมาเซ็นเอกสาร เพื่อขอยื่นประกันตัวคนเสื้อแดง ที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางอุดรธานี โดยใช้ตำแหน่งประกันคนละ 1,100,000 บาท ร่วมกับหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน ของ นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล คหบดีชื่อดังของจังหวัดอุดรธานี อีก 12 ล้านบาท รวมเป็นกว่า 23 ล้านบาท

จากนั้นศาลจังหวัดอุดรธานี ก็จะมีหมายถึงผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี ให้ปล่อยตัวชั่วคราว คนเสื้อแดงทั้งหมด 22 คน ซึ่งหลังจากปล่อยตัวก็จะไปกราบเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบไปด้วย ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม และจะเดินทางไปพักผ่อน และรับประทานอาหาร ที่ชมรมคนรักอุดร โดยมี นายขวัญชัย ไพรพนา ให้การต้อนรับ

6 ส.ส.เพื่อไทยขอใช้ตำแหน่งส.ส.ร่วมประกันเสื้อแดง


เวลา 12.00 น. เมื่อวานนี้ มีสส.เพื่อไทยจำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1.นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.น.ส.ภูวนิดา คุณผลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4.นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5.น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ส.ส.กทม. และ6.นางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย แสดงความจำนงขอใช้ตำแหน่งประกันตัวเสื้อแดง

นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมกลุ่มคนที่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อไปประกันตัวคน เสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศนั้น ตนจึงตั้งใจที่จะใช้ตำแหน่งส.ส.ของตนไปประกันตัวคนเสื้อแดงที่ติดคุกมา ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน และ19 พฤษภาคม 2553 ด้วย เนื่องจากประชาชนกลุ่มดังกล่าวได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อการร้าย การประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในขณะมีประมาณ 100 คน ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ส.ส.เพื่อไปประกันตัวเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะล่ารายชื่อเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของพวกตนถือเป็นเอกสิทธิส่วนตัว และไม่ได้แจ้งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยทราบด้วย

ด้านนายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายที่จะสร้างความปรองดอง ดังนั้นตามหลักของกฎหมายแล้ว หากผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ก็สมควรที่จะได้รับการประกันตัวออกจาก เรือนจำ ที่สำคัญคือ เมื่อพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้ใจจากประชาชนจนชนะการเลือกตั้งพรรคก็ต้อง ช่วยเหลือประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอดด้วย ดังนั้น ภาพที่เกิดขึ้นจะสะท้อนให้เห็นว่า จากนี้ไปประเทศจะเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

น.ส.ภูวนิดา คุณผลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น เราอยากเห็นทุกคนมีความสุข ร่วมกันสร้างความสุข สลายความทุกข์ แม้จะเป็นคนกลุ่มเล็กๆ ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยก็ตาม เพราะเมื่อวันนี้เราสามารถจะทำได้พวกเราที่เป็นส.ส.อยู่ตรงนี้ก็ขออาสายื่น ประกันตัวให้พวกเขาเหล่านั้นได้ออกมาอยู่กับครอบครับและต่อสู้เพื่อความ ยุติธรรมต่อไป

ขณะที่น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นมติของส.ส.กลุ่มหนึ่งที่อยากจะคืนความสุข และประชาธิปไตยให้กับประชาชนที่มาร่วมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของความปรองดอง


"ณัฐวุฒิ"ลั่นเดินหน้าขอประกันเสื้อแดงในกทม.ต่อ


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. กล่าวภายหลังศาลให้ประกันตัวคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี ว่า ส.ส.กลุ่มคนเสื้อแดงอีก 12 คนอาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง มีข้อสรุปร่วมกันว่า จะเดินหน้าขอยื่นประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำต่างๆ ในกทม.ประมาณ 30 คนต่อทันที

โดยส่วนใหญ่เป็นคดีปลุกปั่น ยุยง สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ซึ่งอาจจะยื่นประกันได้ภายใน 1-2 วันนี้ สำหรับคนเสื้อแดงที่ติดอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศนั้น ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 132 คน

ส่วนความคืบหน้าในการขอค่าเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการ เมืองปี 2553 รวมทั้งสิ้น 91 ราย ซึ่งจะรวมถึงคนเสื้อแดง ทหาร ตำรวจ และประชาชน รายละ 10 ล้านบาทนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล โดยควรจะตั้งคณะกรรมการเยียวยาขึ้นมากำหนดหลักเกณฑ์ว่า ผู้เสียหายรวมถึงผู้ประกอบการนั้นควรจะได้รับการเยียวยาเท่าไหร่ เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เนื่องจากคอป.จะทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ต้องมีคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งขึ้นมาดูข้อกฎหมายและคดีความต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าค่าเยียวยารายละ 10 ล้านบาทนั้นเหมาะสมหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่อยากนำเรื่องตัวเลขมาเป็นตัวตั้ง แต่หากเทียบกับงบประมาณที่ใช้ในการปราบปรามประชาชนที่รัฐบาลชุดที่แล้วใช้ไป หลายพันล้านบาทโดยไม่มีการแจกแจงรายละเอียดแล้วนั้น ถือว่าเทียบไม่ได้กับงบประมาณที่จะนำมาชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเลย เงินจำนวนนี้ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับการดูแลประชาชนที่เสียชีวิต

ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่สูงถึงรายละ 10 ล้านบาทนั้น ตนไม่อยากให้คิดว่าใครสู้เพื่อพรรค แต่เป็นเรื่องที่เราต้องเยียวยาประชาชนที่สู้เพื่อประชาธิปไตย เพราฉะนั้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนจะมีการเยียวยาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องแยกว่าไม่เกี่ยวกับความสำเร็จของพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะเข้าใจเป็นอย่างดี

ต้อนรับพี่น้องกลับบ้าน "วิจิตต์ ตรีกุล" ความอยุติธรรมพรากเสรีภาพเขาไป 1 ปี 3 เดือน กับพรก.ฉุกเฉินและคดีลักทรัพย์ที่ไม่ได้ก่อ

ขณะเดียวกันเช้าวานนี้(16 สิงหาคม 54) มีพี่น้องเสื้อแดงของเรา 1 คน พ้นโทษออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ "นายวิจิตต์ ตรีกุล"ซึ่งถูกจับในวันที่ 18 พฤษภาคม 2554 บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงจากการเข้าร่วมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบ สภา และเขาถูกตัดสินจำคุก 1ปี 3เดือน โดยไม่รอลงอาญา

เฟซบุ๊คของป๋าจอมตั๊ป กลุ่มสหายสีแดง รักราษฎร รายงานเรื่องนี้ว่า เช้าวันนี้ภรรยาของพี่"นาย" และทีมงานเตรียมมารอต้อนรับพี่นายกลับบ้าน ได้เสื้อผ้าบริจาคส่วนนึงมาจากสำนักงานวันอาทิตย์สีแดง และรองเท้าคู่ใหม่เบอร์ 42 จากกลุ่มพี่นกแดงที่ช่วยกันเรี่ยไรเงินมาช่วยเหลือนักโทษ พี่นกแดงตามมาสายหน่อยเพราะต้องไปดูแล"เอนก สิงขุนทด" อีกหนึ่งนักโทษเสื้อแดงที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดดวงตาทั้งสองข้างที่โรง พยาบาลตำรวจ

พี่นายถูกปล่อยตัวออกมาเวลาประมาณ 9 โมงครึ่ง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และบอกกับพวกเราว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับเลย ตั้งแต่ตีหนึ่ง มันตื่นเต้นมาก ก่อนจะออกมานี่ก็เพื่อนๆข้างในเขาหาเสื้อใหม่มาให้ใส่กัน รวมบุหรี่มาให้เป็นของขวัญตั้ง 4 ซอง(ข้างในมีค่ามาก) เป็นธรรมเนียมของเขาว่าใครได้ออก เขาก็ร่ำลากันด้วยสิ่งเหล่านี้

ราพูดคุยกันอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะเข้าตีเยี่ยมพี่หนุ่ม ธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล ร่วมกันทั้ง 5 คน แล้วก็พากันไปถ่ายรูปกันข้างหน้าเรือนจำ เพื่อรำลึกถึงความอยุติธรรมที่ได้รับและต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นแรมปี โดยไม่ได้ทำอะไรผิด

ผมได้สอบถามเรื่องราวว่าพี่นายมาร่วมชุมนุมตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไร โดนจับได้ยังไง ทำไมถึงโดนคดีลักทรัพย์ด้วย ได้ไปขโมยของอะไรด้วยหรือ?

พี่นายเล่าให้ฟังว่า เขาเป็นคนอำเภอวารินทร์ชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตัวเขาเมื่อก่อนนั้นมีอาชีพเป็นยาม อยู่ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ พอเริ่มมีการชุมนุมเสื้อแดงกัน เราเห็นว่ามันมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคมในช่วงนั้น ก็เลยลาออกจากงานเลย มาร่วมชุมนุมอยู่กับเสื้อแดงตั้งแต่ปี 52 ตอนปีแรกก็อยู่ที่สามเหลี่ยมดินแดง ปี่ที่โดนจับก็โดนจับที่สามเหลี่ยมดินแดงเนี่ยแหล่ะ

ปี 53 วันที่ 13 พฤษภาคม พี่นายได้เดินทางกลับที่พักเพื่อมาอาบน้ำอาบท่าพักผ่อน เตรียมตัวไปชุมนุมต่อในวันรุ่งขึ้น แต่ทว่าพอวันต่อมากลับถูกปิดเส้นทางเข้าออกข้างในราชประสงค์ ตัวพี่นายเข้าไปข้างในไม่ได้ ก็มาร่วมชุมนุมอยู่ที่สามเหลี่ยมดินแดงกับชาวบ้านแถวนั้นอีกจำนวนมาก

ในวันที่ 18 ซึ่งอยู่ในช่วงที่ทหารไล่ยิงไล่จับคนเสื้อแดงอย่างไม่รามือ เขากระซิบว่าที่มันน่าเจ็บใจเนี่ย คือไอ้คนที่เป็นการ์ดเนี่ยแหล่ะมาล็อคตัวพี่จับส่งตำรวจ คิดว่ามันเป็นสายให้กับพวกทหารนั่นแหล่ะ พี่จำหน้าได้แม่นเลย ตอนที่คุณเต้น ณัฐวุฒิอยู่ข้างใน พี่บอกเรื่องนี้กับคุณเต้นเอาไว้แล้ว คุณเต้นบอกว่าโอเคเรื่องนี้เดี๋ยวถ้าได้ออกไปจะไปชี้ตัวสืบหากันว่าเป็น การ์ดคนไหน

ทีนี้พอมันจับพี่มาให้ตำรวจนะ จับส่งมาที่สน.ดินแดงนั่นแหล่ะ ตอนนั้นในมือในกระเป๋าพี่มีหนังสติ๊ก ลูกแก้ว แล้วก็หัวน๊อตเบอร์1 ไว้ใช้ยิงสู้กับพวกทหารมัน พอไปถึงสน.
ไอ้ตำรวจมันปัดทิ้งเลย มันไม่เอา แล้วมันเอาของที่ไหนไม่รู้จากเซเว่นมากองเต็มโรงพักเลย แล้วไอ้ตำรวจนอกเครื่องแบบคนนั้นมันก็ซ้อมบ้าง เตะบ้าง และก็ขู่บอกว่ามึงรับสารภาพมาเดี๋ยวนี้ ว่าของพวกนี้เนี่ยมึงขโมยมา ไม่งั้นกูฆ่ามึงตรงนี้แหล่ะ พร้อมทั้งในมือถือถุง เตรียมจะเข้ามาคลุมหัวพี่แล้ว ไอ้เราถ้าโดนจับมาพร้อมกันซักสามสี่คนก็อาจจะพอสู้ พอโวยวายได้ นี่มันเอาตัวมาเดี่ยวๆ เราก็กลัวมันจะฆ่าเราเลยต้องยอมๆรับสารภาพไป ไม่งั้นก็คงจะตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ

ผมได้ฟังแล้วตัวผมเองก็ได้แต่นึก"แค้น" อยู่ในใจ มันทำกันขนาดนี้เชียวหรือ แล้วที่เคยตามเคสเคยรับรู้เรื่องราวมา มันเกิดขึ้นแบบนี้กับคนเสื้อแดงจริงๆในช่วงเวลาการสลายการชุมนุมนั้น แทบทุกคนโดนซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ บางคนก็โดนหนักโดนเบาลดหลั่นกันไป เพื่อให้ยอมจำนนต่อความบอบช้ำของร่างกายและจิตใจ จนต้องยอมรับสารภาพในสิ่งที่ตนไม่ได้กระทำ เพื่อรักษาชีวิตจากกระบวนการซ้อมทรมานของเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้

และได้ถามพี่นายต่อไปว่า พอเข้าไปข้างในเป็นอย่างไรบ้าง?

พี่นายเล่าว่ามันก็ลำบากอ่ะนะ อย่างที่รู้ๆ ชีวิตในเรือนจำ จะกินจะนอนจะขี้จะเยี่ยว ลำบากมากๆ ไม่มีอะไรสบายหรอก ยิ่งวันแรกที่เข้าไปนะ พวกข้างในนี่ตะโกนกันเลยว่า เฮ้ยไอ้เด็กใหม่นั่นเสื้อแดงเข้ามาแล้วโว้ย กระทืบมันเลยดีมั๊ย! คือข้างในเขาดูข่าวดูอะไรแล้วเขารู้สึกไม่ชอบคนเสื้อแดงกัน ดีว่าวันนั้นรอดมาได้ ยังมีผู้คุมดีๆหลายคนคอยช่วยดูแล ในนั้นมันตีกันบ่อย แทงกันตายก็มี ผู้คุมเขาก็บอกว่าเวลาพวกตีกันหรือมีเรื่องกันให้ถอยมาให้ห่างๆเลยนะ อย่าไปยุ่ง อย่าไปมีเรื่องกับเขา นายบางคนก็ดี นายบางคนก็คอยช่วยเหลือเราบ้าง ผมอยู่แดน 5 แดนนี้นายที่ดูแลค่อนข้างนิสัยดี ก็พอโอเคอยู่

ผมก็ถามไปว่า แล้วพี่ได้ออกมาเนี่ย พี่ยังคิดจะสู้ต่อมั๊ยครับ?

พี่นายก็ตอบสวนกลับมาทันควัน ต้องสู้สิ เราได้ออก แต่หมู่เพื่อนเราอยู่ข้างในยังไม่ได้ออกมา ยังไงก็ต้องช่วยเพื่อน ยังไงต้องช่วยกันออกมาให้ได้ ไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าข้างในมันลำบากทรมานขนาดไหน

แต่ว่าอาจจะขอกลับไปพักผ่อนที่บ้านที่อุบลก่อนสักสองสามวัน เดี๋ยวจะลงมาหางานทำ มาสู้ต่ออยู่นี่แหล่ะ ไม่ไปไหนหรอก ยังไงก็ทิ้งไม่ได้อยู่แล้วเสื้อแดง

ผมก็ถามว่า วันที่ 19 นี้จะมีเวที พี่จะกลับจากอุบลมาร่วมด้วยกันมั๊ยครับ?

พี่นายถามว่า อ้าวมีเวทีเหรอ ที่ไหนเนี่ย

ผมตอบไปว่าที่ราชประสงค์ครับ

พี่นายรีบตอบว่า เอ้อ งั้นผมไม่กลับแล้ว จะอยู่ชุมนุมก่อน เดี๋ยวค่อยหาเวลากลับทีหลัง

ผมนึกในใจ โอ้โห พี่คนนี้ ใจสู้ว่ะ! พลางเอ่ยปากชวนในฐานะคนหนึ่งที่เป็นทีมงานร่วมจัดเวที ให้พี่นายได้ขึ้นเวทีมาพูด มาเล่าประสบการณ์ข้างใน ให้พี่น้องเสื้อแดงได้รับรู้รับทราบกัน

พี่นายก็ตอบว่า โอย ผมพูดไม่ค่อยเก่งหรอก ไม่พูดได้มั๊ย ให้ร้องเพลงแทนได้ไหม ตอนอยู่ข้างในผมแต่งเพลงเอาไว้ด้วย

นับเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ผมจะมีโอกาสได้ฟังเพลงที่แต่งเนื้อร้องมาจาก"นักโทษการเมืองเสื้อแดง"ที่ เพิ่งพ้นโทษมาคนนี้ ผมจึงตอบตกลงเลย วันนั้นเดี๋ยวจะหาคิวให้พี่ได้ร้องเพลงจากเรือนจำให้กับพี่น้องทุกคนได้ฟัง ครับ พี่หรั่งก็ยิ้ม พลางร้องเพลงที่ตนได้แต่งเอาไว้คลอให้ผมฟัง แม้จะเป็นทำนองจากเพลงอื่นมาใส่เนื้อร้อง แต่เนื้อหาของเพลงก็ทำให้ผมขนลุก ซาบซึ้งกับอารมณ์ของผู้ที่ถูกพรากเสรีภาพไปจากชีวิตมากว่า 1 ปี 3 เดือน

วันี้ได้เห็นรอยยิ้มที่พี่นายได้กลับมาอยู่กับภรรยาอีกครั้ง ได้กลับมากินอาหารพื้นบ้านอย่างเต็มอิ้มอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม ก็มีความสุขมากมายแล้วซึ่งหากท่านผู้ใดพอมีงานหรือต้องการจ้างงานหนุ่มเสื้อ แดงผู้เป็นนักสู้นิรนามที่เสียสละอิสระภาพของตนในการต่อสู้เพื่อความเป็น ธรรมของเราคนนี้สามารถแจ้งมาทางหน้าหน้าเพจผม หรือทนายอานนท์ นำภา หรือพี่นกแดง เสรีภาพ และทีมงานสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์ได้ทุกๆคนนะครับ

เราขอสดงความยินดีกับอิสระภาพที่ได้รับกลับมาอีกครั้งหลังถูกความอยุติธรรมแห่งรัฐไทยช่วงชิงเอาไป 1 ปี กับอีก 3 เดือน
แล้วเราจะได้พบกับบทเพลงจากเรือนจำของ"นักโทษการเมืองเสื้อแดง"คนนี้ ได้บนเวทีประชาชน ที่ราชประสงค์ วันที่ 19 สิงหาคมนี้ครับ

******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง: "ศ.ดร.ธงชัย" วิเคราะห์มาตรา 112









นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ยอมรับว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม เนื่องจากถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม เพราะมีโทษสูงและศาลมักจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว แต่หากแก้ไขปัญหานี้ได้อาจกลายเป็นกุญแจสู่ปัญหาอื่นๆ ในสังคมไทย

แม้การรณรงค์ให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์ จะถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นในช่วง 3-4 ปีนี้ แต่สำหรับ ศ.ดร.ธงชัย วินิจจะกูล นักประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา มีความเห็นว่า ควรแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมายมาตรานี้มานานแล้ว เนื่องจากถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหลายครั้ง

ศ.ดร.ธงชัย เชื่อว่าหากมีการถกเถียงเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างเปิดกว้าง และนำไปสู่การทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ จะกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่การแก้ไขปัญหาอื่นๆ ในสังคมไทย

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ซึ่งหลังเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2549 กฎหมายมาตรานี้ถูกนำมาบังคับใช้อย่างเข้มงวด ทั้งการสั่งปิดเว็ปไซต์ และจับกุมตัวบุคคล โดยส่วนใหญ่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวต่อสู้คดีนอกเรือนจำ เนื่องจากมีโทษสูง

ณัฐวุฒิลบคราบน้ำตานักสู้ธุลีดินเหยื่อ10เมษา53