ที่มา ประชาไท
บอก ก่อนครับว่าผมเรียก ‘นายกฯปู’ ด้วยความไม่สับสนระหว่างความเป็น ‘นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย’ กับความเป็น ‘ปู’ แต่อย่างใด และหากปูในฐานะนายกฯ จะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า ‘ปู’ เวลาพูดกับใครๆ ผมก็ว่ามันไม่ทำให้ ‘แผ่นดินของเรา’ (ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง) ต้องเสียหายอะไร
หมู่นี้ ‘สื่อ’ มักจะถาม ‘ประเด็นคุณทักษิณ’ กับนายกฯปูเป็นรายวัน เรียกว่ากำลัง ‘เมามัน’ กับ ‘กระแสเสี้ยม’ ที่เริ่มจุดติดอันเป็นงานถนัดของสื่อในแผ่นดินของเรา หันไปมองสื่ออังกฤษบ้าง ว่ากันว่าก่อนหน้าจะเกิดเหตุจลาจลเผาห้าง คนผิวสี ราว 2,000 คนออกมาเดินขบวนเรียกร้องความเป็นธรรม ไม่มีสื่อใดๆ เสนอข่าวสะท้อนความคิดเห็นของพวกเขาเลย แต่หลังเหตุจลาจลแทบทุกสื่อต่างเอาไมค์ไปจ่อปากถามความเห็นของหนุ่มสาวตาม มุมถนนต่างๆ เรียกว่ายังดีที่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว สื่อบ้านเขายังคิดขึ้นได้ว่า ควรจะทำอะไร
แต่สื่อบ้านเราหลังเกิด เหตุการณ์ ยังนึกไม่ออกว่าควรจะทำอะไรต่อไป ไม่เคย ‘สงสัยอย่างจริงจัง’ ว่า ที่ชาวบ้านเขาออกมาต่อสู้ชนิดยอมตายนั้น เขามีความคิดความอ่านของเขาเองอย่างไร สื่อยังทำแบบเดิมๆ คือตามเอาไมค์ไปจ่อปากอภิสิทธิ์ สุเทพเป็นรายวัน ให้อภิสิทธิ์ สุเทพ พูดกล่าวหาชาวบ้านไปวันๆ เช่นว่า คนเสื้อแดงฆ่ากันเอง หมู่บ้านเสื้อแดงเป็นการแบ่งแยกประชาชน (ตอนนี้ประชาธิปัตย์กำลังคิดตั้งโรงเรียนการเมืองเลียนแบบโรงเรียน นปช.) ใช้แนวคิดจัดตั้งแบบคอมมิวนิสต์ อาจส่งผมกระทบต่อสถาบัน และความมั่นคง ฯลฯ
เรา รู้เรื่องราว ความคิดเห็นของหมู่บ้านเสื้อแดงจากสื่อต่างชาติ และสื่อไทยก็ไปแปลมานำเสนออีกที (ฮา ไหม?) เพราะวัฒนธรรมของสื่อไทยถนัดแต่การนำเสนอความเห็น (รวมทั้งไลฟ์สไตล์ ฯลฯ) ของชนชั้นปกครอง คนดัง และการสร้าง ‘กระแสเสี้ยม’ มากกว่า
ช่วงนี้ กระแสเสี้ยม ‘ประเด็นทักษิณ’ กำลังจุดติด ไม่ว่าคุณทักษิณจะไปเยอรมนี เขมร ญี่ปุ่น สื่อไม่ใช่แค่รายงานข่าวการไปไหน ทำอะไร แต่เที่ยวเอาไมค์ไปจ่อปากแบบมีสมมติฐานล่วงหน้าว่าการไปนั้นอาจเป็น ‘ความผิด’ การตั้งคำถามนำจึงออกมาในท่วงทำนองใครอยู่เบื้องหลังการไปนั่นไปนี่ของ ทักษิณ ใครที่อยู่เบื้องหลังนั้นควรรับผิดชอบอย่างไร มีกระบวนการอะไรที่จะทำให้เขารับผิดชอบ เป็นต้น
แต่ถ้าผมเป็นนายกฯปู ผมจะตอบสนอง ‘กระแสเสี้ยม’ ตรงไปตรงมา ดังนี้
สื่อ : คุณอภิสิทธิ์บอกว่า กำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูว่า รมต.ต่างประเทศไปบอกทูตญี่ปุ่นให้รัฐบาลเขาออกพาสปอร์ตให้คุณทักษิณเข้า ประเทศผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดต้องมีผู้รับผิดชอบ
ปู : อ๋อ คุณอภิสิทธ์ก็น่าจะเคยมีประสบการณ์มาบ้างนะคะว่า ตอนเป็นนายกฯ เขาสั่งประเทศอื่นๆให้ทำตามที่ต้องการได้หรือไม่ ปูว่าใน ‘แผ่นดินของเรา’ มันก็มีปัญหาสำคัญที่คนเป็นนักการเมืองควรต้อง ‘แสดงความรับผิด’ ชอบ มากกว่านี้อย่างเทียบกันไม่ได้ไม่ใช่หรือคะ เช่น ‘ต้องรับผิดชอบต่อ 91 ศพ’
สื่อ : คุณอภิสิทธิ์บอกว่า คุณทักษิณเป็นนักโทษหนีคุกที่ต่างประเทศต้องส่งตัวกลับมารับโทษที่ประเทศไทย สมัยรัฐบาลของเขาได้พยายามขอความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้รัฐบาลเพื่อไทยต้องดำเนินการต่อ
ปู : ทราบว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์อธิบายกับประเทศต่างๆ ว่า คุณทักษิณหนีคดีอาญาธรรมดา แต่คุณทักษิณอธิบายว่าเป็นคดีการเมือง เพราะมีการกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชัน ล้มล้างสถาบันเป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร สุดท้ายเอาผิดติดคุกด้วยข้อหาเซ็นชื่อให้เมียซื้อที่ดิน ผู้นำประเทศต่างๆ เขาก็มีสมอง เขาจึงเชื่อคุณทักษิณมากกว่า มันก็เป็นสิทธิของเขานี่คะ สิ่งที่รัฐบาลนี้ต้องดำเนินการต่อคือต้อง ‘นำตัวฆาตกร 91 ศพ มาขึ้นศาลให้ได้’ ค่ะ
สื่อ : คุณอภิสิทธิ์บอกว่า นิรโทษกรรมเพื่อคนๆ เดียว ยังไงก็ทำไม่ได้
ปู : ถ้าคนๆ เดียว ไม่ว่าใครก็ตาม จะเป็นอภิสิทธิ์ หรือสุเทพก็ได้ ถูกเอาผิดทางกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม การช่วยคนๆ นั้นให้พ้นผิดก็เท่ากับช่วยคนทุกคนนั่นแหละค่ะ เพราะมันเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องว่า หากใครก็ตามถูกเอาผิดอย่างไม่ยุติธรรม สังคมนี้ต้องไม่ยอมรับ ต้องช่วยให้เขาพ้นจากการเอาผิดที่ไม่ยุติธรรมนั้น ภายภาคหน้าหากคุณอภิสิทธิ์ หรือใครก็ตามถูกกระทำแบบนั้น สังคมก็ควรปกป้องด้วยบรรทัดฐานเดียวกันนี้
สื่อ : คุณอภิสิทธิ์บอกว่า นั่นเป็นการไม่เคารพกฎหมาย ทำลายหลักนิติธรรม นิติรัฐ
ปู : นิติธรรม นิติรัฐ หมายถึงการปกครองโดยหลักกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคแก่ทุกคน ซึ่งหลักดังกล่าวนี้เป็นหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ แต่การเอาผิดคุณทักษิณเป็นการใช้กฎหมายภายใต้ระบบอำนาจของฝ่ายรัฐประหารที่ ยึดอำนาจรัฐบาลประชาธิปไตย ฉะนั้น ภายใต้ระบบอำนาจรัฐประหารที่เอาผิดศัตรูทางการเมืองจึงไม่ใช่การใช้หลักนิติ รัฐ นิติธรรม เช่น คุณอธิบายไม่ได้ว่ากระบวนการสอบสวนเอาผิดโดย คตส.ที่ฝ่ายรัฐประหารตั้งขึ้นให้ดำเนินการตามข้อกล่าวหาของฝ่ายตน เป็นกระบวนการยุติธรรมที่ ‘เป็นอิสระ’ และ ‘เป็นกลาง’ ตามหลักนิติธรรมอย่างไร
ปูอยากฝากบอกคุณอภิสิทธิ์ด้วยนะคะ การเคารพกฎหมายต้องใช้กฎหมายบนหลักความยุติธรรมค่ะ ที่สำคัญในฐานะเป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชนต้องมี ‘ความเป็นมนุษย์’ ด้วย ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคารพต่อ ‘ชีวิตประชาชน’ ด้วย
สื่อ : คุณอภิสิทธิ์บอกว่า ถ้ารัฐบาลนี้จะนิรโทษกรรมคุณทักษิณ พาคุณทักษิณกลับประเทศ บ้านเมืองจะแตกแยก ไม่มีทางปรองดองกันได้
ปู : คือ เราต้องยุติธรรมกับคำว่า ‘บ้านเมือง’ เหมือนกันนะคะ บ้านเมืองจะไม่ปรองดองหรือคุณอภิสิทธิ์จะไม่ยอมปรองดองเองคะ ถ้าคุณอภิสิทธิ์ไม่ยอมปรองดองก็เป็นสิทธิของเขาค่ะ ปูคิดว่าคนในบ้านเมืองหรือสังคมเราคงมี ‘วุฒิภาวะ’ พอที่จะเข้าใจได้ว่า ทำไมคุณอภิสิทธิ์รับได้กับการที่ฝ่ายรัฐประหารนิรโทษกรรมแก่ตนเอง แต่รับไม่ได้กับการที่ฝ่ายถูกทำรัฐประหารจะถูกนิรโทษกรรม แต่หลักการนิรโทษกรรมก็คือ ‘ใครก็ตามที่ถูกทำรัฐประหารและถูกเอาผิดโดยกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็น อิสระและเป็นกลางซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรม เขาก็ไม่สมควรต้องรับโทษตามกระบวนการที่ไม่ยุติธรรมนั้น’ ปูคิดว่านี่เป็นเหตุผลที่อธิบายอย่างตรงไปตรงมาให้สังคมเข้าใจได้ค่ะ การนิรโทษกรรมแก่คุณทักษิณ หรือการพาคุณทักษิณกลับบ้าน อาจสร้างความไม่พอใจแก่คนบางกลุ่ม แต่จะไม่ถึงกับทำให้บ้านเมืองแตกแยก หรือแผ่นดินลุกเป็นไฟอย่างที่คนบางกลุ่มพยายามสร้างกระแสหรอกค่ะ
สื่อ : คุณอภิสิทธิ์บอกว่า การตั้ง ครม.หรือการบริหารงานของนายกฯ อาจไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะนายกฯปู เป็น ‘โคลนนิ่ง’ ของคุณทักษิณ
ปู : อ๋อ ปูต้องรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีของประเทศ ต้องทำตามสัญญาประชาคมอยู่แล้วค่ะ แต่ปูก็มีสิทธิ์ที่จะรับคำแนะนำจากคุณทักษิณหรือใครก็ได้ที่จะเป็นประโยชน์ ต่อการทำงานเพื่อ ‘แผ่นดินของเรา’ ที่สำคัญคือ ถ้าปูในฐานะนายกรัฐมนตรีจะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ ไม่ว่าเรื่องนิรโทษกรรมหรือเรื่องใดๆ ปูก็จะทำกับคุณทักษิณในฐานะที่เขาเป็นคนไทยคนหนึ่ง บนหลักการที่อธิบายได้ว่าเป็น ‘ความยุติธรรมภายใต้หลักความเสมอภาคตามกฎหมาย’ เท่านั้นค่ะ
สื่อ : ขอบคุณมากค่ะ/ครับ นายกฯปู
ปู : ยินดีค่ะ บ๊ายบาย ปูเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน รักทุกคนนะคะ จูจุ๊บ จูจุ๊บ!!