ที่มา มติชน
|
แม้ล่าสุด "พรรคเพื่อไทย (พท.)" จะสามารถชนะเกมงัดข้อกับ "พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)" ในการกำหนดวันและเวลาในการประชุมสภาได้ ด้วย "จำนวนมือ" ที่มีมากกว่าเกือบ 1 เท่าตัว
แต่กว่าจะ "ชนะโหวต" ได้ ก็เล่นเอา "คนบนบัลลังก์" อ่วมไปพอสมควร
หลัง จาก ปชป.ส่ง ส.ส.รุ่นใหม่-รุ่นกลาง ออกมาลองของ "ท่านประธานมือใหม่" อย่างต่อเนื่อง จนเจ้าตัวต้องรีบสั่งปิดประชุมทันทีเมื่อสิ้นวาระ
เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าจากนี้ไป "รัฐบาล 300 เสียง" จะต้องเผชิญสารพัดด่านทดสอบ "น้ำลาย" แบบนอนสต๊อบ
อย่า ลืมว่า แม้อำนาจบริหารจะอยู่ในมือ "ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แต่งานหลายอย่างจะต้องผ่านเวทีนิติบัญญัตินี้ โดยเฉพาะการออกกฎหมายสำคัญ
อย่า คิดว่าทุกอย่างจะง่าย เหมือนการขอหนังสือเดินทาง (วีซ่า) เข้าประเทศญี่ปุ่นให้ "นายใหญ่ดูไบ" ที่เพียงเรียกทูตมาคุยกัน 2 ต่อ 2 ก็ฉลุย
เพราะในสภามีหู-ตาของฝ่ายค้านอย่างน้อย 159 คู่ จับจ้อง-จับผิด การกระทำของ "รัฐบาลโคลนนิ่ง" ทุกฝีก้าว
หากไล่เวทีที่ ปชป.จะได้แสดง "แสนยานุภาพทางปาก" บอกได้คำเดียวว่า "พรรคขวัญใจคนเสื้อแดง" สาหัสแน่!
ไม่ ว่าจะเป็น การแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคมนี้ ที่ทุกฝ่ายจับตาว่านโยบายร้อน อาทิ ขึ้นค่าแรง 300 บาท ขึ้นค่าตอบแทนปริญญาตรี 15,000 บาท จะไปอยู่ในหมวด "เร่งด่วน-ทำทันที" หรือไม่
รวมถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ที่คาดว่าพิจารณาได้ราวปลายปีนี้ ก็เป็นเวที "โชว์ของ" ของฝ่ายค้านดีๆ นี่เอง
ยังไม่รวมถึงการตรวจสอบผ่านคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญชุดต่างๆ ที่ "ขุนพล ปชป." เตรียมยื้อ-แย่ง กมธ.คณะดีๆ มาไว้ในกำมือ สำหรับเป็น "หอกข้างแคร่" ไว้เตะตัดขา "ครม.ปูจ๋า" ให้ล้มได้ทุกเวลา
ที่ไล่มาข้างต้น เป็นเพียงภารกิจปกติ-งานประจำเท่านั้น หากรวมถึง "ภารกิจพิเศษ" ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือออกกฎหมายนิรโทษกรรม
เชื่อว่าหาก "ดัน" เข้า "สภา 500" เมื่อไร อาจมีใครบางคนเมาน้ำลาย จนถูก "น็อกกลางสภา" ได้ง่ายๆ
เพราะ ต้องไม่ลืมว่า แม้สังคมบางจะแหนงหน่าย ปชป.สมัยเป็นรัฐบาล แต่น่าแปลก เมื่อกลับมาเป็นฝ่ายค้าน "เสียงเชียร์" มักกระหึ่มทุกครั้งที่พรรคเก่าแก่นี้ออกอาวุธ
และแม้หลายวาระของรัฐบาลจะใช้ "เสียงข้างมากลากถู" ไปได้ แต่ "ความชอบธรรมทางสังคม" ก็มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเช่นกัน
เคยมีตัวอย่างมาแล้วในยุค "รัฐบาลทักษิณ 2" ที่มี 377 เสียงในสภา มากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่ท้ายสุดก็ยังอยู่ไม่ได้
ยิ่ง เวลานี้ ปชป.เตรียมวาง "ตาข่ายฟ้าดิน" ไว้ดักจับการทำงานของรัฐบาลหลายชั้น ทั้งวิปฝ่ายค้าน ครม.เงา กมธ.ชุดต่างๆ ศูนย์ติดตามนโยบายและการทุจริต รวมไปถึงกองกำลังอิสระ-หมู่บ้านอำมาตย์ที่นำโดย "สุเทพ เทือกสุบรรณ"
เมื่อเจอ "เขี้ยวลากดิน" ระดับนี้ พท.ได้เหงื่อตกแน่
และ แน่นอนว่า เมื่อถึงเวลานั้น "ยิ่งลักษณ์" จะหนีการตรวจสอบ-เดินแหวกวงล้อม หลังเจอ "คำถาม" ที่ "ตอบไม่ได้" เหมือนที่ชอบทำกับนักข่าว ไม่ได้แล้ว
พท.ได้หวนคืนอำนาจไม่ถึง 1 เดือน ก็แสดงให้เห็นถึง "จุดอ่อน" เดิมๆ นั่นคือ "กลเกมในสภา"
แม้มี "ดาวไฮด์ปาร์ก-แกนนำม็อบ" อยู่เต็มพรรค แต่งานสภานั้น ต่างจากการนำมวลชนแบบ "คนละเรื่อง"
เปรียบเทียบง่ายๆ สมัย "ชัย ชิดชอบ" นั่งอยู่บนบัลลังก์ หากมี ส.ส.ฝ่ายค้านลองดีประธานมากๆ ก็จะมีคน ปชป.ยกมือขึ้นช่วยแล้ว
แต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา "ขุนค้อน" กลับถูกกระหน่ำอยู่แบบ "วัน แมน โดน (ถล่ม)" ทั้งๆ ที่ "ประธานสภา" เป็นผู้กำหนดเกมในสภาแทบทุกอย่าง เหมือนที่ "ปู่ชัย" เคยทำจนได้รับฉายา "ตลกเฒ่าร้อยเล่ห์" นับแต่การปิด-เปิดไมค์ ชี้นิ้วให้ใครพูด-ไม่พูด ไปจนถึงการดึงวาระว่าอันไหนควรพิจารณาก่อน-หลัง
จะทำตลกลดแรงกดดันจากฝ่ายค้าน หรือสวมบทโหด รวบรัดโหวต-ปิดประชุม ก็ยังได้
แต่ พท.กลับแสดงให้เห็นถึง "จุดบอด" นี้ เร็วเกินไป หากไม่รีบปรับตัว อาจกลายเป็น "จุดตาย" และทำให้รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" มีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควร!!!