WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, August 17, 2011

"ระวังจะพังเพราะคนกันเอง" รัฐบาลยิ่งลักษณ์1

ที่มา thaifreenews

โดย bozo



กลายเป็น "นารีให้โชค" แบบไม่รู้ตัว เมื่อรถตู้คันที่นายกรัฐมนตรีหญิง
ใช้เดินทางไปไหนมาไหนเป็นประจำ ทะเบียนป้ายแดงที่ลงท้าย 62 ดันไปตรงกับหวยเลขท้าย 2 ตัว
ที่ออกงวดนี้พอดิบพอดี แถมมีคนทักอีกว่า ไปตรงกับเลขอายุปีนี้ของพ.ต.ท.ทักษิณอีก
ถึงตอนนี้ "ยิ่งลักษณ์" ดวงกำลังขึ้น ทำอะไรก็เข้าทางไปหมด ติดลมบนได้เป็นนายกรัฐมนตรี
แถมโชคยังดีอีกต่างหาก แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจนัก



แม้ศึกภายนอกจะยังทำอะไรไม่ได้ แต่กับศึกภายในที่เริ่มระอุ ตั้งเค้าก่อตัวเป็นพายุ
"ระวังจะพังเพราะคนกันเอง" คงจะไม่ถึงกับพูดเกินเลยไป สำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1
ที่กำลังจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 24 ส.ค.ที่จะถึงนี้
เสร็จแล้วก็จะเข้ามาทำงาน กุมบังเหียนแก้ปัญหาให้กับประเทศอย่างเป็นทางการ
ด้วยการประเดิมงานแรกคือ แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
ถึงขนาดมีการปลุกผี โครงการก่อสร้าง "เขื่อนแก่งเสือเต้น" ออกมา
รวมทั้งต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัย
โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำยมอย่างเร่งด่วน


ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร


ขณะที่นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีใหม่ 15,000 บาท
ที่ถูกจัดให้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ก็ต้องผลักดันต่อไป
งานของรัฐบาลเพื่อไทยข้างหน้าเห็นชัดว่าหนักหนาสาหัสแน่
เพราะเอาเข้าจริง ยังไม่ทราบว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
เนื่องจากต้องยอมรับว่า จะมีปัญหาหลายอย่างติดตามมา
ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จะพุ่งสูงขึ้น
หรือภาคเอกชนที่ออกมาคัดค้าน แต่ถึงอย่างไร
เรื่องนี้ประชาชนก็ยังให้โอกาสรัฐบาลในการทำงานอีกสักระยะหนึ่ง

แต่กับกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำ
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จุดพลุเรียกร้อง
ให้รัฐบาลต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหายกับประชาชนผู้เสียชีวิต 91 รายๆ ละ 10 ล้านบาท
รวมไปถึงเยียวยาผู้บาดเจ็บกว่า 2,000 คน ในเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.2553 นั้น
กลับกลายเป็นประเด็นร้อนเพียงชั่วข้ามคืนของสังคม
เพราะหลายฝ่ายเห็นว่า ไม่เหมาะสมที่รัฐบาลและประเทศชาติจะต้องจ่ายเงินชดเชยถึงขนาดนั้น
แม้แต่ตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีเองก็ยังแสดงความไม่เห็นด้วย


จตุพร พรหมพันธุ์


ขณะที่นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังออกมาระบุ
ให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
ที่มีนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด เป็นประธาน ได้สอบสวนและสรุปข้อเท็จจริงก่อน
โดยรัฐบาลจะขอยึดผลการสอบสวนของคณะกรรมการคอป.
จึงจะมีการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม และเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย คือ
ไม่เออออ รัฐต้องจ่ายค่าชดเชยคนละ 10 ล้าน ตามแกนนำนปช.ระบุ

เริ่มต้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ก็ทำท่าจะขัดแย้งกับกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง
ที่ต้องยอมรับว่าเป็นฐานเสียงสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยประสบชัยชนะในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
หรือจะเรียกว่าเป็นคนกันเองทั้งนั้นก็ได้
ซึ่งเชื่อแน่ว่า นายกรัฐมนตรีหญิงก็ทราบว่าไม่เป็นผลดีแน่ หากเกิดความขัดแย้งกับแกนนำนปช.
ซึ่งความเป็นจริงอีกสถานะหนึ่งก็คือลูกน้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั่นเอง
เพราะมีตำแหน่งเป็นส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พท. ทั้งนั้น

น่าคิดว่าการที่นายจตุพรออกมา ทวงสัญญาโดยอ้างว่า
พรรคเพื่อไทยเคยให้สัญญากับคนเสื้อแดง สุดท้ายแล้วในความเป็นจริงต้องการอะไรกันแน่
จะเรียกร้องไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ต้องการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต
จากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองจริง
หรือมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่หรือไม่ คงไม่มีใครทราบได้นอกจากเจ้าตัวเท่านั้น


สุรวิทย์ คนสมบูรณ์


หากให้วิเคราะห์ ก็น่าเห็นใจรัฐบาล เพราะหากตกลงให้มีการจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายแก่ญาติผู้เสียชีวิต
ตามที่นายจตุพรระบุถึงรายละ 10 ล้านบาทจริง รัฐบาลก็คงยากจะตอบคำถามกับสังคม
และรวมถึงญาติของวีรชนผู้เสียชีวิต
ทั้งจากเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 หรือ 6 ต.ค.2519 รวมไปถึง พ.ค.2535
เกี่ยวกับเรื่องความเป็นธรรม เหตุใดรัฐบาลชุดก่อนถึงไม่มีการเยียวยาให้
และอาจเลยเถิดไปถึงเรียกร้องให้มีการทบทวนจ่ายเงินชดเชยก็เป็นได้

นี่ยังไม่นับรวมกรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
จู่ๆ ก็ออกมาทดลองเรียก "แขกม็อบ" ชี้ช่องให้พรรคเพื่อไทย
ใช้วิธีการเลี่ยงกฎหมายไม่ต้องแก้ไขรธน.มาตรา 291 คือให้คงหมวด 1 และ 2
ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไว้ แล้วเสนอแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตรา
นำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่เหลือ มาสวมใช้แทน เป็นการเลี่ยงข้อกฎหมาย ซึ่งใช้เวลา 3 เดือนก็จบ

ทำให้รัฐบาลที่นำโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอนนี้อยู่ในอาการที่เรียกว่า "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" แน่
ถ้าแกนนำนปช.ยังคงยืนกรานให้รัฐต้องจ่ายเงินมากถึงรายละ 10 ล้าน
เพื่อเป็นการเยียวยาผู้เสียชีวิต ไม่ใช่ว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะมีมากหรือน้อย
เพราะชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่สูญเสียไป แน่นอนว่าไม่สามารถตีเป็นราคาค่างวดได้
แต่ถึงอย่างไร รัฐบาลก็คงต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมกับประชาชนคนอื่นๆ
ถ้าคิดจะช่วยด้วยการจ่ายค่าชดเชยขนาดนั้น



สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์


ดังนั้นปัญหานี้จึงน่าจะกลายเป็นเสมือนจุดตายรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ที่ดูเหมือนไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว
ยิ่งหากทิ้งให้นายกรัฐมนตรีหญิงเป็นคนแก้อยู่คนเดียว
ในทางกลับกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อรัฐบาลเพื่อไทยได้



สุดท้าย บุคคลที่จะแก้ปัญหานี้ นอกจากน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยู่หน้าฉากแล้ว
ก็คงหนีไม่พ้นพ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่หลังฉาก
และออกมายอมรับกับสื่อต่างประเทศว่าเป็นผู้แนะนำตั้งครม.ปู 1 กับมือ
อาจนับรวมถึงคุณหญิงพจมาน ณ บ้านจันทร์ส่องหล้า
ซึ่งสังคมเชื่อว่าเป็นผู้ถืออำนาจตัวจริง
ทั้งในพรรคเพื่อไทย และในกลุ่มแนวร่วมนปช. จะป็นผู้เข้ามาไกล่เกลี่ยแทน...
หรือใครจะเถียงว่าไม่จริง



http://www.thairath.co.th/content/pol/194474