ที่มา ประชาไท
พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เบิกตัวนายเจ๊ะแว แนซา บิดาของนายสุไลมาน มาเป็นพยานปากแรก โดยมีล่ามภาษามลายูมาแปลคำเบิกความ เนื่องจากนายเจ๊ะแวไม่สามารถเบิกความเป็นภาษาไทยได้
นายเจ๊ะแวเบิก ความสรุปว่า ตนไม่เชื่อว่านายสุไลมานจะผูกคอตายเองภายในสถานที่ควบคุมตัวภายในค่ายอิง คยุทธบริหาร และไม่เคยให้การต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสายบุรี จังหวัดปัตตานี ว่า ไม่ติดใจสาเหตุการตายของนายสุไลมาน และจะไม่ดำเนินคดีใดๆ อีก รวมทั้งข้อความในลักษณะเดียวกันที่ปรากฏในคำชี้แจงของกองอำนวยการรักษาความ มั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ไม่เป็นความจริง
จากนั้น พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เบิกตัวพยานรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่ถูกควบคุมตัวในช่วงเดียวกับนายสุไลมาน มีหน้าที่แจกอาหารให้ผู้ถูกควบคุมตัวรายอื่นๆ เบิกความสรุปว่า ไม่เห็นว่านายสุไลมานถูกทำร้ายร่างกาย แต่เห็นประตูห้องพักนายสุไลมานมีโซ่คล้องอยู่ ส่วนหน้าต่างเปิดแง้มเล็กน้อย มีโอกาสที่ได้พบนายสุไลมานเพียงตอนไปส่งอาหารให้เท่านั้น
พยานปาก เดิมยังเบิกความอีกว่า วันที่นายสุไลมานเสียชีวิต ตนได้นำอาหารไปให้ แต่นายสุไลมานไม่เปิดประตูออกมา เรียกชื่อหลายรอยก็ไม่มีเสียงขาน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงมาไขกุญแจเปิดประตูพบว่า นายสุไลมานเสียชีวิตในท่าถูกแขวนคอกับลูกกรงเหล็กหน้าต่าง
พยานปาก เดิม เบิกความด้วยว่า ระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ได้เรียกไปซักถามหลายครั้ง หลายครั้งถูกเรียกซักถามตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึงตี 5 ของอีกวัน และถูกทำร้ายร่างกายระหว่างถูกซักถามด้วย