ที่มา thaifreenews
โดย ปลายอ้อกอแขม
ดูจะเป็นเดือดเป็นแค้นเสียนักหนา กับการได้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (รมว.กต.)ของ ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ของผม ทำเหมือนกับว่าประเทศไทยนี้ จะต้องถึงแก่กาละพินาศลงภายใน 3 วัน 7 วันทำการทีเดียว..พ่อคุณแม่คุณเอ๊ย
เบาๆ หน่อยก็ได้ เกรงอกเกรงใจกันบ้างเถอะ เพราะพวกคุณๆก็ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทยกันอยู่แล้วมิใช่หรือ? แต่พอเขาจะเลือกคนนั้นคนนี้ ดันทะลึ่งทำเป็นเดือดร้อน ทำท่าจะเป็นจะตายเสียให้ได้..รู้ทันหรอก !
ขอ วิงวอน ฯพณฯท่านทั้งหลาย ขอได้โปรดให้คนที่เลือกพรรคเพื่อไทย “ตัวจริงเสียงจริง”อย่างผมๆทั้งหลาย เดือดร้อนกันเองดีกว่า ไม่ต้องมาแสดงความปรารถนาดี “เดือดร้อน”แทนพวกผมหรอก พวกผมมีสติปัญญาจะเดือดร้อนกันเองได้ ..ไหว้ละนะ !
ถ้า จะมากล่าวหา “ดร.ปึ้ง”ของผมไม่รู้เรื่องการต่างประเทศ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการทูต แถมหน่อมแน้มบ้างอย่างนี้ ถ้าผมจะย้อนให้บ้างว่าแล้วอีตากษิต ภิรมย์ ของท่านผู้มีประสบการณ์ทางการทูตอันสูงส่งล่ะ วันนี้ ประเทศไทยภายใต้ท่านอดีตทูตกษิตเป็นอย่างไร? ความสัมพันธ์ทางการทูตกับเพื่อนบ้านยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวหรือไม่ ..วานบอก !
ผมเคยได้ข่าวไม่ได้กรองมาว่า อีตากษิตถูกทูตรัสเซีย เรียกไปตบโต๊ะ ชี้หน้าด่าว่า “เอ็งจะมายุ่งก๊ะตูทำซากอะไรวะ ตูจะให้ใครเข้าหรือไม่เข้าประเทศ ก็เรื่องของตู เดี๊ยะๆ บ้องหู”..ประมาณนี้
ในข่าวบอกว่า กษิตเดินคอตกจากสถานทูตรัสเซีย ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เนื่องจากทูตรัสเซียตัวใหญ่กว่า แถมได้เปรียบทั้งน้ำหนักและช่วงชก เลยไม่กล้าเสี่ยง นับแต่นั้นมา ทักษิณจะไปไหนในรัสเซีย กษิตก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปสวน ม่ายรู้ม่ายชี้..เกรงทูตรัสเซียบุกต่อยคากระทรวง
การที่คนไม่มี ประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆมาก่อน แล้วจะไปเหมาเอาว่าเขาจะทำเรื่องนั้นๆไม่ได้ ที่โบราณเรียกว่า “ติเรือทั้งโกรน” อันเป็นการดูถูกคนอื่นที่ถือว่าเป็นการดูถูกตนเองนั่นแหละ ..กบในกะลา
ตาม ข้อเท็จจริง สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยได้ทำงานตรงกับสายวิชาชีพที่ตนเองได้เรียนมาสักเท่าไหร่ เรียนมาอย่างหนึ่ง แต่ทะลึ่งไปทำงานอีกอย่างหนึ่ง..ถามตัวเองดู
ยก ตัวอย่าง ในสภาผู้แทนราษฎรของไทย จะมี สส.สักกี่คนที่จบด้านรัฐศาสตร์ หรือการเมืองการปกครอง ประเภทตั้งใจมาเป็น สส. แล้วก็ได้เป็น สส. ..สัก 10 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ?
ประเทศไทย ยังไม่มีโรงเรียน สส. เปิดสอนหลักสูตรการเป็นผู้แทนราษฎร ฉะนั้น ก็เห็นมีแต่ สส.ที่เป็นทนายความ,นายแพทย์,ครูบาอาจารย์,วิศวกร,นักธุรกิจ,ทหาร,ตำรวจ,ข้า ราชการอื่นๆ,ผู้ใหญ่บ้าน,กำนันและเมียกำนัน..ที่เป็นสส.
การที่ บอกว่ากระทรวงต่างประเทศต้องได้คนที่มีประสบการณ์ ต้องใช้คนที่มีชั้นเชิงในการเจรจาความเมือง เพราะต้องติดต่อกับชาวโลก นั่น มันเป็นเพียงความเชื่อถือแบบเดิมๆ หรืออาจเป็นเพียงข้ออ้างที่จะพยายามทำให้กระทรวงการต่างประเทศเป็น “เมืองลับแล”ที่มีเพียงลูกท่านหลานเธอไปอยู่กันเท่านั้น มันเป็นปัญหาของพวกคุณ ..ไม่ใช่ปัญหาของ ดร.สุรพงษ์
แต่ผมจะไม่ เห็นด้วยอย่างยิ่ง และจะคัดค้านด้วยกันกับคุณๆอย่างถึงที่สุด ถ้าใครก็ตามแต่งตั้งนายชวน หลีกภัย หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปเป็น รมว.ต่างประเทศ..เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
อีกอย่างที่สำคัญ ดร.ปึ้ง เป็นรัฐมนตรีคุมนโยบาย ซึ่งก็ไม่ได้ทำงานคนเดียว ยังมีทีมงานอีกยั๊วะเยี๊ยะ มีข้าราชการประจำกระทรวงซึ่งรู้งานดีอยู่แล้ว แถมยังมี “ครูใหญ่”อดีตอภิมหารัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ทักษิณ ชินวัตร เป็น “แบ็คอัพ”อยู่อีก..งานนี้ฉลุย
ดีไม่ดี เมื่อผ่านการประเมินผลงานรัฐมนตรีครบ 6 เดือนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดร.ปึ้ง สุรพงษ์ อาจจะได้รับการโหวตจาก AF ให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งโลกก็ได้..แต่คงไม่ไปถึงนอกโลก
ว่า มาก็ว่าไป ก็เมื่อนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่มีความรู้ด้านการทหารแม้สักนิด ปืนก็ไม่เคยยิง รถถังก็ไม่เคยขับ ยังอุตส่าห์สะแหลนมานั่งเป็น รมว.กลาโหมหน้าตาเฉย..รอรับรายงานอย่างเดียว
ซ้ำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ก็ไม่เคยรู้เรื่องกิจการของตำรวจ แม้แต่จะตั้ง ผบ.ตร.ก็ยังไม่ได้ ถูก กตช.ตบเด้งหน้าเด้งหลังหัวฟาดพื้น ก็ยังมีหน้ามานั่งคุม สตช.อยู่ได้ 2 ปี..ตำรวจยังเกลียดไม่หาย
ก็แล้วไฉน คนที่มีดีกรีถึงระดับด็อกเตอร์เหนือชั้นกว่านายชวนและนายอภิสิทธิ์อย่าง ดร.สุรพงษ์ จะมานั่งเป็น รมว.ต่างประเทศกับเขาบ้างไม่ได้เชียวหรือ..หื๋อม์ ?
มั่น ใจว่าพรรคเพื่อไทยได้คัดสรรบุคคลที่เหมาะสมแล้วสำหรับกระทรวงต่างๆมานั่ง เป็นรัฐมนตรี แม้แต่นักวิชาการตรงกันข้ามอย่าง ดร.ไชยยันต์ ไชยพร ยังบอกว่าหน้าตารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยดีกว่ารัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เสียอีก..จะไม่เชื่อได้ไง
แต่โดยส่วนตัวของผม เชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์สำหรับ ดร.ปึ้ง สุรพงษ์ ว่างานของกระทรวงต่างประเทศ จะต้องราบรื่น โปร่งโล่ง ปราศจากอุปสรรคและปัญหา เพราะแค่ทูตของประเทศต่างๆที่มาเข้าพบท่านดร.สุรพงษ์ ได้เพียงเงยหน้าขึ้นสบตาท่านรัฐมนตรีและอาจมองเลยขึ้นไปสักนิดเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่เคยติดขัด คลุมเครือ ก็จะมีอันแนบแน่น สว่างใสขึ้นอย่างทันทีทันใด..คนอาไร๊ โหงวเฮ้งดีจริงๆ ผับผ่าซิ !!!