WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, January 13, 2008

ไปทางไหน [13 ม.ค. 51 - 18:58]

ฝุ่นการเมืองยังคลุ้งทุกอย่างยังเดินหน้าไม่ได้ กกต. คือสถานที่จะคลายปมต่างๆชี้ชัด “ทักษิณ” น่าจะเลือกสมานฉันท์ มากกว่ารุนแรงเพื่อเซฟตัวเอง


ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ กว่าจะฝ่าสถานการณ์ไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลดูจะยุ่งยากไม่ใช่เล่น แม้แต่กฎหมายก็ยังไม่ชัดเจน

การชี้ขาดตัดสินจึงเป็นไปแบบกระท่อน กระแท่นเต็มทน

นอกเหนือจากใบเหลือง-ใบแดงที่ กกต. แจกให้แก่ผู้สมัคร ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้นไม่ใช่มีแค่ ส.ส.เขตเท่านั้น

แต่ ส.ส.ระบบสัดส่วนก็อยู่ในข่ายด้วย ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีกรณีนี้ และไม่มีผู้สมัครคนใดถูกแจกใบเหลือง-ใบแดง

ครั้งนี้ปรากฏว่า กกต.ได้รับคำร้องถึงพฤติกรรมกระทำผิดเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าเบอร์ 1 ของพลังประชาชน

“ยุทธตู้เย็น” คนได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ในระบบสัดส่วนเขตภาคเหนือ แต่ปรากฏว่าถูกร้องเรียนกระทำผิดเลือกตั้ง

มีซีดีทีเด็ดเป็นหลักฐานมัด

การชี้ขาดว่าผิดไม่ผิดดูจะไม่ยาก เพราะหลักฐานมันค่อนข้างจะชัดเจน แม้จะแก้ตัวยังไงก็ยาก

แต่ปัญหามันไม่ใช่ตรงนี้ มันไปอยู่ที่ว่าหากให้ใบแดงจะเกิดอะไรขึ้น นายยงยุทธจะโดนคนเดียวหรือเป็นพวง คือผู้สมัครระบบนี้ที่ได้รับการเลือกตั้งของพรรคเดียวกัน

จะต้องถูก “ใบแดง” หรือไม่?

นักกฎหมายกลุ่มหนึ่งชี้ว่าต้องโดนหมดทั้งยวง และอาจโยงไปถึงการ “ยุบพรรค” ด้วย แต่อีกกลุ่มมองว่าน่าจะเป็นเรื่องเฉพาะตัวมากกว่า

ไม่เกี่ยวกับคนอื่นหรือพรรค

ขณะเดียวกัน กรณี “ใบเหลือง” ก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีก เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดเอาไว้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร

ถ้าเลือกซ่อมกันใหม่จะทำอย่างไร...น่า ปวดกบาลแทนจริงๆ

ทำท่าว่า กกต.ตัดสินใจยากยิ่งและน่าจะออก 2 ทาง คือ “ใบแดง” ที่มีผลต่อนายยงยุทธเพียงคนเดียว

หรือ “ใบขาว” รอดตัวไปได้ทุกฝ่าย แต่ “หลักฐาน” มันยังดิ้นได้อยู่

แต่นี่คือจุดล่อแหลมที่พลังประชาชนหวั่นไหวไม่น้อย

อย่างไรก็ดี แม้ว่าพลังประชาชนจะตั้งรัฐบาล 6 พรรคได้ แต่ตำแหน่งนายกฯดู เหมือนว่าจะเกิดปัญหา 2 ด้าน

“สมัคร สุนทรเวช” กำลังนั่งลุ้นเก้าอี้ด้วยใจจดใจจ่อ

1. เรื่องคดีความต่างๆที่ติดตัวอยู่จะเอาตัวรอดได้หรือไม่

2. การยอมรับจากสังคมที่ไม่ค่อยจะเต็มที่เพราะท่าทีของนายสมัครเอง รวมถึงความรู้ความสามารถ ความสมานฉันท์

ยิ่งเปิดศึกกับบ้านสี่เสา...ยิ่งยุ่งและยังเป็นเรื่องค้างคาใจกันอยู่

แน่นอนว่าสถานการณ์การเมืองต่อไปข้างหน้านั้น หากไม่ยึดจุดสมานฉันท์ก็ต้องเปิดศึกฟาดฟันกันต่อไป

อยู่ที่ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องการเล่นบทไหน?

แต่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้น่าจะเลือกทางแรกมากกว่า เพราะแม้ว่าพลังประชาชนจะชนะเลือกตั้ง เป็นรัฐบาล มีอำนาจทางการเมือง

แต่...ในสถานการณ์ใหม่ เงื่อนไขใหม่ การใช้อำนาจในรูปแบบเก่าคงยาก และน่าจะรู้ดีว่าบทเรียนที่ผ่านมามันเจ็บแสบแค่ไหน

แม้จะชนะทางการเมืองได้

แต่ “คดีความ” และ “ขุมทรัพย์” ที่ถูกยึดน่าจะเป็นตัวชี้ขาดมากกว่า เพราะมันหมายถึงอิสรภาพและทรัพย์สินก้อนใหญ่

หนทางประนีประนอมด้วยอำนาจรัฐที่เหนือกว่า น่าจะทำให้โอกาสที่จะไม่สูญเสียมีมากกว่าการปะทะที่รุนแรง

มันคือทางเลือกที่จะต้องเลือก!!!


ลิขิต จงสกุล


คอลัมน์ สับรางวันอาทิตย์