แม้จะยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ผลโหวตในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเช้าวันที่ 28 มกราคม 2551 นี้ ก็ออกมาชัดเจนว่า จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากท่าน สมัรค สุนทรเวช ผมก็เลยใจร้อน อดรนทนไม่ได้ที่จะขอแสดงความยินดีก่อน
นับว่าคุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างสง่างามล๊ะครับ เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเป็นผลผลิตของการต่อสู้ทางการเมืองอย่างเข็มข้นในหนึ่งปีที่ผ่านมา คุณสมัครได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างยากเย็น ต้องต่อสู้กับอำนาจเผด็จการสารพัด แต่เมื่อมีประชาชนเป็นแนวร่วม เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กจึงทำให้พรรคพลังประชาชน สามารถฟันฝ่าอุปสรรคนานัปประการ ต้องเผชิญกับใบแดง และ กกต. ที่ไม่ค่อยจะเป็นกลางเท่าไหร่ ต้องเผชิญกับอำนาจทหาร ที่เข้าควบคุม ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนทุกกระเบียดนิ้ว จนจะขยับตัวไปทางไหน ก็จะต้องโดนหาเรื่อง "ยุบพรรค" ให้จงได้
ก็มีแต่ประเทศไทยเท่านั้นแหละครับ ที่เลือกตั้งสู้ไม่ได้ ก็จะหาเรื่องยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม พฤติกรรมอย่างนี้ไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนในโลกเขาทำกัน เพราะพรรคการเมืองเป็น การรวมตัวของประชาชน ต่อสู้กันทางการเมือง การยุบพรรคของประชาชนนั้น ในทางปฎิบัตินั้นมันทำไม่ได้ เพราะประชาชนก็จะรวมตัวกันตั้งพรรคใหม่ขึ้นมาต่อสู้ ด้วยแนวคิด และอุดมการณ์อันนั้นอีก เมื่อแนวคิดและอุดมการณ์ รวมทั้งพลังแห่งความศรัทธา ยังมีพลังของมันอยู่ ก็ไม่มีใครหน้าไหนที่จะทำลายได้
คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จากการร่วมกันต่อสู้ของพี่น้องประชาชน จำนวนมาก ทั้ง "พลร่ม" ที่สนามหลวง ที่แม้แต่ฝนตกก็ไม่ยอมกลับบ้าน กางร่มสู้กับสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่เกรงกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการ เพื่อให้ได้มีวันนี้
นอกจากชาวสนามหลวงแล้ว ชาวรากหญ้าทั้งในภาคอีสาน และภาคเหนือ ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ได้รับชัยชนะครั้งนี้ ต้องขอบคุณชาวรากหญ้าเหล่านี้ ที่มี "อุดมการณ์อันหนักแน่น" แม้ภายใต้กฎอัยการศึก และการบีบคั้นของ เผด็จการ คมช. อย่างไร พี่น้องชาวรากหญ้าของผมเหล่านี้ก็ไม่ได้หวั่นไหว ยังเทคะแนนให้พรรคพลังประชาชน อย่างไม่หวั่นเกรงอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น แม้จะโดนใบแดง คะแนนเสียงก็ไม่เปลี่ยนข้าง โดนจูงใจ สารพัดทั้งวิชามารต่างๆ พี่น้องชาวรากหญ้าเหล่านี้ก็ไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด
การได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ของท่านสมัคร สุนทรเวช จึงไม่ใช่เพียงเพื่อ "เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลสุนทรเวช" แต่มันเป็น "เกียรติสำหรับประชาชนที่มีใจรักประชาธิปไตยทั้งหลาย" เป็นเกียรติแก่ เสรีชน ที่ไม่ยอมสยบต่ออำนาจเผด็จการ และการครอบงำของสื่อ รวมทั้งเป็นเกียรติแก่ชาวรากหญ้า ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับ "อำมาตรยาธิปไตย"
เกียรติครั้งนี้จึงถือว่าใหญ่หลวงนัก
ผมไม่ได้เป็นห่วงว่า พรรคพลังประชาชน และท่านสมัคร สุนทรเวช จะเหลิงกับชัยชนะครั้งนี้ และชะล่าใจไม่ยอมทำงานหนักเพื่อประชาชน เพราะการต่อสู้ในปีกว่าที่ผ่านมานั้นมันได้หล่อหลอม ดวงใจทุกดวงในพรรคพลังประชาชน และมวลชนที่สนุนสนุนพรรคพลังประชาชนทั้งหลาย ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน มีสุขร่วมเสพย์ มีทุกข์ร่วมต้าน
ชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้เป็นชัยชนะของ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น แต่เป็นชัยชนะของประชาชนทุกคน
คนไทยก็ได้สอนบทเรียนจำนวนหลายครั้งแล้วให้พวกนักรัฐประหารทั้งหลายว่า พวกคุณทำรัฐประหารนั้นมันง่าย แต่การจะรักษาอำนาจไว้ด้วยปากกระบอกปืนนั้นมันทำไม่ได้ ไม่มีอำนาจใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าอำนาจของประชาชน ต่อให้มหาอำมาตย์ ศักดินายิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่มีใครที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าอำนาจของประชาชน
หนึ่งเสียงของประชาชน ที่กาบัตรเลือกตั้ง มีอานุภาพมากกว่า ปืนและรถถังของเหล่าอำมาตย์ยิ่งนัก
ผมคงไม่ฝากอะไรถึงคุณสมัครแล้วครับ เพราะผมเชื่อว่าพรรคพลังประชาชน คงมีข้อมูลอยู่แล้วว่าจะต้องทำงานอย่างไร เพื่อให้เสียงสนับสนุนของประชาชนนั้นไม่ผิดหวัง พรรคพลังประชาชน คงมีทีมงานที่ได้วิเคราะห์ ปัญหาของประเทศแล้วว่ามีปัญหาอะไรที่ต้องแก้ไขบ้าง อะไรก่อนอะไรหลัง อะไรเป็นปัญหาเร่งด่วน ที่ต้องดำเนินการทันที
ผมแค่ขอคารวะ และร่วม ส่งเสียง Cheer กับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของประชาธิปไตยครั้งนี้
ในฐานะ "นักรบไซเบอร์" คนหนึ่งที่ต้องต่อสู้มาอย่างยาวนาน ร่วมกับนักรบไซเบอร์ทั้งหลาย ตั้งแต่นายสนธิ ลิ้ม... เริ่มปฎิบัติการยุทธการอันชั่วช้า วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดวันหนึ่งครับ
แม้หลังวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ผมจะรู้แล้วว่าพรรคพลังประชาชนชนะ แต่สถานการณ์มันคลุมเครือ จนไม่อาจจะไว้วางใจได้สิ้น เหล่าอำมาตย์ และอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ทำท่าจะไม่ยอมรับประกาศิตของประชาชน
มีวันนี้เท่านั้นครับ ที่ท้องฟ้าแจ่มใสที่สุด ฟ้าเป็นสีทองผ่องอำไพ
อรุณเบิกฟ้า สำหรับประชาธิปไตยไทย ปี 2551
แม้เราจะต้องเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง แต่บทเรียนที่เราได้รับ ทำให้เราไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ เราสามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นใจ
ผมเชื่อว่า ประชาชนตื่นแล้ว ชาวรากหญ้าตื่นแล้ว และจะไม่มีใครแย่งอำนาจจากพวกเขาไปได้อีก
ไชโย ครับ ฯพณฯท่าน สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ 25
จาก thaifreenews