'เทพเทือก' ยังไม่ยอมแพ้ แขวะ 'อย่างเพิ่งมองไปไกล' ว่า พปช.จะตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ อ้างยังมีเวลาเหลือ เชื่ออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณาของกกต. คาดพปช.หมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกม.เลือกตั้ง
วันที่ 14 ม.ค. 2551 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของการเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ซึ่งการเป็นฝ่ายค้านของพรรคเป็นเรื่องที่เราสันทัดไม่ต้องซ้อมและเป็นได้ทันที ขณะที่การเป็นรัฐบาลนั้นเราก็ประกาศชัดอยู่แล้วว่า เราต้องการทางเลือกที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ ประชาชน และสถาบันหลักของบ้านเมืองที่เรากำหนดไว้คือวาระประชาชน นอกจากนี้ การเมืองวันนี้ไม่ใช่จุดที่จะมากำหนดว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพราะตอนนี้ยังไม่หยุดนิ่งจนกว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเสร็จสิ้น ซึ่งถ้าถึงวันนั้น ก็จะรู้ว่าแต่ละพรรคจะมีส.ส.เหลือกี่คน
'ลองนึกดูว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างไร ถ้ามีการยุบพรรคบางพรรค รวมถึงจำนวนส.ส.และสูตรจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นผมจึงเรียกว่าสถานการณ์ยังไม่นิ่ง มีเวลาเปลี่ยนแปลงอีกมาก ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไปแก่งแย่งกับใคร แต่พูดตามข้อเท็จจริง'เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
เมื่อถามถึงการที่พรรคอื่นๆที่จับขั้วกับพรรคพลังประชาชนจะแถลงข่าวร่วมกันถึงความชัดเจนในวันที่ 17 ม.ค.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอดูให้ถึงเวลานั้นก่อน ตอนนี้พูดอะไรไปก็ได้ทั้งนั้น และถ้าถึงวันนั้นแต่สภาพความเป็นพรรคการเมืองหมดแล้วจะทำอย่างไร
เมื่อถามต่อว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบจากกรณีการทุจริตเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตัดสินได้ว่าหมิ่นเหม่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย แต่ถ้าการกระทำทุจริตต่อการเลือกตั้ง มีกรรมการบริหารพรรคนั้นมีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกระทำความผิดด้วย ก็ถือว่าความผิดดังกล่าวมีผลถึงพรรค แต่ตนไม่ได้มีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องนี้ ต้องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่นี้เป็นผู้พิจารณา
ต่อข้อถามถึงข่าวว่า ทางกองทัพยอมรับที่พรรคพลังประชาชนจะมาเป็นรัฐบาล แต่ไม่ต้องการให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ดูเหมือนว่าพรรคดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนนายกฯที่ไม่ใช่นายสมัคร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ส่วนการที่จะให้นายสมัครเป็นนายกฯหรือไม่เป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชน คนอื่นไปกำหนดไม่ได้ ทั้งนี้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับนายสมัคร เพราะฉะนั้น คนที่จะเป็นนายกฯมี 2 คนนี้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น ก็ผิดไปจากความคาดหวังของประชาชนและอาจทำให้ประชาชนเสียความรู้สึกไปบ้าง เพราะคาดหวังอย่างหนึ่งแล้วได้อีกอย่างหนึ่ง
เมื่อถามถึงข่าวที่ว่า พรรคพลังประชาชนจะแบ่งโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เป็นรมว.กลาโหม เพื่อทำให้เกิดความสมานฉันท์ระหว่างกองทัพกับพรรคดังกล่าว นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหนและมีข้อเท็จจริงอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พรรคพลังประชาชนเตรียมแผนบันได 6 ขั้นที่อาจสร้างความได้เปรียบในการจัดตั้งรัฐบาล เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งมองไกลไปถึงว่า พรรคพลังประชาชนจะได้เป็นรัฐบาล เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นว่าเขาตั้งรัฐบาลได้อย่างไร ต้องรอดูต่อไป การเมืองยังไม่นิ่งและยังมีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ ซึ่งตนพูดตามข้อเท็จจริงบนพื้นฐานของสถานการณ์
เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชาชนรู้ว่าการเมืองยังไม่นิ่งจึงพยายามช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างฝืนธรรมชาติและข้อเท็จจริงไม่ได้ การเสแสร้ง ปรุงแต่ง หรือการสร้างฉากก็ทำได้บางครั้งคราว แต่ไม่ใช่ตลอดไป
เมื่อถามต่อว่า จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่น่าจะมีความเคลื่อนไหวใดๆของกลุ่มมวลชนในขณะนี้
ขอขอบคุณ http://www.thaiinsider.info/
จาก Hi-Thaksin