'รักษาการประธานคมช.'ระบุ'ม็อบ'กดดันการทำงานของกกต.ไม่ถูกต้องเป็นสิ่งที่เลวร้ายต่อ ระบอบประชาธิปไตย ย้ำ"นายกฯคนใหม่"ต้องเป็นที่ยอมรับน่าเชื่อถือ และมีบารมี ของคนในชาติ
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกลุ่มม็อบกดดันการทำงานของกกต.ว่า ไม่ห่วง กกต. เพราะท่านมีประสบการณ์ ความนึกคิดต่าง ๆ และท่านทำงานเพื่อชาติ ความกดดันใด ๆ เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่เฉพาะประเทศเรา ประเทศอื่นก็มี แต่จะมีมากหรือน้อย ทั้งนี้การชุมนุมเป็นการต่อต้าน ขัดขืน ต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายเป็นสิ่งที่เลวร้ายต่อระบอบเสียงประชาธิปไตย คิดว่าสื่อมวลชน และ ประชาชนจะต้องนำไปวิเคราะห์ แต่ทุกคนมีสิทธิ์ต่อต้านการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายได้เช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า หากมีการแจกใบเหลือง ใบแดงเพิ่มมากขึ้น จะเพิ่มม็อบจำนวนมากมากดดันการทำงานของ กกต. หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า กลุ่มม็อบมีการจ้างวานทั้งนั้น ด้วยความเป็นญาติหรืออะไรต่าง ๆ ตนเชื่อว่าเป็น การจ้างวานมาทั้งสิ้น เมื่อถามว่า คมช.ทราบหรือไม่ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังว่าจ้างม็อบ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ก็รู้กันทั้งนั้น แต่ละจังหวัดก็รู้กันอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า เป็นกลุ่มพรรคการเมืองหนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต นิ่งคิดก่อนตอบว่าไม่ขอพูด
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะบานปลาย พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่น่าจะมี ตนคิดว่าช่วงนี้ใกล้ถึงวันที่จะเปิดสภา ถ้าเรียบร้อยก็สามารถเปิดประชุมได้ ส่วนเรื่องของการคัดเลือกตั้งว่าใครจะเป็น คณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองเขาคงจะจัดการกันได้ เมื่อถามว่า แสดงว่ามั่นใจว่า พรรคพลังประชาชน ยังสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ด้วยเสียงข้างมากก็น่าจะเป็นผู้จัดตั้ง ส่วนความเหมาะสมด้วยตัวบุคคลก็จะต้องไปเลือกกันเองว่าใครสมควร
เมื่อถามว่าหากมีการแจกใบเหลืองใบแดงให้กับพรรคพลังประชาชนมากจะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้ง รัฐบาลหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย ใครจะไปยัดเยียดข้อกล่าวหาคงไม่ได้ ของพันนี้เป็นเรื่องที่ ผิดกฎหมาย เขาก็จะต้องดำเนินการ เมื่อถามว่า จะทำอย่างไร หากผลการรับรอง ส.ส.ไม่เพียงพอที่จะเปิดประชุมสภาฯ ได้ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่ภาระของ คมช.
เมื่อถามถึง การต่อรองเก้าอี้ ครม. โดยใช้เงินหลายสิบล้านบาทในการซื้อเก้าอี้ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะเป็นธรรมชาติ และต่อรองกันมาอย่างนี้ทุกรัฐบาล เพราะทุกคนก็อยากเป็น อยากเป็นนายกรัฐมนตรี อยากเป็นรัฐมนตรี เพราะทุกพรรคตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อตั้งใจจะมาบริหารประเทศ ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาเพื่อมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นเมื่อเขามีโอกาสเป็นผู้บริหารประเทศเขาก็จะต้องอยากเป็น
เมื่อถามถึงกระแสข่าว คมช.ต่อรองตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า คมช.ไม่มีการต่อรองของตำแหน่งรัฐมนตรี พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ผมไม่ยืนยัน เพราะผมไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับใคร ถ้า คมช.อยากเป็นรัฐมนตรีก็เป็นไปนานแล้ว เป็นตั้งแต่ตอนต้นแล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เหมาะสมกับตำแหน่ง รฒว.กลาโหม หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าว่า ตนไม่ขอตอบ
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าในที่ประชุมสภานายกรัฐมนตรีคนใหม่อาจจะไม่ได้ เป็นอย่างที่หลายคน คาดไว้ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาลจะต้องเป็นคนที่มีบารมี และความน่าเชื่อถือ ของคนทุกคนในชาติ
เมื่อถามว่า กระแสข่าว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่าไม่ทราบ และตนคิดว่าไม่เห็นจะมีเหตุผลอะไรที่ท่านจะต้องลาออก
เมื่อถามว่า มองถึงวัตถุประสงค์ของผู้ที่ปล่อยข่าวนี้อย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่รู้ แต่คิดว่าสื่อคงรู้อยู่แล้ว แต่บางทีเราไม่ควรจะพูด และควรที่จะยุติ ซึ่งคิดว่าสื่อมวลชนคงจะยุติเรื่องนี้ได้ง่าย โดยไม่ต้องไปลงในสิ่งที่จะทำลายความมั่นคง ทำลายเศรษฐกิจ สังคม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องกิจสังคม