ด้วยความสัตย์จริง มิได้ประชดประชัน หรือพูดให้ขบขันกันเล่น
ผมเป็นห่วงและเห็นใจ คุณสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง เป็นอย่างมาก ต่อกรณี สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือยืมตัว น.ส.กอนณา สัตยธรรม ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดพระโขนง มาช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี
ผมเป็นห่วงคุณสดศรี เพราะเห็นอาการเครียดจนเก็บความรู้สึกไม่ได้ว่า มีความโกรธแค้นอย่างมากต่อผู้ที่ทำให้ลูกสาวคนเดียวของท่านมีความเจ็บปวดในครั้งนี้
ผมเป็นห่วงว่าคุณสดศรีจะโกรธ จะมีอารมณ์แค้น จะมีอคติ จนเก็บอาการไว้ไม่ได้ และจะส่งผลต่อการทำงานให้ความเป็นธรรมในการวินิจฉัยและรับรองผลการเลือกตั้ง จนขาดความเป็นกลาง และทำให้ประชาชนระแวงเคลือบแคลงสงสัยว่าไม่เที่ยงธรรม เพราะผูกใจเจ็บกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตัวเอง
เนื่องจากคุณสดศรีพูดผ่านสื่อมวลชนให้ได้ยินได้อ่านกันไปทั้งประเทศว่า หากไม่หยุดเล่นงานลูกสาวในเรื่องนี้ ผลลัพธ์หรือแรงสะท้อนจากคุณสดศรีก็อาจจะไปออกเป็นใบแดงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคพลังประชาชน
ผมฟังคุณสดศรีให้สัมภาษณ์แล้วก็ได้แต่เป็นห่วงและเห็นใจ เพราะ คุณสดศรีกำลังโกรธแค้นจนขาดสติ และกำลังแสดงอาการอาฆาตมาดร้ายใครก็ไม่รู้ แต่จะไปลงโทษคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่ใช่วิสัยของผู้ที่เคยเป็นอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาพึงกระทำเป็นแน่
ผมเป็นห่วงและเห็นใจ เพราะหลังจากคำพูดดังกล่าวนี้ของคุณสดศรีเผยแพร่ออกไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ การทำงานของคุณสดศรีในฐานะ กกต. ก็จะถูกจับตามากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
หากมีใบแดงให้แก่ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน ทุกคนก็จะต้องเพ่งเล็งไปที่คุณสดศรี ว่าเป็นเพราะความโกรธแค้นเรื่องส่วนตัวหรือไม่ คุณสดศรีกำลังทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก และทำงานในฐานะ กกต. ยากขึ้น อีกทั้งทำให้ กกต. ทั้งองค์กร ได้รับผลกระทบด้านความน่าเชื่อถือในคำวินิจฉัยไปทั้งหมด
ผมไม่ติดใจอีกแล้วว่าหนังสือยืมตัวฉบับนี้ออกมาอย่างไร เบื้องหน้า เบื้องหลัง เป็นอย่างไร และทำไม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จึงขอยกเลิก หลังจากส่งหนังสือยืมตัวไปถึงประธานศาลฎีกาแล้ว เพราะว่าความจริงเท่าที่จะเปิดเผยได้ก็ปรากฏต่อสาธารณะครบถ้วนทุกขั้นตอนแล้ว ส่วนความจริงที่เปิดเผยไม่ได้ และยังไม่ได้เปิดเผย ก็คงจะไม่ทำให้ความจริงที่ถูกเปิดเผยออกมาแล้วหดหายไป และมาเปลี่ยนสาระสำคัญของเรื่องที่เกิดขึ้นไปได้
ในฐานะคนไทยด้วยกัน ผมเห็นว่ากรณีนี้พอสมควรแก่เหตุแล้ว และไม่ควรจะรุกไล่ บีบคั้นต่อคุณสดศรีมากไปกว่านี้ แม้ว่าคุณสดศรีจะยังคงให้สัมภาษณ์กล่าวหาใครต่อใคร ด้วยความโกรธแค้น ไม่พอใจ อีกต่อไปก็ตาม
ผมอยากจะให้ทุกคนเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่อย่างคุณสดศรีบ้างว่า ทุกกิริยาอาการ และทุกคำพูดที่แสดงออกมา เป็นการแสดงออกของคนเป็นแม่ที่กำลังปกป้องลูกสาวไม่ให้ถูกทำร้าย และทำลายมากไปกว่านี้อีกแล้ว
หากเป็นผม มีลูกสาวที่มีความรู้ ความสามารถ และเก่งกาจอย่าง คุณกอนณา สัตยธรรม ที่มีอายุเพียง 27 ก็ได้เป็นผู้พิพากษาแล้ว ผมก็คงแสดงอาการปกป้องลูกสาวของผมไม่น้อยไปกว่าที่คุณสดศรีกระทำ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป
คนที่ผมเห็นใจอย่างมากในกรณีนี้ก็คือ คุณสดศรี และคุณกอนณา ที่ตกเป็นเหยื่อของสังคม และตกเป็นขี้ปากการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนอย่างหนักหนาสาหัส จนคุณสดศรีก็ยอมรับว่าเครียดกันไปหมด และเครียดจนไม่อยากจะเป็น กกต. อีกแล้ว อยากจะลาออกจากการเป็น กกต.
เครียดจนไม่รู้ว่าจะหันไปทางไหน เพราะไม่รู้ว่าจะตอบโต้กับใคร เนื่องจากไม่รู้ว่ารบอยู่กับใคร เพราะ Hi-thaksin เป็นของใคร อยู่ที่ไหน ก็ไม่อาจจะรู้ได้
เครียดจนต้องออกมา ร้องเรียกถามหา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ว่าหายไปไหน ทำไมไม่ออกมาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้าง และเจตนาที่ทำหนังสือยืมตัวลูกสาวมาทำงานหน้าห้องที่ทำเนียบรัฐบาลคืออะไรกันแน่
ทำไมต้องดึงคุณสดศรีและลูกสาวเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง ให้ประชาชนเห็นว่าเป็นพวกพ้องเดียวกับคุณสนธิด้วย
นี่คือคำถามของคุณสดศรี ที่ส่งผ่านสื่อมวลชนไปถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ที่จนป่านนี้ยังดำดินไม่โผล่ ยังไม่แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคุณสดศรี และ คุณกอนณา สัตยธรรม
ความเสียหายที่ทำให้คุณกอนณาถูกสังคมหวาดระแวง และตั้งข้อสงสัยการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษา
ความเสียหายที่ทำให้คุณสดศรีต้องถูกสังคมหวาดระแวงว่าเป็นพวกเดียวกับ พล.อ.สนธิ ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยความเป็นกลางในฐานะ กกต.
ความเสียหายที่คุณสดศรีและคุณกอนณาได้รับ ยังไม่ได้รับการเยียวยา ยังไม่ได้รับการปกป้อง ชดใช้ จากผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายขึ้น และคุณสดศรีกำลังร้องเรียกหาอยู่
คนคนนั้นก็คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ที่กลายเป็นบุคคลสูญหายไร้ร่องรอย และไร้ความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายอย่างสาหัส
เพราะเป็นห่วงและเห็นใจคุณสดศรีกับคุณกอนณาสองคนแม่ลูก ผมจึงขอร่วมด้วยช่วยเหลือ ประกาศตามหา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ให้มาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีนี้อีกแรงหนึ่ง
"ใครพบเห็นอดีตนายทหารยศพลเอก ชื่อ สนธิ นามสกุล บุญยรัตกลิน ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รูปร่างสันทัด ผิวดำออกคล้ำ อายุ 60 ปีเศษ โปรดแจ้ง คุณสดศรี สัตยธรรม หรือนำตัวส่งที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง"