ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ วิกฤติการเมือง ที่ผ่านมากับสภาวะการเมืองในปัจจุบัน กำลังวนเข้าสู่ วัฏจักรของวงจรอุบาทว์ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
โดยมีปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ การแข่งขันระหว่างพรรค การเมือง กกต. ทหาร และอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีประชาชนเป็นตัวประกัน
ก่อนหน้านั้น รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ออกมากดดันชุมนุมประท้วงขับไล่อย่างหนัก ประกอบกับขั้วพรรคการเมือง กลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้านช่วยเดินเกมในสภาอีกแรง ประกอบด้วยอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ ที่หนุนหลังชัดเจน
ในที่สุดก็เกิดวิกฤติการเมือง
การเลือกตั้ง ถูกบอยคอต กกต.สมัยนั้นตกเป็นจำเลยจนไม่สามารถที่จะจัดการเลือกตั้งได้ ตามครรลองของประชาธิปไตย ในขณะที่พรรคการเมือง เล่นใต้ดินวางกับดัก โดยอาศัยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเลือกตั้งซ่อมก็ไปไม่รอด เลือกตั้งใหม่ก็เป็นโมฆะ
จนถึงขั้นต้องยุบสภา
เท่านั้นยังไม่สะเด็ดน้ำ วิกฤติลุกลามไปที่ กกต.เอง แทบจะเอาตัวไม่รอด การเลือกตั้งหลังการยุบสภาก็ทำท่าจะวุ่นวายเพราะกลไกการเลือกตั้งไม่สมบูรณ์แบบ และแล้วก็มาถึงทางตันจนได้
ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ
คปค.ใครเป็นใครเห็นกันชัดเจนตอนนั้น พันธมิตร ขั้วการเมืองฝ่ายค้าน นักวิชาการ ทหารบางคน ได้รับโบนัสกันเป็นแถว ทั้งตำแหน่ง รมต. ตำแหน่ง สนช. และตำแหน่งทางการเมืองอีกมากมาย
สื่อของรัฐก็โดนหางเลขไปด้วยเพียงยังฮุบไม่ได้เต็มคำเท่านั้น
อีกฝ่ายก็สู้จนหลังพิงฝา ไม่มีอำนาจใดที่จะให้การปกป้องคุ้มครอง แทบจะไม่มีที่ให้ยืน กลายเป็นปรปักษ์ ที่ถูกตามล้างตามเช็ดไม่จบ เหลือแต่พลังของประชาชนเท่านั้นที่ยังหนุนหลังอยู่
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนถูกจับเป็นตัวประกันอีกรอบ โดยมีอนาคตของรัฐบาลใหม่ เป็นเครื่องต่อรอง กกต.ก็กำลังถูกม้วนให้เข้าสู่วิกฤติ เพียงแต่เปลี่ยนข้างเข้ามากดดันแทรกแซงเท่านั้น
ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะลงเอยเหมือนชุดที่แล้วหรือไม่
มาตรฐานการตัดสินที่กลับไปกลับมาก็ดี เดี๋ยวเหลืองเดี๋ยวแดง เป้าหมายการแจกใบแดงใบเหลืองที่ดูเหมือนจะมีใบสั่งเฉพาะเจาะจงก็ดี สังคมอดที่จะหวาดระแวงไม่ได้ แม้ กกต.จะบริสุทธิ์ใจก็ตาม
กระแสกำลังจะย้อนกลับ
คนกลุ่มเดิมกำลังพยายามทำให้เกิดความวุ่นวาย เมื่อแพ้ในกฎเกณฑ์กติกา ก็จะเล่นนอกบทตามถนัด ที่น่ากลัวกว่าเดิมก็คือบัดนี้คนเหล่านั้นได้แฝงตัวอยู่ในคราบ ของนักการเมืองมีอำนาจ การต่อรองมากขึ้น
ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย ถ้าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ยุติ ถ้ามีพรรคการเมืองจะต้องถูกยุบอีกรอบ และจะนำไปสู่การบอยคอตเลือกตั้ง การออกมาชุมนุมประท้วง นองเลือด แล้วก็ยึดอำนาจ ตามสูตร.
"หมัดเหล็ก"--จบ--