มหาวิทยาลัยหอการค้า 5 ก.พ. - “อานันท์” ปัดแสดงความเห็น “สมัคร” เป็นนายกฯ คนใหม่ ขณะที่ “น.ต.ประสงค์” แนะ วางตัวให้เหมาะสม มีวจีไพเราะ ชี้ความเชื่อมั่นทางการเมือง ถือเป็นเรื่องสำคัญในการบริหารประเทศ ไม่ขอแสดงความเห็น ครม.ชุดใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. วันนี้ (5 ก.พ.) คณะทำงานรณรงค์เลือกตั้งใสสะอาด ในคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดเสวนาวิชาการ “บทเรียนเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550” ณ มหาวิทยาลัยหอการค้า โดย นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ร่วมการเสวนาด้วย
ก่อนการเสวนา นายอานันท์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ว่าจะสามารถนำพาประเทศให้ผ่านพ้น และไม่กลับเข้าสู่ยุคปฏิวัติอีกหรือไม่ โดยกล่าวว่า “ผมตาบอด เป็นใบ้ พูดไม่ออก และไม่ขอให้ความเห็นใด ๆ”
ขณะที่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งผู้นำทางการบริหาร ใครมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องเข้าใจว่าเป็นภาระหน้าที่ มีความรับผิดชอบมาก และต้องการฝากว่า นายกรัฐมนตรีควรวางตัวให้เหมาะสม มีวจีที่ไพเราะ สงเคราะห์คนทุกชั้น มีความสม่ำเสมอ จึงจะสามารถนำองค์กร และมีผู้ให้ความร่วมมือ ถ้านากยรัฐมนตรีบกพร่องในคุณสมบัติ ก็ต้องปรับปรุงแก้ไข
ผู้สื่อข่าวถามถึง ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่จะสร้างความสมานฉันท์ และทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นได้ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นทางการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารประเทศ หากประชาชนไม่เชื่อมั่น จะบริหารจัดการและทำงานลำบาก อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นอยู่ที่องค์ประกอบ เหมือนวงดนตรี ที่ต้องมีนักดนตรี เครื่องดนตรี และผู้ควบคุมวง เป็นองค์ประกอบสำคัญ
“ถ้าโน้ตดี คนเล่นไม่ดี ก็ไม่มีใครอยากฟัง และถ้าคนเล่นดี โน้ตไม่ดี ก็ไม่มีใครอยากฟัง รัฐมนตรีเปรียบเหมือนนักดนตรี กระทรวงคือเครื่องดนตรี นายวงคือนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องดูความเหมาะสม นักดนตรีบางคนไม่เคยเล่นดนตรีมา ก็อาจจะเล่นไม่ได้เรื่อง บางคนเล่นดนตรีไม่ถนัด เหมือนอยู่ในกระทรวงที่ไม่ถนัด ความเชื่อมั่นก็ไม่มี หรือถ้านายวงคุมวงไม่ดี คุมตามความรู้สึกของตัวเอง อยากให้เล่นดนตรีชิ้นไหนก็ชี้ คนก็จะเบื่อหน่าย ไปแสดงที่ไหนเขาก็ขับไล่” น.ต.ประสงค์ กล่าว
ต่อกรณีที่นายสมัครออกมายอมรับว่า คณะรัฐมนตรีขี้เหร่ จะกำหนดกรอบเวลาการทำงานหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นหน้าตาคณะรัฐมนตรีที่แท้จริง ว่ามีใครบ้าง แต่ถ้าเป็นไปตามข่าว หลายคนคงรู้สึกเช่นเดียวกันว่าไม่ค่อยเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อน อย่างไรก็ตาม ขอดูความชัดเจน หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจะพูดว่าการทำงานน่าจะเป็นไปในทิศทางใด และอยู่ได้นานเท่าใด แต่ขอฝากว่าเมื่อต้องรับผิดชอบประเทศ ประชาชนทั้งประเทศกำลังรอดูอยู่ ว่าจะบริหารงานเป็นไปอย่างไร
“ขณะนี้ทุกอย่าง ผมมองว่าสภาพเหมือนก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งความรู้สึกดังกล่าว จะสามารถพิสูจน์ได้ เมื่อมีคณะรัฐมนตรีใหม่มาบริหารประเทศ ถ้าไม่เป็นตัวแทนสามี ก็ภรรยา ลูก พ่อ ตัวแทนนักการเมืองที่ติดอยู่ในบ้านเลขที่ 111 โดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าของวงที่แท้จริงอยู่ที่ฮ่องกง แต่หลายคนบอกว่า ต้องให้เวลาในการทำงาน ส่วนจะมีปฏิวัติอีกหรือไม่ ไม่มีใครคาดการณ์ได้ อยู่ที่ผู้ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบว่า อย่าสร้างเงื่อนไขในสิ่งที่เราไม่ต้องการ” น.ต.ประสงค์ กล่าว
ส่วนที่รัฐบาลใหม่เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนำนโยบายประชานิยมเข้ามาใช้ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ดี โดยเฉพาะมาตรา 83 และ 84 ที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ ที่กำหนดไว้ว่าผู้ที่มาเป็นรัฐบาลจะต้องทำอย่างไร เมื่อแถลงนโยบายแล้วต้องทำให้ได้ ไม่ใช่พูดเพ้อเจ้อ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดไว้
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งคณะรัฐมนตรีเงามาทำหน้าที่คู่ขนานกับรัฐบาล น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี แต่นอกจากคณะรัฐมนตรีเงาแล้ว ควรมีวิธีทางการเมืองในการตรวจสอบติดตามอย่างใกล้ชิด มากกว่าการตรวจสอบเลื่อนลอย และประชาชนต้องร่วมตรวจสอบ ภาคประชาชนต้องเข้มแข็ง รวมกลุ่มตรวจสอบการบริหารงานของภาครัฐ เพราะการตรวจสอบของภาคประชาชนมีความสำคัญยิ่งกว่าคณะรัฐมนตรีเงา.- สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-02-05 17:30:35