นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องรายงานดัชนีความสุขมวลรวมของคนไทย เดือน ม.ค. กรณีศึกษากับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 3,246 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 2551
นายนพดลยังได้ชี้ให้เห็นถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อจุดยืนของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะนำนโยบายของพรรคไทยรักไทยในอดีตมาต่อยอดในการบริหารประเทศครั้งนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย เช่น ร้อยละ 95.8 เห็นด้วยกับนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของพรรคไทยรักไทยในอดีต ในมิติของความเอาจริงเอาจัง ที่ไม่ใช่การฆ่าตัดตอน ร้อยละ 94.5 เห็นด้วยกับงานพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน ร้อยละ 94.3 เห็นด้วยกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ร้อยละ 93.8 เห็นด้วยกับนโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค
ร้อยละ 88.9 เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 83.2 เห็นด้วยกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ร้อยละ 77.4 เห็นด้วยกับการกระตุ้นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ร้อยละ 69.9 เห็นด้วยกับโครงการโคล้านตัว ร้อยละ 69.2 เห็นด้วยกับผู้ว่า ซีอีโอ ในขณะที่เห็นด้วยน้อยสุดแต่ยังถือว่าเป็นส่วนใหญ่คือร้อยละ 64.4 เห็นด้วยกับแนวคิดหวยบนดิน
นายนพดล กล่าวว่า ประเด็นหวยบนดินยังคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางสังคมในรัฐบาลชุดนี้ เพราะจะพบกับกระแสต่อต้านประมาณร้อยละ 35 – 40 เนื่องจากอาจถูกมองว่าขัดต่อระบบคุณธรรมและหลักศาสนาของสังคมไทย แม้คนไทยส่วนใหญ่อาจเห็นด้วยแต่กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็มีอยู่จำนวนมาก
ประเด็นที่น่าสนใจคือ แรงสนับสนุนจากสาธารณชนต่อ นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งพบว่า สัดส่วนของผู้ที่สนับสนุนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 44.3 ในการสำรวจก่อนได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ มาอยู่ที่ร้อยละ 58.7 ในการสำรวจหลังจากได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และเมื่อจำแนกตามกลุ่มคนที่เคยเลือกพรรคการเมืองต่าง ๆ พบว่า สัดส่วนของผู้สนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช เพิ่มขึ้นในทุกพรรคการเมืองเช่นกัน แต่ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มคนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทยมีสัดส่วนของผู้ไม่สนับสนุนมากกว่ากลุ่มคนที่เลือกพรรคอื่นๆ ตามลำดับ