WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, March 30, 2008

ถึงเวลาแก้ไขกติกาที่ไร้ความเป็นธรรม

คอลัมน์: บุคคลในข่าว หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย : เห่าไฟ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถึงเวลาแก้ไขกติกาที่ไร้ ความเป็นธรรม ฉบับนี้ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2551

เพิ่งเข้าใจก็วันนี้ การใช้ชีวิตอยู่ใน ประเทศที่เต็มไปด้วย ความขัดแย้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะประเทศที่มีมนุษย์จำพวก ปากประชาธิปไตย แต่ ใจประชาธิปก อาศัยอยู่เยอะแยะเหมือนในเมืองไทย ยิ่งต้อง เหนื่อย กันเป็นพิเศษ เพราะคนพวกนี้ ถ้าไม่ได้ดังใจก็เอาแต่ ด่ากราดลูกเดียว คนอื่นชั่วหมด มีตัวเองเท่านั้นที่ดีเลิศประเสริฐศรี!!!

"เห่าไฟ" อยากให้คิดกันให้ดี การใช้ชีวิตอยู่ใน สังคมหมู่มาก ทุกฝ่ายต้องเคารพ กฎกติกา เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หลายคนถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่าเคารพกฎกติกาหรือไม่ ก็ต้องถามกลับไปว่า แล้วมี กติกา ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเปล่าเล่า ถ้าไม่มีกติกาให้แก้ไขแล้วไปแก้ไข ก็ถือว่า ไม่ถูกต้อง แต่หากมีกติกาให้แก้ไขได้ ก็ไม่ถือว่าทำผิดกติกา!!!

ข้อสำคัญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องผ่านขั้นตอนตามบทบัญญัติที่กำหนดเอาไว้ นั่นก็คือ ต้องใช้ เสียงข้างมากของทั้งสองสภา ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนประชาชนทั่วประเทศ หากเสียงไม่ถึงก็แก้ไม่ได้ แต่หากเสียงถึงก็มีความหมายทางอ้อมว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ เห็นชอบให้มีการดำเนินการไปตามนั้น!!!

ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นหลักในการแก้ไข กรณี กรรมการบริหารพรรค ไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแล้วให้ถือว่า คณะกรรมการบริหารทั้งหมดรู้เห็นเป็นใจ ต้องยุบพรรคทิ้ง เรื่องนี้สมควรแก้ไขเป็นที่สุด เพราะเป็นการเขียนกติกาออกมาแบบ สุดโต่ง บ้าเกินเหตุ คล้ายกับว่า ถ้าลูกติดคุกพ่อแม่ต้องติดคุกด้วย อย่างนี้ไม่บ้าหรือ!!!

โดยเฉพาะฝ่ายคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงกับ เลอะเทอะ ไปกันใหญ่ ชอบออกมาพูดว่า ไม่ทำผิดแล้วกลัวทำไม ทั้งที่การแก้ไขคราวนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อให้คนผิดพ้นโทษ กรรมการบริหารคนไหนทำผิด ไป ซื้อเสียง ก็ต้อง ได้รับโทษ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดทุกประการ เพียงแต่ไม่ให้ เหมารวม ไปถึงกรรมการบริหารคนอื่นที่ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ประเด็นของเรื่องมันอยู่ตรงนี้ ฉะนั้น ต้องระวังพวกที่ชอบคัดค้านแบบ โมเมมั่วนิ่ม กันไว้ให้ดี!!!

"เห่าไฟ" เห็นด้วยว่า ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนพวกที่เย้วๆ ออกมาคัดค้านก็แค่ฟังไว้ เพราะเอาแน่เอานอนอะไรกับคนเหล่านี้ไม่ได้ ตอนทหาร ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ คนพวกนี้ กลับหัวเราะชอบอกชอบใจ แต่พอจะใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญตาม ครรลองประชาธิปไตย กลับตีอกชกหัวคัดค้าน จะเป็นจะตายเสียให้ได้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายก็ลองใช้ วิจารณญาณ กันเอาเอง ว่า ฝ่ายไหนของจริง ฝ่ายไหนของเก๊!!!

ปูดประเด็นร้อนขึ้นมาอีกแล้ว สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี บอกว่า ยังมีคนบางกลุ่มเคลื่อนไหวประชุมกันเพื่อให้มีการ ปฏิวัติยึดอำนาจ เพราะคิดว่าสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ "เห่าไฟ" ฟังแล้วรู้สึกสงสารประเทศไทยเหลือเกิน ที่ผ่านมา การปฏิวัติยึดอำนาจทำให้เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองถอยหลังลงคลองไม่ต่ำกว่า 30 ปี กว่าจะกอบกู้ ฟื้นฟูขึ้นมาได้ก็ เลือดตาแทบกระเด็น ยังไม่ทันไรก็จะเอากันอีกแล้วหรือ!!!

ส่วนสาเหตุที่คนบางกลุ่มคิดว่า สามารถปฏิวัติได้ ก็เพราะประเมินเอาไว้ว่า ยังมีคนไทยบางส่วนที่เกลียดชัง อดีตนายกฯทักษิณ ยอมละทิ้ง หลักการประชาธิปไตย แล้วหันไปให้การสนับสนุนการ ยึดอำนาจ ด้วยกำลังทหารเหมือนที่ผ่านมา คนเหล่านี้ก็คือ พวกปากประชาธิปไตยแต่ใจประชาธิปกู ดีๆนี่เอง!!!............

"เห่าไฟ" ว่า ถ้าขืนปล่อยให้บ้านเมืองตกอยู่ใน ความสับสน เพราะคนไร้หลักการ ไม่เคารพกติกาของสังคม ชอบใช้เสียงข้างน้อยหักล้างเสียงข้างมากอยู่เช่นนี้ การพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศคงเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะ รัฐบาล ที่มาจากเสียงสนับสนุนของประชาชนส่วนใหญ่ก็คงทำงาน ช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจาก ความทุกข์ยาก ได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องคอยพะวัก พะวง พวกหลักกู ที่ไม่รู้จะสุมหัวคิดก่อ การปฏิวัติได้สำเร็จวันไหน!!!

แต่นับจากนี้ไป ประชาชนเสียงส่วนใหญ่ คงยอมให้ เสียงส่วนน้อย มาทำตัวกร่างคับบ้านคับเมืองไม่ได้อีกแล้ว เพราะยิ่งปล่อยก็ยิ่งได้ใจ ทำให้บ้านเมืองเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่า "เห่าไฟ" จำได้ว่าในยุคปฏิวัติยึดอำนาจมีการก่อม็อบประท้วง แต่ โดนตำรวจ สลายม็อบ จับแกนนำไปดำเนิน คดีได้อย่าง ราบคาบ ฉะนั้น ยุคประชาธิปไตยก็จะใช้แบบเดียวกัน ใครก่อม็อบ ป่วนบ้านเมืองใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทผู้ นำรัฐบาลก็ต้องโดนเยี่ยงเดียวกัน!!!

ส่วนกลุ่มบุคคลที่ คิดการใหญ่ เคลื่อนไหวยึดอำนาจจาก รัฐบาลประชาธิปไตย หาก มีหลักฐานก็ต้องดำเนินคดี ขั้นเด็ดขาด ทุกรายไป แต่หากไม่มีหลักฐานแล้วสามารถก่อการสำเร็จก็ต้องไป เผชิญหน้า กับประชาชนส่วนใหญ่ที่ไปลงคะแนนเลือกรัฐบาลชุดนี้มา ใครก็ตามที่คิดจะ กดหัวประชาชน ไม่ให้ออกมาประท้วงต่อต้านคณะปฏิวัติเหมือนคราวที่แล้ว ก็ลองดูเถอะ แล้วจะรู้ว่า พลังของเสียงข้างมากน่ากลัวแค่ไหน!