บทความโดย...ลูกชาวนาไทย
มีคนพูดกับผมว่า
ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง คนญี่ปุ่นนับถือลัทธิบูชิโด ที่สามารถคว้านท้องยอมตายเพื่อพระจักรพรรดิของตนได้ และยอมสละชีวิตโดยขับเครื่องบินกามิกาเซเข้าชนกองเรือรบของอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สองได้ เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่า พวกเขาเป็นลูกพระอาทิตย์ประเทศของเขามีพระอาทิตย์คอยคุ้มครองป้องกัน
แต่ในที่สุดความบ้าคลั่งจากความเชื่อนั้นก็ได้ทำลายญี่ปุ่นลงในสงครามโลกครั้งที่สองอย่างสิ้นเชิง
นายพลดักลาส แม็คอาเธอร์ ได้เข้าไปเป็นผู้ยึดครองญี่ปุ่น รื้อโครงสร้างระบบสังคมเก่า "เขียนรัฐธรรมนูญที่ยกเลิกความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระจักรพรรดิ" บีบให้สมเด็จพระจักรพรรดิต้องตรัสว่า พระองค์ไม่ใช่เทพเจ้า แต่เป็นคนธรรมดา ที่เป็นประมุขของประเทศ
สังคมญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลกจึงขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทพเจ้าพระอาทิตย์อย่างแต่ก่อน ญี่ปุ่นใช้เวลาพัฒนาจากประเทศที่โดนระเบิดนิวเคลียร์ย่อยยับ ผู้หญิงต้องไปขายตัวในค่ายทหารอเมริกัน (ตัวอย่างในหนังดังเรืองโอชินสมัย 20 ปีที่แล้ว นางเอกต้องไปขายตัว) เพื่อให้ตัวเองและครอบครัวมีชีวิตรอด
จากประเทศที่แทบไม่เหลืออะไร ในปี 2515 ประเทศไทย โดย ธีรยุทธ บุญมีผู้นำนักศึกษาขณะนั้นได้รณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น ดังนั้น หากเรานับหลังสงครามโลกครั้งที่สองถึงปี 2515 ญี่ปุ่นก็พัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่ส่งสินค้าออกไปตีตลาดทั่วโลกแล้ว ดังนั้น เขาฟื้นตัวจริงๆ แค่ ไม่ถึง 20 ปี เท่านั้น
สังคมญี่ปุ่นยุคนี้ไม่ได้มี การนับถือเทพเจ้าว่าเป็นผู้คุ้มครองประเทศอีกต่อไป เขาอยู่ด้วย "ข้อตกลงของประชาชน" และสังคมที่ต้องมี "รัฐธรรมนูญที่เป็นกติกาที่เป็นธรรม" ของสังคม ทำให้พลังของสังคมถูกปลดปล่อย
คนชั้นล่างได้ปลดปล่อยศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ไม่ต้องถูกกดเอาไว้
สังคมที่ยังเชื่อว่า มีเทพเจ้า มีเทวดา คอยคุ้มครอง นั้นเป็นสังคมด้อยพัฒนาครับ ที่จริงประเทศจะเจริญ ประชาชนจะอยู่ดีกินดีได้ด้วย ตัวของประชาชน และระบบสังคมที่เป็นธรรมเอื้อต่อการให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยบูชา หรือร้องขอจากเทพเจ้าแต่อย่างใด
หากวันนี้ญี่ปุ่นยังคงยึดมั่นใน "พระเจแปนเทวาธิราช" หรือพระอาทิตย์ว่าจะคุ้มครองและช่วยเหลือประเทศตนเอง แล้ว
ญี่ปุ่นคงไม่เจริญเท่าใดนัก
สำหรับประเทศไทย เราได้เริ่มพัฒนาประเทศพร้อมกับประเทศญี่ปุ่นในสมัยเมอิจิ ตรงกับประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ญี่ปุ่นกับเราเริ่มเปิดประเทศรับอารยธรรมตะวันตกแทบจะเป็นเวลาใกล้ๆ กัน หากกันไม่มากนัก
วันนี้ 120 ปี ผ่านไป ประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศด้อยพัฒนาเช่นเดิม ประเทศต่างๆ ทั้งไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย พวกนี้เขายังไม่มีประเทศด้วยซ้ำไป เป็นเมืองขึ้นของประเทศตะวันตกอยู่แต่วันนี้ ประเทศเหล่านี้ก้าวหน้าไปมากกว่าเราแล้ว
เพราะเราเชื่อว่ามี “พระสยามเทวาธิราช” คอยคุ้มครอง เราก็เลยงอมืองอเท้า ไม่ต้องทำอะไร รอแต่ว่าจะมีเทวดาคอยมาโปรดเมื่อไหร่
ความคิดล้าหลัง ลมๆ แล้งๆ เช่นนี้ มันไม่มีทางเป็นจริงไปได้
แทนที่เราจะต่อสู้ เรากลับคิดว่า “หากพระสยามเทวาธิราช” มีจริง (แน่นอนย่อมไม่มีจริง) จะช่วยเหลือประเทศไทย
ที่จริง เราเป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท ที่เป็นหลักคำสอนดั้งเดิมที่สุดของศาสนาพุทธ มีหลักคำสอนเป็นวิทยาศาสตร์และพระพุทธเจ้าไม่ให้เอาผีสางเทวดาเป็นสรณะ แต่คนไทยกับ ปฎิบัติตรงกันข้ามกับคำสอนของพระพุทธเจ้าแทบทั้งหมด กลายเป็นพวก Anti-Buddhist (ปฎิบัติขัดกับคำสอนที่เป็นสาระหลักของศาสนา) ไปโดยปริยาย
วันนี้ ไม่มีพระสยามเทวาธิราช มีแต่ประชาชน มีแต่ เสรีภาพ ประชาธิปไตย และความเท่าเทียมกันเท่านั้น ที่ควรเป็นที่ “กราบไหว้บูชาของคนไทย” ไม่อย่างนั้นคนไทยคนด้อยพัฒนาไปอีก 120 ปี
ตื่นได้แล้วครับคนไทย ตาสว่างกันได้แล้ว เราอยู่ในศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่ศตวรรษที่ 12