ที่มา มติชน
กกต.ลงมติ3ต่อ2ให้"อภิชาต"ชี้ขาดคดีเงิน"เมซไซอะ"258ล้านส่งอสส.หรือไม่ เผยเจ้าตัวมีความเห็นให้ยกคำร้อง ส่วน"วิสุทธิ์"เสนอยุบปชป.
กกต.ให้"อภิชาต"ชี้ขาดคดี"258ล."
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการประชุม กกต.เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 17 ธันวาคม ว่า ที่ประชุม กกต.พิจารณาผลการไต่สวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีเงิน 258 ล้านบาทที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถูกกล่าวหาได้รับจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2548 โดยพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.กรณีที่กล่าวหาว่าพรรค ปชป. รับเงินจากบริษัท ทีพีไอฯ ผ่านบริษัท บริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด จำนวน 258 ล้านบาท เพื่อทำสื่อประชาสัมพันธ์อาจจะเป็นการกระทำนิติกรรมอำพราง เรื่องการบริจาคเงินซึ่งอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 66(2) และ (3) แห่ง กฎหมายพรรคการเมือง พ.ศ.2541 และมาตรา 94(3) (4) (5) แห่งกฎหมายพรรคการเมือง พ.ศ.2550 และ 2.กรณีที่พรรค ปชป.ไม่ได้ใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง อันเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายมาตรา 62 และ 65 แห่งกฎหมายพรรคการเมือง พ.ศ.2541 และมาตรา 82 และ 93 แห่งกฎหมายพรรคการเมือง พ.ศ.2550
"ทั้งนี้ ที่ประชุม กกต.มีมติด้วยเสียงข้างมาก ให้เป็นดุลพินิจของนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะพิจารณาส่งหรือไม่ส่งคำร้องนี้ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป" นายสุทธิพลกล่าว
เผย"อภิชาต"ลงมติให้ยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มติดังกล่าวถือเป็นการยื้อเวลาโดยให้เป็นการตัดสินใจของนายทะเบียนหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า เรื่องนี้นายทะเบียนคงรับไปดำเนินการต่อไป เมื่อถามย้ำว่ามีกรอบเวลาในเวลาให้นายทะเบียนตัดสินใจหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วงการตัดสินของนายทะเบียน
เมื่อถามว่า มติเสียงข้างมากชี้ให้ยุบพรรค ปชป.หรือไม่ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า เสียงข้างมากให้เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน โดยไม่ได้ชี้ขาดว่ายุบหรือไม่ยุบพรรค
รายงานข่าวแจ้งว่า มติเสียงมากคือ 3 ต่อ 2 เสียง โดยนายสมชัย จึงประเสริฐ นางสดศรี สัตยธรรม และนายประพันธ์ นัยโกวิท เห็นว่าเรื่องนี้ควรเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายทะเบียนพรรคการเมือง ส่วนเสียงข้างน้อย 2 เสียง มีความเห็นแตกเป็น 2 ทางคือนายอภิชาต สุขัคคานนท์ มีความเห็นให้ยกคำร้อง ขณะที่นายวิสุทธิ์ โพธิ์แท่น เสนอให้ยุบพรรค ปชป.
ก่อนหน้านั้นนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวยังไม่พร้อมที่จะลงมติ เนื่องจากข้อมูลประกอบการพิจารณาที่ได้รับยังไม่ครบ 100% ยังขาดเอกสารบางส่วนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่หาก กกต.ส่วนใหญ่สรุปว่าควรต้องลงมติสำนวนดังกล่า ตนก็พร้อมจะลงมติตามหน้าที่