WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, December 19, 2009

คำว่า “ละครจัดฉาก” ทำ ไทย – เขมร สัมพันธ์ขาดวิ่น!

ที่มา บางกอกทูเดย์

พลพรรคของรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จำนวนไม่น้อยรุมโจมตี กรณีการได้รับพระราชทานอภัยโทษของ“นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์” ว่าเป็น “การเล่นละคร”มีการเขียนบทตั้งแต่ต้นจนจบ มีพล็อตเรื่องมีบทละคร มีตัวละครที่กำหนดการเล่นว่าจะออกมาเล่นเมื่อไร บทอย่างไร...หรือการกล่าวหาว่าเป็น ปาหี่“เป็นการจัดฉาก”โดยกลุ่มคนที่ดำเนินการโจมตีดังกล่าว แม้ว่าต้องการโจมตี “พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” หรือ โจมตี “อดีตนายกฯ ทักษิณ” ก็ตามแต่พวกเขาก็รู้ทั้งรู้ว่า...การระดมโจมตีดังกล่าว แท้ที่จริงแล้วพวกเขากำลังโจมตีประเทศกัมพูชาทั้งประเทศ โจมตีระบบศาลสถิตยุติธรรมของประเทศกัมพูชาใส่ร้ายป้ายสีกล่าวหาว่า...

ประเทศกัมพูชา ร่วมเล่นละคร ร่วมเล่นปาหี่ดังกล่าวด้วยเพราะหากไม่มีการจับกุมตัว นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ไปควบคุมในเรือนจำเป็นเวลาประมาณ 30 วัน และหากไม่มีการพิจารณาพิพากษาคดีในศาลสถิตยุติธรรมของกัมพูชาโดยมีคำพิพากษาว่า...มีความผิดฐานจารกรรมตามกฎหมายของกัมพูชา ทำให้ต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับ10 ล้านเรียล แล้วจะมีกระบวนการในการขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ครับ แล้วจะมีการพระราชทานอภัยโทษให้กับนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ได้

หรือไม่ครับท่านผู้อ่านทุกท่านก็คงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าก็ต้องไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นนี่แสดงว่าที่กลุ่มคนของรัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งสื่อสีเหลืองสื่ออมาตยาธิปไตยบางส่วนที่ได้ รวมหัวกัน ปั้นเรื่องเท็จใส่ร้ายป้ายสี ว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการ เล่นละครเป็นปาหี่ เป็นการจัดฉากย่อมต้องรู้อยู่แก่ใจว่า...เป็นการกล่าวหาประเทศกัมพูชาอย่างร้ายแรงทั้งหมดด้วยเช่นกัน ว่า ร่วมอยู่ในการเล่นละคร ร่วมอยู่ในการสร้างปาหี่ ร่วมอยู่ในการจัดฉากคราวนี้ด้วยนี่มิใช่เป็นการสร้างความ

เป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านดอกหรือ?ผมเชื่อมั่นนะครับว่า...ประชาชนไทยทั้งประเทศไม่มีใครต้องการตั้งตนเป็นศัตรูกับเพื่อนบ้าน โดยไม่มีเหตุจำเป็นร้ายแรงใดๆ อย่างแน่นอนแต่นี่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และสื่อเหลืองอมาตยาธิปไตยทั้งหลายกำลังทำในสิ่งตรงกันข้ามกล่าวคือผลักไสประเทศไทยประชาชนไทยให้ไปเป็นศัตรูกับประเทศและประชาชนเพื่อนบ้านพวกคุณต้องการเช่นนั้นหรือ หากเกิดสงครามระหว่างประเทศขึ้น พวกคุณหรือเปล่าที่ต้องไปทำการสู้รบ

ผมอยากจะกราบเรียนประชาชนไทยทุกคนว่าถ้าหากเกิดสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงรัฐบาลนี้...ต้องบังคับให้คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พรรคประชาธิปัตย์ สื่อสีเหลืองอมาตยาธิปไตยไปรบนะครับประชาชนไทยคนอื่นอย่าออกไปรบเลย...เพราะพวกเขาจงใจในการทำให้เกิดสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่มีประชาชนไทยคนไหนต้องการ โดยไม่มีเหตุไม่มีผลใดๆทั้งสิ้นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...เพราะ “นายคำรบปาลวัฒน์วิไชย” โทรศัพท์ไปหา “นายศิวรักษ์ ชุติ

พงษ์”เพื่อขอข้อมูลตารางการบินของอดีต นายกฯ ทักษิณแม้ว่าในความเข้าใจของ “นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์”อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความลับหรือไม่ผิดกฎหมายก็ตามแต่ในเมื่อมีการนำส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ทางการทูตของไทยในกัมพูชาเรื่องก็จะกลับกลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของประเทศกัมพูชาในทันที แล้วก็ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงด้วยสิ่งนี้เจ้าหน้าที่ทูตไทยต้องรู้ดี กระทรวงต่างประเทศไทยต้องรู้ดี รัฐมนตรีต่างประเทศและนายกรัฐมนตรีไทยต้องรู้ดี หาก

ตอบว่า...ไม่รู้ก็ไม่สมควรที่ทำงานในตำแหน่งดังกล่าวต่อไปแต่หากว่ารู้แล้วก็ยังยืนยันให้ดำเนินการต่อไป นี่ก็เท่ากับเป็นการประจานให้คนไทยทั้งประเทศและชาวโลกรู้ว่า...รัฐบาลชุดนี้ต้องการที่ละเมิดกฎหมายกัมพูชาต้องการที่จะกล่าวร้ายประเทศกัมพูชา ต้องการที่สร้างเงื่อนไขให้ไทยทำสงครามกับกัมพูชาเรื่องเช่นนี้ ใช้สามัญสำนึกของคนทั่วไปก็ตัดสินได้แล้วว่า “ไม่ควรทำ” และน่าจะนำไปสู่ความผิดใหญ่โตได้เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นธรรมดาของผู้เป็นแม่ต้องพยายาม

ทำทุกวิถีทางในการที่จะช่วยลูกของตนให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยากทั้งปวงและผ่อนหนักให้เป็นเบาในขณะนี้แม้แต่เด็กๆ ไทยก็ยังรู้ว่า สมเด็จฯ ฮุน เซนของกัมพูชา เกลียด อภิสิทธิ์-กษิต อย่างเข้ากระดูกดำดังนั้น การติดต่อขอความช่วยเหลือจากกัมพูชาหากผ่านสองคนนี้แล้วแทนที่จะผ่อนหนักให้เป็นเบาอาจจะกลายเป็นซํ้าเติมให้หนักขึ้นก็ได้ดังนั้น การที่พลพรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสงสัยว่า...ทำไมสมเด็จฯ ฮุน เซน จึงให้การต้อนรับขับสู้อย่างดีทำไมจึงเร็วนักจึง

สะท้อนให้เห็นจิตวิญญาณที่ตํ่าช้าของพลพรรคประชาธิปัตย์ที่ถือเอา พวกอื่นๆ ที่การเมืองไม่ตรงกันพวกตนเป็นศัตรูที่ไม่อาจร่วมโลกกันได้ต้องทำลายทุกวิถีทางทั้งใส่ร้ายป้ายสีทั้งโกหกปั้นเรื่องเท็จกระทั่งก้าวลํ้าไปผลักให้ประเทศไทยประชาชนไทยไปเป็นศัตรูกับเพื่อนบ้านก็ยังทำเช่นนี้แล้ว ท่านผู้อ่านเห็นสมควรให้รัฐบาลประเภทนี้บริหารประเทศต่อไปอีกไหมครับ? 