WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, December 13, 2009

หนึ่งประเทศ สองรัฐบาล คงหนีไม่พ้นกันแล้ว

ที่มา thaifreenews

โดย Bugbunny

เรื่องรัฐบาลพลัดถิ่น (Government in Exile) นั้นถึงช่วงนี้มีแนวโน้มว่าผู้รักประชาธิปไตยไทยคงยอมรับกันได้แล้ว เพราะยิ่งนับวันการกระทำของพวกอำมาตย์ตั้งแต่หัวเรือใหญ่มหาอำมาตย์ลงมาจนถึงพวกข้ารับใช้ทั้งหลายนั้น ยังไม่แสดงสัญญานใดออกมาเลยว่ายอมรับความจริงที่โลกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้วแม้แต่น้อย มีแต่ดื้อด้านเมินเฉยกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในสารพัดรูปแบบ มันเริ่มด้วยการทำลายรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้ง จนถึงตั้งรัฐบาลหุ่นที่ประชาชนไม่ยอมรับ แต่ถึงเวลานี้พวกเขาก็ล้มเหลวมาตลอด เพราะแม้จะถึงขั้นพยายามลอบสังหาร หรือมุ่งทำลายนักการเมืองภาคประชาชนด้วยข้อหาที่เคยได้ผลขนาดไหน ก็กลับไม่ได้ผลเสียแล้ว ประชาชนไม่ได้ฮือตามอย่างที่หวัง ที่จริงก็เพราะไปทำร้ายเขามากเกินไปจนประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้นั่นเอง ส่วนพวกอำมาตย์ก็ยังคงหมกมุ่นทำแต่เรื่องโบราณและด้วยวิธีเก่ากะลา ไม่เคยเปิดตาดูว่าสังคมโลกไปถึงไหน

มีคนเห็นว่าที่จริงการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นนั้นทำกันได้ทันทีตั้งแต่ตอนยึดอำนาจใหม่ ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ทำเพราะอะไรเป็นคำถามที่ไม่ต้องตอบแม้จะรู้คำตอบ มาถึงตอนนี้คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน เพราะการปล่อยให้พวกอำมาตย์สุมหัวกันทำเรื่องเลวร้ายสารพัดในเวลาต่อมา โดยเฉพาะเมื่อลูกน้องอำมาตย์ตั้งรัฐบาล ทำให้เกิดเป็นเชื้อไฟแรงปะทุจนประชาชนกล้าลุกขึ้นสู้เพื่อเสรีภาพได้รวดเร็วและมากมายอย่างที่เห็นกันในวันนี้ ลามไปทั่วทุกวงการทุกกลุ่มด้วย ทั้งในธุรกิจในราชการ หรือแม้แต่ในกองทัพ ตามประวัติศาสตร์มวลชนไม่เคยลุกฮือกันมากขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาโง่หรือฉลาดกันแน่ที่ทำรัฐประหาร ถ้าตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นตอนนั้นซึ่งการตื่นตัวของมวลชนยังไม่สูงพอ ก็อาจจะกลายเป็นผลร้ายกับผู้ตั้งเสียเปล่า ๆ

ตอนที่มีการรัฐประหารครั้งนั้น นักประชาธิปไตยทั่วโลกแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะมีคนกล้าทำกันในทศวรรษนี้ แต่พวกอนุรักษ์นิยมไทยก็ยังดื้อด้านทำ นักวิชาการต่างประเทศที่ศึกษาเรื่องเมืองไทยท่านหนึ่งเคยบอกผมว่า เขางงมากเรื่องประเทศที่ทันสมัยและประชาชนมีคุณภาพมากประเทศหนึ่งในภูมิภาคอย่างประเทศไทยเกิดการทำรัฐประหารแบบนี้ เพราะมันจะเป็นตัวเร่งที่ดีเยี่ยมให้กับความพังพินาศและเป็นการทำร้ายตัวเองของพวกอนุรักษ์นิยมไทยโดยแท้ เพราะประเทศไทยนั้นถือได้ว่าเป็นประเทศอารยะและเสรีนิยมสูงสุดในภูมิภาคประเทศหนึ่ง มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าทางการเมืองด้วยตนเองได้โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงหรือมีชาติอื่นมาทำให้แบบหลายประเทศในเอเซีย เป็นตัวอย่างว่ามีพัฒนาการแบบตะวันออกคือพูดจาปราศรัยกันได้ ขนาดเคยขัดแย้งทำสงครามกลางเมืองกันกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาหลายสิบปี ก็ยังยุติและพูดคุยกันให้เข้ามาร่วมกันสร้างชาติได้เป็นครั้งแรก แถมยังเคยเข้าไปช่วยแก้ปัญหาสงครามกลางเมืองให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเขมร และแก้ปัญหา จคม. ให้มาเลย์เซียได้สำเร็จอย่างน่าชื่นชมอีกด้วย เขาบอกด้วยว่ามาเลย์เซียและสิงคโปร์นั้นแม้จะเจริญทางวัตถุกว่าเรา แต่ด้านเสรีภาพและหลักการประชาธิปไตยนั้นยังอยู่ในระดับที่ด้อยกว่า เขาบอกว่าไม่น่าเชื่อเลย ที่คนฉลาด ๆ ในกลุ่มอนุรักษ์นิยมไทยซึ่งมีอยู่มากมายกลับไม่สามารถทัดทานไม่ให้ผู้มีอำนาจไทยทำอะไรโง่ ๆ อย่างนี้ได้
เขาชี้ด้วยว่า คนไทยยุคนี้คงไม่ยอมหรอก เพราะเพิ่งได้ประสบการณ์ดีงามของการเป็นประชาธิปไตยที่ส่งผลให้กับประชาชนส่วนใหญ่ชัดเจนมาระยะหนึ่งแล้ว คนที่ร่วมกันทำเรื่องนี้กำลังจุดชนวนสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงด้วยสันติวิธีที่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของไทย คงจะกลับกลายไปเป็นวิธีเดียวกับที่เปลี่ยนแปลงที่อื่นมาแล้วทั่วโลก นั่นคือการทำร้ายฆ่าฟันกัน( ซึ่งวันนี้เราเห็นแล้วว่ามันมีแนวโน้มเช่นนั้นจริง ๆ) และคงช่วยไม่ได้ถ้ามันจะเกิดเช่นนั้น เพราะพวกอนุรักษ์นิยมไทยทำตัวเองทั้งนั้น ไปจุดไฟให้คนทนไม่ได้กันเองแท้ ๆ

ถึงวันนี้ เรื่อง หนึ่งประเทศ สองรัฐบาล คงมีสิทธิเกิดขึ้นได้และไม่มีใครว่าอะไรด้วย