ที่มา บางกอกทูเดย์
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ....แค่ 1 ปี...มีตำรวจชั้นประทวนมากกว่า 6 หมื่นนาย..พากันไปสอบเพื่อจะได้เป็นชั้นสัญญาบัตรว่ากันว่า...วิชาที่นำไปออกเป็นข้อสอบนั้น..คนสอบผ่านจะต้องทำคะแนนมากกว่าร้อยละ 75 ขึ้นไปถึงจะอยู่ในบัญชีผู้สอบผ่าน..ปีนี้อาจจะถึงร้อยละ 80 เพราะอัตราส่วนระหว่างผู้สอบได้กับผู้สอบตกนั้น ...ประมาณกันว่าใน 100 คนเอาแค่ 1 คน...อีกร้อยละ 99 ต้องรอสอบใหม่ปีหน้าหรือ...ล้มความตั้งใจจะดีกว่าหรือไม่...หากในแต่ละจังหวัดแต่ละองค์การ
บริหารส่วนจังหวัด...จะมีตำรวจของตนเองในกิจการที่เป็นการให้ความสะดวกและบริการ....เหมือนกรุงเทพมหานครมีเทศกิจตำรวจในความหมายที่แท้จริงนั้น...ไม่ได้มีงานมากมายอย่างตำรวจไทย..ตำรวจคือผู้รักษากฎหมาย..ตำรวจคือผู้คลี่คลายคดีตำรวจมีหน้าที่จับผู้ร้ายไม่มีใครเอาตำรวจมานั่งเฝ้าร้านทองหรือธนาคาร..เหมือนตำรวจไทย..ในเงินเดือนระดับสัญญาบัตร..ตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุมาก..จะได้มีช่องทางระบายและได้ตำรวจใหม่ๆเข้ามาแทนที่จะดีกว่าหรือ
ไม่....ที่ระบบโยกย้ายกันไปทั่วประเทศของตำรวจชั้นสัญญาบัตร..จะล้มเลิกกันเสียที..ตำรวจในแต่ละพื้นที่จะรู้จักพื้นที่ดีกว่าการโยกย้ายไปมาปีละหลายๆ พันคน...ในแต่ละชั้นยศ...อย่างที่เป็นอยู่ตำรวจจะได้เลิกถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่ง..หรือแย่งกันลงในพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินแห่งทองคำสอบจ่าเป็นนายร้อยเมื่อ วันอาทิตย์ที่ผ่าน...ข่าวหล่นออกมาว่า...สำหรับช่องทางพิเศษ..ที่จะทำให้จ่าได้เป็นนายร้อยแบบสอบอย่างไรก็ได้นั้น...ฝันจะเป็นจริงได้ต้องใช้ปัจจัย
40 หมื่น...ยืนตัว...ว่ากันว่าขั้นตอนก็ง่ายๆ...เอาปัจจัยไปใส่แล้วเปิดบัญชีคู่กันถ้าสอบผ่านก็...ทำนิติกรรมกันใหม่เปิดทางให้กู้ได้โดยลำพังผู้หมวดใหม่ก็ตั้งอกตั้งใจใช้ดาวล้างหนี้...ประชาชีก็ต้องมีส่วนจับจ่ายอานิสงส์ว่ากันว่าที่ทยอยการสอบให้เป็นหลายครั้งย่อยๆ นั้น...เพื่อการปรับปรุงค่าเมตตาจิตไม่ให้หายหกตกหล่น...ฯลฯจะเพิ่มทั้งราคาและคุณค่าของคน มันก็ต้องกล้าแก้ไขเปลี่ยนแปลง...