WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 15, 2009

แนวรบด้านเผด็จการอมาตย์ เหตุการณ์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ที่มา thaifreenews

บทความโดย...ปูนนก

ใกล้จะสิ้นปี 2552 ดูเหมือนเหตุการณ์ต่าง ๆ สงบลงไม่ค่อยจะมีสิ่งใดให้น่าตื่นเต้นอกสั่นขวัญแขวนเท่าใดนัก... จะว่าไปน่าจะมีแต่ความชื่นชมยินดีเสียด้วยซ้ำ...วันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาพสกนิกรชาวไทย ต่างก็ร่วมปลาบปลื้มชื่นชมยินดีกับงานเฉลิมพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว..ซึ่งถือได้ว่าจัดงานได้ยิ่งใหญ่อลังการด้วยงบประมาณ 150 ล้านบาท...พร้อมด้วยเก้าอี้นั่งอย่างน้อย 40,000 ตัว (แต่ไม่รู้เอาไปวางไว้ที่ไหน)..


พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมกันชื่นชม พระบารมี, พระอัจฉริยภาพ และพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วันที่ 3 – 13 ธันวาคม เว้นเพียงวันเดียวคือวันที่ 10 ธันวาคม...เพราะมีการชุมนุมของคนเสื้อแดงหลายแสนคนในวันรัฐธรรมนูญ..(ไม่รู้ งดเว้นทำไม)...นี่แว่วว่าจะมีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ์กันตลอดปี 2553 เลย ในหลายๆ จังหวัดส่วนภูมิภาค....ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่พสกนิกรชาวไทยจะได้ชื่นชมพระ บารมีกันอย่างทั่วถึง...ใครที่พลาดโอกาสในงานส่วนกลางก็จะได้ร่วมงานเฉลิม พระเกียรติ์กันถึงบ้าน...นี่ยังไม่รวมถึงจะมีการจัดพิมพ์พระราชดำรัสนับล้าน เล่มแจกจ่ายให้พสกนิกรได้รับทราบอีกด้วย....ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหา ที่สุดมิได้....

เรื่องกระทบกระทั่ง..กินแหนงแคลงใจกันระหว่าง ไทยกับกัมพูชา ก็น่าจะจบลงด้วยดี...ในคดีการจารกรรมข้อมูลการบินของท่านนายกทักษิณ โดยนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการออกข่าวโจมตีกันไปมาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาล กัมพูชา... แม้ว่าศาลกัมพูชาจะตัดสินว่า นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ จะมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา และพิพากษาจำคุก 7 ปี ปรับอีกประมาณ 100,000 บาท ก็ตาม แต่ในที่สุดหลังจาการติดต่อประสานงานกันของหลายฝ่าย ผลก็ออกมาว่า นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษจาก พระบาทสมเด็จ...นาถ นโรดม สีหมุนี ...แห่งกัมพูชา และจะได้กลับประเทศไทยในวันนี้...

ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าชื่น ชมยินดีอีกเรื่องหนึ่งที่อย่างน้อยคนไทยคนหนึ่งก็ไม่ต้องไปถูกจำคุกอยู่ใน กัมพูชา.. จะว่าไปนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ กับมารดา คงจะไม่มีอะไรน่าห่วงใยอีกเพราะเรื่องทุกอย่างก็ได้ถูกเปิดเผยไปจนหมดสิ้น แล้ว... แต่ตรงกันข้ามคนที่น่าห่วงใยที่สุดในขณะนี้ก็คือ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย ต้นเหตุของเรื่อง ซึ่งคงจะไม่มีความสุขนักที่เพียงแค่การโทรศัพท์ไปคุยกับนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ เพียงครั้งเดียว เรื่องจะบานปลายจนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศไปได้ขนาดนี้... และที่สำคัญนับจากวันที่นายศิวรักษ์ ถูกจับต้องคดี นายคำรบ ได้หายหน้าไปจากข่าวในเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง ทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นต้นเหตุสำคัญของเรื่องเสียด้วย..

นี่คือนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขาฯประจำสถานทูตไทย

ประจำกรุงพนมเปญ ที่โทรศัพท์ไปขอข้อมูลตารางการบิน

พ.ต.ท.ทักษิณ จากนายศิวรักษ์


คิดไปแล้วก็ช่าง น่าเห็นใจนายคำรบ...และได้แต่หวังว่ากรณีนี้คงจะไม่ซ้ำรอยกรณีของนายเกรียง ไกร เตชะโม่ง คนจารกรรมเพชรบลูไดมอนมา และติดคุกจนพ้นโทษออกมาดำเนินตามปกติแล้ว... แต่ครอบครัว ศรีธนะขันฑ์ กลับถูกอุ้มฆ่ายกครัว ก็ได้แต่หวังว่า ตัวของนาย คำรบ ปาลวัฒน์วิไชย และครอบครัว คงจะไม่ต้องประสบกับวิบากกรรมเดียวกันนี้...

เรื่อง ที่น่าจะมีความสุขในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่อีกเรื่องหนึ่งก็คือการแสดงพลังของ ประชาชนไทยในวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีคนไทยมากมายเหลือเกินที่ต้องการให้ประเทศไทยธำรงค์รักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ แห่งชาติ ไม่ต้องการให้ใคร หรือ อะไรมาทำลาย หรือแทรกแซง การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป... และรัฐธรรมนูญก็เป็นสิ่งสำแดงให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตยของชาติ... ดัง นั้นการที่ประชาชนจำนวนมากออกมาร่วมแสดงพลังให้เห็นเพื่อเป็นการระลึกถึงใน วันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกให้กับคนไทย ในวันที่ 10 ธันวาคม นั้น จึงเป็นสิ่งบอกเหตุว่า...ต่อไปนี้ประเทศไทยจะมีความมั่นคงสถาพรทั้งสถาบัน ชาติ, ศาสนา, พระมหา..., โดยมีรัฐธรรมนูญที่ถูกเขียนขึ้นภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งกำหนดเอาไว้ .. และประชาชนไทยจะไม่ยอมให้ใครมาอ้างสิ่งใด เพื่อจะฉีกรัฐธรรมนูญไทยทิ้งอีกต่อไปแล้ว...ซี่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีมิใช่ น้อย สำหรับใครก็ตามที่เป็นผู้ปกครองประเทศควรจะชื่นชมยินดีในสิ่งนี้...(มิใช่ หรือ?)

เพราะต่อไปนี้ประเทศไทยจะดำรงความเป็นประชาธิปไตยได้ อย่างสมบูรณ์...โดยมีประชาชนที่เข้าใจและยึดมั่นในความมีเสรีภาพในระบอบ ประชาธิปไตย จะเป็นผู้ปกป้องรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อย่างมั่นคง......


แต่สำหรับอำนาจเผด็จการอาจจะไม่มีความสุขสัก เท่าใดนัก...เพราะประชาธิปไตย กับเผด็จการ ก็คือการปกครองที่แยกขั้วกันอย่างเด็ดขาดไม่สามารถผสมกลมกลืนกันได้อย่างแน่ นอน...ถ้าประเทศไทยจะปกครองโดยประชาธิปไตย อำนาจเผด็จการจะต้องพังทลายสูญหายไป...แต่ถ้าประเทศไทยจะปกครองโดยอำนาจ เผด็จการ ประชาธิปไตยก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน...

ประชาธิปไตย ไม่เคยได้มาด้วยการร้องขอ...ก็ได้แต่หวังว่าประเทศไทยที่กล่าวอ้างนักหนา และประกาศแก่ชาวโลกมาโดยตลอดว่าประเทศเป็นประชาธิปไตย...และได้เข้าร่วมเป็น สมาชิกในองค์การสหประชาติในลำดับที่ 54 จาก 191 ประเทศ... จะไม่เกิดการทำลายล้างประชาชนในชาติที่มีความเชื่อ, ศรัทธา และเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างบริบูรณ์...

อำนาจเผด็จการ...ที่ กำลังครอบครองประเทศนี้อยู่ โดยรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของอำนาจเผด็จการมืดนั้น พยายามสร้างภาพให้เห็นว่าประเทศเป็นประชาธิปไตย... ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นอย่างแท้จริงเถิด.. เพราะว่าเมื่อประชาชนได้รับแรงกดดันบีบคั้นจากความอยุติธรรมที่เผด็จการยัด เยียดให้มากเท่าใด...แรงปฏิกริยาต่อต้านก็ส่งผลออกมารุนแรงดุจเดียวกัน... และเมื่อถึงเวลานั้นก็คงยากที่จะให้ประชาชนผู้ต้องการประชาธิปไตย... หยุดฟังสิ่งใด ๆ เหมือนที่เคยฟังมาก่อนในอดีต เพราะเวลาได้พิสูจน์ออกมานับตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 แล้วว่า สำหรับประชาชนโดยทั่ว ๆ ไปนั้น แนวรบด้านเผด็จการอมาตย์ เหตุการณ์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ปูนนก