WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 16, 2009

1 ปี รัฐบาลนี้มีดี (อะไร) ต้องโชว์

ที่มา มติชน

โดย น.ชุ่มใจ


สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิกฤติการเมืองไทยในช่วงนี้ โดยพบว่ามี 5 ปัจจัยด้วยกันที่ทำให้การเมืองไทยสุ่มเสี่ยงต่อการกลับไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง

โดยสรุป 5 ปัจจัยนั้นได้แก่ 1.ความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นแกนนำ 2.การชุมนุมที่ยืดเยื้อของกลุ่มคนเสื้อแดงที่คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน 3.หนังยาวชุด "มาบตาพุด" 4.ปัญหาคอร์รัปชั่นและธรรมาภิบาล และ 5.ไฟใต้ ทั้งหมดนี้ถูกวิเคราะห์มาในช่วงที่รัฐบาลประกาศว่าพร้อมจะแถลงผลงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพอดิบพอดี !!

รัฐนาวี โดย "กัปตัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" พร้อมแถลงข่าวโชว์ผลงาน 1 ปีในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ รวดเร็วปานกามนิต แต่...อะไรล่ะที่เป็นชิ้นงานที่ยืดอกได้ว่าเป็น "ผลงาน" ของรัฐบาล ชนิดที่จับต้องได้หรือเห็นผลกันแล้วยังคงเป็นคำถามอยู่?

หากจะถามถึงชื่อโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลจัดสรรมานั้น คงเรียงได้เป็นหลายร้อยชื่อๆ อาทิ โครงการเช็คช่วยชาติ, โครงการไทยเข็มแข็ง, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ, ต้นกล้าอาชีพ, เรียนฟรี 15 ปี ฯลฯ ก็กลับปรากฏรายละเอียดของบางจุดที่น่าฉงน ยังคงมีกลิ่นคาวฉาวของการทุจริตอยู่ บางชิ้นก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ และบางชิ้นก็ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจได้เห็นผลอย่างที่รัฐบาลเคยคุยไว้หนักหนา

ถามว่า... ทุกวันนี้ ผู้คนที่ได้รับเช็ค 2,000 บาทไปนั้น จวนจะครบปีดีแล้ว รู้สึกบ้างไหมว่ามันช่วยเสริมสภาพคล่องได้จริง !! ถ้าเป็นจริงเหตุใดจึงไม่มีการแถลงข่าวชี้แจงให้เห็นชัดถึงผลความสำเร็จ ตามที่วิสัยปกติ

แม้แต่นโยบายการเสริมสร้างความสมานฉันท์ และความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลจัดให้เป็น "นโยบายเร่งด่วน" ในข้อที่ ๑.๑.๑ ด้วยซ้ำ ซึ่งตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ยังยอมรับว่า ตนไม่พอใจกับสภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมขณะนี้

... ยอมรับยังแก้ปัญหาเรื่อง "สี" ไม่สำเร็จ ...ลูกผู้ชาย ยืดอกดี! แต่ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาสะสางไปได้ อย่างที่นายกรัฐมนตรีได้ตอบ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงเป็นโจทก์ที่ยากยิ่งสำหรับทุกคนที่มานั่งเก้าอี้นี้

อย่าไรก็ตาม ปัญหาอื่นที่ตัวนายกรัฐมนตรี แก้ได้ด้วยตัวนายกรัฐมนตรีเอง พร้อมกับแกนนำในพรรคและรัฐบาล อาทิ การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่ยังคงยืดเยื้อเป็นหนังยาวไม่จบสิ้นเสียที การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นเหมือนละครน้ำเน่าแย่งเค้กกันไปมาอยู่ตลอดเวลาในทุกยุคสมัย ปัญหาคอร์รัปชั่นในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการพอเพียง และ ไทยเข้มแข็ง เป็นต้น หรือแม้แต่ "ปลากระป๋องเน่า" ที่ดูเหมือนจะเงียบหายไปกับการเวลา (เหมือนเช่นเคย) ก็สามารถจัดการแก้ไขได้ทันที ติดอยู่ที่ว่ามีความจริงใจในการแก้ปัญหามากแค่ไหน

ส่วนปัญหาเรื่อง "มาบตาพุด" นั้น ก็ดูเหมือนว่าจะ "สวยรูป" มีการจัดกรรมการชุด "อานันท์ ปันยารชุน" ที่เปรียบเหมือน "ชุดสูทผูกไท" แต่งโชว์หน้าตาเพื่อให้ดูดีอวดคนอื่นได้ แต่ทว่า...ผลลัพธ์นั้นยังอีกไกลที่จะพิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้จริงใจ หวั่นว่าจะเหมือนกับเมื่อครั้งนำนายอานันท์มาแก้ปัญหาใต้ ที่สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งเช่นทุกครั้งไป

กับการแก้ปัญหาใต้ ยังดีที่รัฐบาลสามารถดึงผู้นำมาเลย์มาตบแต่งให้ดูดี โชว์ข่าวออกภาพแก่สื่อในและนอกประเทศได้ว่ามีความจริงใจแก้ปัญหาจริง ..."ขายผ้า" ออกได้หนึ่งเรื่อง

เหล่านี้หากวิเคราะห์ตาม "รอยเตอร์" ก็ดูจะวิเคราะห์ได้ตรงและถูกต้องว่ารัฐบาลยังต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคสำคัญทั้ง 5 ประการใหญ่ๆ อยู่ การที่จะแถลงข่าวถึงผลงานรัฐบาล และบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ประสบความสำเร็จ" นั้นดูจะยากยิ่งเต็มที

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยการนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดูเหมือนจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฝันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้ บางทีตัวนายกฯ เองอาจจะต้องหันกลับมามองรอบข้างว่าที่อยู่ข้างตัวเรานั้น เป็นคน "ช่วยพาย" หรือ "ราน้ำ" บนรัฐนาวานี้กันแน่ !!

จับตา 23 ธ.ค.นี้ มี "ของดี" ก็งัดมาโชว์กัน