ที่มา มติชน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีนำเสนอบทวิเคราะห์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ระยะเวลา 1 ปีที่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ยังไม่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและบนเวทีระดับภูมิภาค รวมทั้งยังล้มเหลวในการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยที่เกิดการแบ่งแยกอย่างลึกซึ้งรุนแรงในขณะนี้ โดยเอเอฟพีอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า "ประเทศไทยแตกแยกมากขึ้นอีก มีการแบ่งขั้วกันชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในคำปราศรัยหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขากล่าวว่าเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน แต่ที่จริงแล้วเขาไม่ได้เข้าถึงกลุ่มที่อยู่อีกขั้วหนึ่ง"
สื่อนอกวิเคราะห์รัฐบาล"อภิสิทธิ์"ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและบนเวทีระดับภูมิภาคแบ่งแยกร้าวลึก อ้างคำสัมภาษณ์อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ นักวิจัยชาวเยอรมันชี้"มาร์ค"มีหน้าตาที่สามารถเชิดชูได้บนเวทีระดับนานาชาติ" นักวิจัยสิงคโปร์ระบุเล่นบทเดียวคือกลัว-เกลียด "ทักษิณ"
ดร.ฐิตินันท์ยังชี้ว่า นับตั้งแต่นายอภิสิทธิ์เข้ารับตำแหน่ง มักจะประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อต้องเผชิญกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลืองไม่เคยมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯเลย
ดร.ฐิตินันท์ยังระบุว่า เมื่อสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ได้สร้างความโกรธเคืองให้กับรัฐบาลไทยเป็นอย่างมาก และนายอภิสิทธิ์แสดงให้เห็นถึงวิธีการปฏิบัติในการต่อต้านกัมพูชาแบบอ่อนด้อย ทำให้เห็นชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนที่สูญเสียความยอดเยี่ยมของตนเองไปในเรื่องการต่างประเทศ
ด้านพอล เชมเบอร์ส นักวิจัยอาวุโสด้านการเมืองไทย แห่งมหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์ก ในประเทศเยอรมนีเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษและมีวาทศิลป์ดีนั้น "เป็นหน้าตาที่สามารถเชิดชูได้บนเวทีระดับนานาชาติ"
ขณะที่ไมเคิล มอนเตซาโน นักวิจัยแห่งสถาบันศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสิงคโปร์ กล่าวว่า "นายอภิสิทธิ์เล่นบทที่เขาได้รับมา คือเป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ที่คำจำกัดความทางการเมืองของพวกเขาคือ เกลียดและกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ และเขาก็ไม่เคยแสดงบทบาทอื่นนอกเหนือจากนั้นเลย"