ไม่มีรายการล็อกถล่มให้ตื่นเต้น ประเดิมสนามแรกเลือกตั้งซ่อม เขต 3 นครราชสีมา คนของพรรคพลังประชาชนยกทีมเข้าวินแบบม้วนเดียวจบ
ย้ำชัยชนะเป็นรอบที่สอง
เป็นไปตามที่เซียนเลือกตั้งคาดการณ์ล่วงหน้า โดยกระแสนาทีนี้ ใบเหลืองในภาคอีสานกับภาคเหนือไม่น่ามีผลต่อจำนวนที่นั่งของพรรคพลังประชาชน
เลือกเมื่อไหร่ก็ได้อีก
และก็เป็นอะไรที่ปิดประตูแต้มไหลไปอยู่ขั้วตรงข้าม เพราะคิวนี้ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนได้คะแนนขึ้นไปหลัก 8 หมื่นถึง 9 หมื่นแต้ม ในขณะที่คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อคือ คนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาได้ไปหลัก 6 หมื่นเสียง ลุ้นกันอยู่ในหมู่พันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลที่ประกาศล็อกแขนกันแล้ว
ปล่อยให้คู่แข่งต่างขั้วอย่างพรรคประชาธิปัตย์ป้วนเปี้ยนอยู่แค่หลักพันคะแนน
และหากประเมินกันตามแนวโน้มนี้ พื้นที่เลือกซ่อมใบเหลืองในภาคอีสานกับภาคเหนือ ไม่มีผลต่อตัวเลข ส.ส.พรรคพลังประชาชน อย่างไรเสีย จำนวนที่นั่งก็ยังวนเวียนอยู่ในหมู่พันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลที่แตะมือกันไว้
แต้มพลิก สวิงขั้วยาก
เผลอๆพรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละที่อาจจะลดตัวเลขลงไป เพราะโดยทำเล จังหวัดเพชรบูรณ์ เขต 1 ของนายสุทัศน์ จันทร์แสงศรี ถือเป็นพื้นที่เขตรอยต่อภาคอีสานกับเหนือ
เจอทัพใหญ่ค่ายพลังประชาชนโหมโรงเข้าตี หืดขึ้นคอแน่
และเหมือนจะยอมรับสภาพกันโดยปริยาย แม้ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะยังคงแอบลุ้นลึกๆในการแย่งจัดรัฐบาล
ออกแนวคุยข่มคู่ต่อสู้ ปลอบขวัญตัวเอง
“อย่าเพิ่งมองไปไกลว่าพรรคพลังประชาชนจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากยังมีเวลาเหลืออยู่และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ พรรคพลังประชาชนหมิ่นเหม่ที่จะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และถึงวันนั้นสถานะของพรรคพลังประชาชนอาจจะหมดไปก็เป็นได้”
หมดลุ้นปั่นตัวเลข ส.ส.แข่ง
หันไปตั้งหน้าตั้งตาลุ้นคิวยุบพรรคพลังประชาชน ยุให้โละให้ได้
พร้อมๆกับการเริ่มขยับเดินสายของนายไทกร พลสุวรรณ อดีตลูกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีบทบาทสำคัญเป็นหนึ่งในทีมโค่นล้มพรรคไทยรักไทยในคดียุบพรรค
เปิดเกมแจ้งความร้องทุกข์นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะ จัดการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ไล่บี้ให้โมฆะ
ตัวละครหน้าเก่าๆในฉากล่มพรรคไทยรักไทย เริ่มปรากฏโฉมในเกมยุบพรรคภาคสอง
แต่มาถึงนาทีนี้ดูเหมือนว่า ความหวังที่จะพลิกเกมจัดรัฐบาลแข่ง จะเป็นแค่ความฝันลมๆแล้งๆของ “เทพเทือก”
ยังไม่ตื่นอยู่คนเดียว
ล่าสุดกระแสความเคลื่อนไหวภายในของพรรคพลังประชาชนก้าวไปไกลถึงขั้นชูเงื่อนไขนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ชื่อ “สมัคร สุนทรเวช”
เพื่อแลกกับไฟเขียวจากผู้ใหญ่ปล่อยให้พรรคพลังประชาชนจัดรัฐบาล
คืบหน้าไปถึงขั้นที่มีชื่อของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก โผล่มาจองเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามข้อเสนอของกองทัพ
ยื่นหมู ยื่นแมวกันแล้ว
โดยกระแสมีมูลแค่ไหน ในกรณีของนายสมัคร ณ วันนี้ยังเป็นแค่กระแสข่าวลือ ที่ต่างฝ่ายต่างปล่อย โดยเฉพาะคิวของพวกยัดไส้ “เจ๊” ในพรรคพลังประชาชน แอบไปแตะมือกับคนตัวเตี้ยๆที่ลุ้นเสียบเก้าอี้นายกรัฐมนตรีส้มหล่น
เปิดเกมแทงหลัง เตะตัดขา “ป๋าหมัก”
แต่กรณีของ พล.อ.ประวิตร วงในพูดถึงกันมาเป็นเดือนๆ
ไม่ได้มาแบบลอยๆ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังในฐานะเตรียมทหารรุ่น 6 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกฯ ทหารเสือราชินีรุ่นพี่ คนที่วางเส้นทางให้ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จนไต่ขึ้นมาสู่จุดสูงสุดในตำแหน่งจ่าฝูง ทบ.
ตามรูปการณ์แล้ว เป็นไปได้สูง ถ้ามีการยอมรับเงื่อนไขเกมคานอำนาจ
ถอยคนละก้าว พบกันครึ่งทาง.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)