WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, January 16, 2008

หมอเลี้ยบ ทางออกสมานฉันท์ [16 ม.ค. 51 - 21:05]

วันพรุ่งนี้จะได้เห็นหน้าตาของรัฐบาลเสียที เป็นวันที่ “พรรคพลังประชาชน” แกนนำจัดตั้งรัฐบาลประกาศว่า เป็นวันดีเดย์ประกาศการจัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรค ประกอบด้วย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา, พรรคมัชฌิมาธิปไตย, พรรคประชาราช และพรรคชาติไทย กับพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งจะประกาศตัวร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้

ผมขออวยพรให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถิด เศรษฐกิจและสังคมของประเทศตอนนี้ ทนการยื้อต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน รัฐธรรมนูญมาตรา 127 จะต้องมีการเรียกประชุม รัฐสภานัดแรกภายใน 30 วันหลังเลือกตั้งทั่วไป หากจำนวน ส.ส.ไม่ครบ 480 คน เพราะไม่ผ่านการรับรองของ กกต. รัฐธรรมนูญมาตรา 93 ก็กำหนดทางออกให้ว่า มี ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 หรือเท่ากับ 432 คน ก็พอแล้ว ที่เหลือให้เลือกตั้งให้ครบภายใน 180 วัน

เพราะฉะนั้น วันที่ 23 มกราคม ยังไงก็ต้องมีการเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยดำเนินต่อไปตามขั้นตอน

จากนั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 172 ได้เขียนบังคับต่อว่า ให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ มีการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรกตามมาตรา 127

ไม่เกินวันที่ 23 กุมภาพันธ์ จะต้องได้ตัวนายกรัฐมนตรีแน่นอน

ดังนั้น ถ้าหาก กกต.สามารถรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ได้เกินร้อยละ 90 ภายในวันที่ 22 มกราคมนี้ ทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปตามกระบวนการของมัน

ผมอยากเห็นกระบวนการนี้เดินไปอย่างราบรื่น ไม่มีการสะดุด

แต่ปัญหาใหญ่ที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกและออกมาท้วงติง รวมทั้งพรรค ร่วมรัฐบาลผสม และพรรคพลังประชาชนเอง ก็คือ รัฐบาลผสม 6 พรรค จะเป็น “รัฐบาลสมานฉันท์” ได้อย่างไร ถ้าให้ นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งประกาศตัวเองว่าเป็น “นอมินี” หรือ “ตัวแทนชั่วคราว” ขึ้นไปเป็น “นายกรัฐมนตรี” ในรัฐบาลผสมชุดนี้

เพราะบุคลิกของนายสมัคร ไม่ใช่คนสมานฉันท์อย่างที่ชาติต้องการ

แม้พรรคพลังประชาชนจะออกมาโต้ว่า หัวหน้าพรรคต้องเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นเพียงประเพณีปฏิบัติ รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้กำหนดว่า นายกรัฐมนตรี จะต้องมาจาก หัวหน้าพรรคการเมือง แต่กำหนดไว้กว้างๆว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามมาตรา 172 เท่านั้น

ผมอยากเรียนไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากให้บ้านเมืองมีความสมานฉันท์ มีความสงบสุขอีกครั้ง ผมคิดว่า ท่านน่าจะเรียกเพื่อนพ้องน้องพี่ในพรรคพลังประชาชน ที่ยังให้ความเคารพนับถือท่าน ไป “ให้แนวทางที่ถูกต้อง” ในการสร้างความสมานฉันท์ขึ้นในบ้านเมืองจะดีที่สุด

นักการเมืองก็ประกาศตัวเองอยู่แล้วว่า เป็นผู้เสียสละ ก็น่าจะแสดงความเสียสละให้เห็น หัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้เสียหายอะไร

เวลานี้มีการเสนอชื่อ “ว่าที่นายกฯ” ของพรรคพลังประชาชนออกมาแข่งขัน กันหลายชื่อ ตั้งแต่ สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ และ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น รอยัลลิสต์ที่ไว้ใจได้มากที่สุดคนหนึ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ถ้าจะให้ผมเลือกเอาคนหนึ่งจาก 3 คนนี้เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว

ผมเลือก “หมอเลี้ยบ” ครับ เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ ทั้งตำแหน่งหน้าที่ในพรรค บุคลิก นิสัยใจคอ การพูดจา การยอมรับจากพรรคร่วมรัฐบาล และการยอมรับได้จากสังคม และที่สำคัญที่สุดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณและความไว้วางใจจากบ้านจันทร์ส่องหล้า “หมอเลี้ยบ” จะไม่วัดรอยเท้า.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย