เป็นความเข้าใจและเห็นใจเมื่อพรรคพลังประชาชนพยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะหาบุคคลภายนอกที่ได้รับการยอมรับในความรู้ความสามารถเรื่องเศรษฐกิจเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่คนที่มีคุณสมบัติเช่นนั้นและพอไว้วางใจได้ว่าจะเดินไปในแนวเดียวกับที่ทีมเศรษฐกิจของพรรคต้องการ กลับหาได้ยากเย็นยิ่งด้วยปัจจัยไม่เอื้ออำนวยสารพัด ทั้งเรื่องกฎหมายที่กำหนดให้ตรวจสอบจนเกินพอดี และเสถียรภาพทางการเมืองที่ไม่หลุดจากความขัดแย้ง แตกแยก
คนไม่อยากเดือดร้อน และไม่อยากถูกจับเข้าเป็นพวกใดพวกหนึ่ง แม้ใจหนึ่งคิดถึงวาสนา แต่อีกใจหนึ่งย่อมไม่ละเลยความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นตามมา
ทุกคนที่ได้รับการทาบทามล้วนปฏิเสธ
ตัวเลือกจึงเหมือนจะมาลงที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค
ย้อนกลับไปหลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค กรรมการบริหาร 111 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี สมาชิกที่เหลือจากการย้ายออกไปอยู่พรรคอื่น หรือจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ รวมตัวเข้าทำงานในนาม "พรรคพลังประชาชน" ไปเชิญนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นหัวหน้าพรรค และดึงตัว "นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี" ซึ่งลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวแล้วกลับเข้ามาใหม่ในหน้าที่เลขาธิการพรรค
แม้ในยุคที่เป็นรัฐมนตรีภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บทบาทของ นพ.สุรพงษ์ไม่โดดเด่นมากนัก แต่ในบทบาทเลขาธิการพรรคที่มีนายสมัครเป็นหัวหน้า บุคลิกภาพที่แสดงให้เห็นถึงความสุขุม แต่หนักแน่นในหลักการก่อให้เกิดการยอมรับขึ้นในความรู้สึกของคนทั่วไป
ยอมรับถึงระดับ หากเลือกคนในพรรคพลังประชาชนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ความรู้สึกทั่วไปเทให้ นพ.สุรพงษ์อยู่ไม่น้อย
หลายคนเชื่อว่าในสภาพขาดแคลนตัวเลือก นพ.สุรพงษ์เป็นทางเลือกที่น่าจะมีความหวังที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์โดยรวมหนีไม่พ้นที่จะต้องให้นายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี การยอมรับในหมอสุรพงษ์ก็ยังไม่หมดไป
ทว่าแม้ลึกไปถึงระดับยอมรับที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น กระแสทั่วไปค่อนข้างตะลึงอยู่ไม่น้อยว่าประเทศไทยไม่มีทางเลือกถึงระดับนั้นเชียวหรือ
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่นับวันยิ่งชัดเจนว่ามีแนวโน้มที่จะเสื่อมทรุด ทั้งผลกระทบที่เกิดจากหนี้เน่ามหาศาลในระดับธนาคารของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก ทั้งจากศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยเราที่รู้กันดีว่านับวันยิ่งอ่อนด้อย ถอยหลัง
ท่ามกลางการเมืองที่เป็นปัจจัยในทางลบ
ความเชื่อมั่นในตัวบุคคลที่จะมาบริหารเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่จำเป็นยิ่ง จะต้องมีภาพของผู้มีความรู้ความสามารถในด้านการเงินการคลัง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า นพ.สุรพงษ์ไม่มีอยู่
รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัครจะต้องถูกกดดันให้ต้องเร่งสร้างการยอมรับ เร่งสร้างความเชื่อมั่นว่าเป็นความหวัง เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะก่อเสถียรภาพให้เกิดขึ้นได้ในระดับมีความมั่นคง
ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นปัจจัยสำคัญ
ด้วยภาพของผู้มีความสุขุมยึดมั่นในหลักการของ นพ.สุรพงษ์อาจจะเป็นจุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้ หากทำงานในตำแหน่งอื่น
แต่สำหรับกระทรวงการคลังซึ่งสำคัญต่อการจัดการเศรษฐกิจของประเทศ นพ.สุรพงษ์น่าจะกลายเป็นจุดอ่อนอย่างน่าเสียดาย
คนไม่อยากเดือดร้อน และไม่อยากถูกจับเข้าเป็นพวกใดพวกหนึ่ง แม้ใจหนึ่งคิดถึงวาสนา แต่อีกใจหนึ่งย่อมไม่ละเลยความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นตามมา
ทุกคนที่ได้รับการทาบทามล้วนปฏิเสธ
ตัวเลือกจึงเหมือนจะมาลงที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค
ย้อนกลับไปหลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค กรรมการบริหาร 111 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี สมาชิกที่เหลือจากการย้ายออกไปอยู่พรรคอื่น หรือจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ รวมตัวเข้าทำงานในนาม "พรรคพลังประชาชน" ไปเชิญนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นหัวหน้าพรรค และดึงตัว "นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี" ซึ่งลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวแล้วกลับเข้ามาใหม่ในหน้าที่เลขาธิการพรรค
แม้ในยุคที่เป็นรัฐมนตรีภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บทบาทของ นพ.สุรพงษ์ไม่โดดเด่นมากนัก แต่ในบทบาทเลขาธิการพรรคที่มีนายสมัครเป็นหัวหน้า บุคลิกภาพที่แสดงให้เห็นถึงความสุขุม แต่หนักแน่นในหลักการก่อให้เกิดการยอมรับขึ้นในความรู้สึกของคนทั่วไป
ยอมรับถึงระดับ หากเลือกคนในพรรคพลังประชาชนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ความรู้สึกทั่วไปเทให้ นพ.สุรพงษ์อยู่ไม่น้อย
หลายคนเชื่อว่าในสภาพขาดแคลนตัวเลือก นพ.สุรพงษ์เป็นทางเลือกที่น่าจะมีความหวังที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์โดยรวมหนีไม่พ้นที่จะต้องให้นายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี การยอมรับในหมอสุรพงษ์ก็ยังไม่หมดไป
ทว่าแม้ลึกไปถึงระดับยอมรับที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น กระแสทั่วไปค่อนข้างตะลึงอยู่ไม่น้อยว่าประเทศไทยไม่มีทางเลือกถึงระดับนั้นเชียวหรือ
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่นับวันยิ่งชัดเจนว่ามีแนวโน้มที่จะเสื่อมทรุด ทั้งผลกระทบที่เกิดจากหนี้เน่ามหาศาลในระดับธนาคารของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก ทั้งจากศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยเราที่รู้กันดีว่านับวันยิ่งอ่อนด้อย ถอยหลัง
ท่ามกลางการเมืองที่เป็นปัจจัยในทางลบ
ความเชื่อมั่นในตัวบุคคลที่จะมาบริหารเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่จำเป็นยิ่ง จะต้องมีภาพของผู้มีความรู้ความสามารถในด้านการเงินการคลัง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า นพ.สุรพงษ์ไม่มีอยู่
รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัครจะต้องถูกกดดันให้ต้องเร่งสร้างการยอมรับ เร่งสร้างความเชื่อมั่นว่าเป็นความหวัง เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะก่อเสถียรภาพให้เกิดขึ้นได้ในระดับมีความมั่นคง
ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นปัจจัยสำคัญ
ด้วยภาพของผู้มีความสุขุมยึดมั่นในหลักการของ นพ.สุรพงษ์อาจจะเป็นจุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้ หากทำงานในตำแหน่งอื่น
แต่สำหรับกระทรวงการคลังซึ่งสำคัญต่อการจัดการเศรษฐกิจของประเทศ นพ.สุรพงษ์น่าจะกลายเป็นจุดอ่อนอย่างน่าเสียดาย
คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน