'ยงยุทธ'เรียกร้องกกต.ให้ฝ่ายสอบสวนฯชุดใหม่ลงพื้นที่ไปสอบถามประชาชนจ.เชียงรายเองา อย่าไปถามพยานตามที่สันติบาลระบุ ควรไปถามทั้งอำเภอว่า'นายชัยวัฒน์'กำนันต.จันจว้า อ.แม่จันเป็นหัวคะแนน ของใคร
นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวว่ามีข่าวตามสื่อต่างๆว่า ซีดีของตำรวจ สันติบาลที่กล่าวหาตนนั้น กกต.ได้รับมอบมาแล้ว และนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ สำนวนดังกล่าว บอกว่าได้ประสานกับตนแล้ว ตนยืนยันว่าไม่ได้รับการประสานเลย เจ้าหน้าที่พรรคก็มาบอกตน มีข่าวนี้ออกมาว่า ทำไมตนไม่ไปดูซีดี ตรงนี้ทำให้ตนเหมือนคนเจ้าเล่ห์ ตอนนั้นตนก็ไปกกต.ทันที เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าต้องการดูซีดีแผ่นนั้น เพื่อรักษาสิทธิ แต่เรื่องนี้ตนก็โดนสื่อมวลชนวิจารณ์มาก
นายยงยุทธกล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องของตนนั้นไม่ใช่การทำผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บางคน ที่ได้รับมอบหมาย สมคบ รวมหัววางแผนดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้ตนได้รับผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ตนพูดแบบนี้อาจมองว่าแก้ตัว เพราะคำให้การของกำนันที่เกี่ยวข้อง90%พูดว่าเจ้าหน้าที่ได้พิมพ์เอกสาร การสอบสวนให้บุคคลเหล่านั้นไปลงนาม และข้อความก็ไม่ตรงกับความจริง กำนันเหล่านั้นก็โดนกดดันตลอด
โดยเฉพาะ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่แจ้งว่า ขอให้ระวังตัวในช่วง เลือกตั้ง หากไม่สนับสนุนอีกพรรคหนึ่งก็จะโดนจับกุม และในพื้นที่ก็รู้ดีว่า หากเจ่าหน้าที่บางคนพูดว่าบ้านหลังใด จะโดนค้น แล้วก็จะโดนค้นจริงๆ
นายยงยุทธ กล่าวว่าเรื่องรถตู้นั้น เป็นการเอาเรื่องต่างๆมาเจือสมกัน เพราะรถตู้นั้น เป็นการประสาน กับนายบรรจง ยางยืน นายกเทศมนตรีจันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่เป็นนายกเทศมนตรี เพราะก่อนหน้านี้ นายบรรจงประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯเรื่องสวนส้มปล่อยสารพิษในพื้นที่ แต่ปัญหานี้ก็ไม่ลดลง นายบรรจงก็มาของบจากกระทรวงฯไปแก้ไข และในช่วงนั้นนายชัยวัฒน์ และนายบรรจงมาเจอกันที่กทม. แต่ทั้งคู่ไม่ถูกกัน เมื่อนายชัยวัฒน์มาพบตนที่กทม. นายบรรจงก็พลาดไม่ได้ เรื่องนี้ต่างคนต่างมา และช่วงที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ไม่ได้นั่งรถตู้คันเดียวกันตามที่มีการอ้างในสำนวนของสันติบาล ยืนยันว่า ทั้งสองคนไม่ได้มาด้วยกันตามข้อหาว่ามารับเงินด้วยกัน
นายยงยุทธ กล่าวว่าขอให้ฝ่ายสืบสวนฯชุดใหม่ลงพื้นที่ไปสอบถามประชาชนจ.เชียงรายเองดีกว่า อย่าไปถามพยานตามที่สันติบาลระบุ ควรไปถามทั้งอำเภอว่านายชัยวัฒน์เป็นคนของใคร เป็นหัวคะแนนของใคร นายชัยวัฒน์ไม่ได้มาหาตน เพื่อมาขอเงิน แต่มาขอให้ตนใช้บารมีไปทวงเงิน ตนก็บอกว่าตอนนี้ไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง หากทำแบบนั้นก็ผิดกฎหมาย หากทำจริงก็เป็นการข่มขู่ แม้แต่จะเลี้ยงข้าว ตนก็ยังไม่ได้เลี้ยงเลย ตนพูดไปเพียงว่าในช่วงหาเสียงแล้วค่อยเจอกัน ส่วนที่มีการถ่ายภาพตั๋วเครื่องบินและการขึ้น-ลงเครื่องนั้น มันเป็นการบันทึกภาพของนายชัยวัฒน์ อีกทั้งค่าตั๋วนั้นนายชัยวัฒน์เป็นคนออกเงิน
นาย ยงยุทธกล่าวว่า อีกทั้งคนในพื้นที่ก็รู้ว่านายชัยวัฒน์นั้นไม่ใช่หัวคะแนนของตน และนายชัยวัฒน์กับนายบรรจงที่เป็นหัวคะแนนของตนก็ไม่ถูกกัน เพราะแข่งขันทางการเมืองกันเอง แล้วนายชัยวัฒน์จะมาเก็บเงินที่ตนได้อย่างไร และกำนันบางคนที่มานั้นเห็นว่าเป็นตั๋วฟรีก็เลยมา ที่อ้างว่าบอกว่ามีคนกลุ่มนี้มารอตนที่โรงแรมเอสซีปาร์คตั้งแต่14.00 น.-20.00น.นั้น ตนจะเป็นนักการเมือง จะปล่อยให้ใครมารอแบบนั้นไม่ได้เพราะจะเสียคะแนน หากนัดแล้วก็ต้องมาตามนัด ไม่ใช่ปล่อยให้รอแบบนี้ และในวันนั้นตนไปหารือเรื่องยุทธศาสตร์ของพรรคที่โรงแรมดังกล่าวจริง และพบคนกลุ่มนี้จริง แต่พูดกันแค่สารทุกข์สุขดิบหลังเหตุ19 ก.ย.2549 ตนบอกไปว่าต้องไปอยู่เมืองนอก เพราะบางฝ่ายจะยิงหัวตน และหลังเลือกตั้งแล้วค่อยมาคุยเรื่องต่างๆกัน
นายยงยุทธ กล่าวว่า ฉะนั้นซีดีและสำนวนที่มีข่าวว่ารั่วมาถึงตนนั้น หากรั่วจริง ทำไมตนไม่ได้ประโยชน์ แต่ในทางกลับกันซีดีแผ่นนั้นกลับไปโผล่ที่เอเอสทีวี และบางพรรค กกต.ควรใช้อำนาจทางกฎหมายไปตามซีดีแผ่นนี้ ี้กลับมา และการปล่อยข่าวว่ากกต.บางคนรับเงินจากตนนั้น มีการเขียนชาร์จเชื่อมโยงแบบนี้ ทำให้ตนเหมือน เป็นคนชั่ว ในสังคม หากกกต.ไม่รับสำนวนจากสันติบาลชุดนั้นมาเก็บไว้ ก็จะไม่รู้ถึงกระบวนการสอบสวน หากกกต.คืนสำนวนไป ก็จะแก้สำนวนและสอดไส้เข้ามาใหม่ แต่ตอนนี้กกต.ก็ตั้งคณะสอบสวนชุดใหม่ฯแล้ว ตนก็รู้สึกดี หากถามว่าข่าว และสำนวนรั่วจริงนั้น ตนแทนที่จะได้ประโยชน์ กลับต้องเน่าไป เหตุการณ์วานนี้ ตนอยากรู้ว่าซีดีแผ่นนั้นตัดต่อหรือไม่ หากมีการตัดต่อจริงตนจะฟ้องเจ้าหน้าที่ ตน ไม่ได้กล่าวโทษกกต. แต่มองว่าการสอบสวนครั้งแรกนั้นไม่เป็นธรรม เพราะตำรวจรุ่น34บางคน เป็นคนของใคร ทำไปเพื่ออะไรและคนบงการตอนนี้ก็ยิ้มฟันขาวอยู่เลย
นายยงยุทธกล่าวว่า ตอนนี้มีการออกข่าวว่ากกต.รับเงินจนสังคมเชื่อ หากใครตัดสินอย่างเป็นธรรม แต่กลับโดนแบบนี้ แล้วสังคมจะเป็นอย่างไร เพราะที่ใดไร้ความยุติธรรม คนก็ต้องสู้ หากมีการตัดสินเป็นธรรม คนก็เคารพ แต่หากใส่ร้ายไม่มีข้อเท็จจริง ไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมก็ต้องตรวจสอบ ไม่ใช่กระบวนการทำเอง สอบสวนเอง ตัดสินเอง มันก็ไม่เป็นธรรม หากเป็นแบบนี้คนและบ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ การสอบสวน ต้องสุจริต ตนไม่ได้พูดเพื่อเอาตัวรอด กำนันบางคนบอกว่า ไม่กลัวใคร ตายเป็นตาย พวกนั้นไม่เคยปรักปรำตน แต่เจ้าหน้าที่บางคนไปกดดัน ขอให้สื่อรับรู้
นายยงยุทธกล่าวว่า ตนไม่ได้มาปล่อยข่าว หากโลกนี้ไม่มีความยุติธรรมแล้ว วันนี้สังคมอาจดูว่าตนก้าวร้าว แต่ขนาดคนอย่างตนยังโดนแบบนี้ แล้วสังคมจะอยู่ได้อย่างไร รัฐธรรมนูญมาตรา 229 ที่คุ้มครองการสืบสวน เจ้าหน้าที่ต้องเป็นกลาง หากไม่เป็นเช่นนั้นถือว่าคดีโมฆะ ฉะนั้นตนอยากให้การสอบสวนไม่ใช่เพาเวอร์เพลย์ แต่ควรรักษาระบบและความเป็นธรรมในประเทศไว้ ฉะนั้นการสอบสวนที่มีอยู่นั้น สิ่งใดเป็นเรื่องจริง ตนจะนำมาเปิดเผย เพราะใครจะหลอกลวงประชาชนไม่ได้ ประชาชนตัดสินใจเลือกพรรคนี้ ไม่มีใครหลอกลวงได้และรู้ว่าความจริงคืออะไร ไม่มีใครเอาปืนไปจ่อหัวให้เลือกพรรคนั้นพรรคนี้ไม่ได้ บ้านเมืองนี้ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่บางคนทำหน้าที่เพื่อหวังโอกาสก้าวหน้าของตัวเอง หรือทำตามใบสั่ง หรือมีธงเพื่อเล่นงานตนและพรรค ตรงนี้จะต้องดูกันต่อไป
นายยงยุทธกล่าวว่า วันนี้ตนต้องรับผิดชอบพรรคด้วย ไม่ใช่แค่ตัวคนเดียว หากมีภาพที่ระบุว่าตนแจกเงิน จริงนั้น อย่าว่าแต่ใบแดงเลย มาฟันคอตนเลยดีกว่า เพราะคงไม่มีส.ส.หน้าโง่คนไหนปล่อยให้คนมารอ 8 ชั่วโมง เพื่อมารับเงิน วันนี้คนทั้งอำเภออึดอัดใจกับเหตุการณ์บ้านเมือง ตนอยากให้กกต.ส่งทีมไปสอบถามชาวบ้าน อย่าไปถามพยานที่เซตขึ้นมา ตนคิดว่ามันไม่เป็นธรรม ตนไม่ได้เรียกร้องรองโวยวายแต่เรื่องนี้มันผิดปกติ
เมื่อถามว่า ผู้ใหญ่ในพรรคสอบถามและเป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะกรรมการ บริหารพรรครู้ความจริง และไม่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ทุกคนกลับมองอนาคตว่าจะบริหารบ้านเมืองอย่างไร ตรงนี้มันสำคัญกว่า
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ นางยงยุทธกล่าวว่า อย่าถามแบบนี้ หากตอบไป ก็จะกล่าวหาว่าเป็นนอมินี ตอนนี้ตนโดนจับจ้องตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ เมื่อถามว่า กังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะมีการมองว่าหากนายยงยุทธผิดและโดนใบแดง พรรคอาจโดนยุบ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่กังวล แต่เหนื่อยกับการสอบสวนของสันติบาล กำนัน9คนที่มาในวันนั้นก็พร้อมยืนยันและเป็นพยานให้ตนว่า ไม่มีการกลับคำให้การ เพราะกำนันเหล่านี้ก็ไม่ได้เซ็นชื่อรับทราบการให้คำชี้แจงกับสันติบาล ตรงนี้ใครทำดี ประชาชนก็รู้ รัฐบาลชุดใดบริหารประเทศ หากสมัยหน้าประชาชนต้องการก็เลือกพรรคนั้น ตรงนี้ต้องยอมรับการตัดสินและเสียงของประชาชน หากส่วนใหญ่เลือกพรรคนั้นมาบริหารประเทศ ก็ควรเคารพ
'ถามหน่อยใครพูดกัน เรื่องยุบพรรคนี้ เดี๋ยวผมจะไปถามคนที่พูดเรื่องนี้ เพราะพูดออกไปแบบนี้เสมือนว่า ผมผิดจริงไปแล้ว ผมก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งของพรรค ที่เหลือก็เป็นผู้อาวุโสแล้ว ทุกคนในพรรครวมทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นกระบวนการที่ต้องการทำลายผมและพรรค เพื่อหวังผลทางการเมือง ถามคำเดียวใครก็โง่ไปทำแบบนั้น ตอนนี้ผมพยายามสงบปากสงบคำแล้วนะ ไม่อยากตอบโต้ พูดทีก็เป็นข่าว ก็ไม่อยากพูด เพราะต้องการให้สังคมสมานฉันท์'นายยงยุทธกล่าว
เมื่อถามว่า จะยอมรับผลการสอบสวนชุดใหม่หรือไม่ หากมีการตัดสินเหมือนกับชุดแรก นายยงยุทธกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูด เพราะ กกต.ยังไม่มีมีการพิจารณา เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนของสันติบาลนั้นไม่ถูกต้อง และขณะนี้ก็มีมติตั้งกรรมการชุดใหม่มาสอบสวน มันต้องเริ่มกระบวนการที่ถูกต้อง หากนำสำนวนของสันติบาล มาร่วมพิจารณาด้วย มันก็เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ และตอนนี้อย่านำคำตอบของตนไปชนกับกกต.ที่เป็นสถาบัน ตนเคารพการตัดสินของกกต.เชื่อว่าจากนี้จะเกิดความยุติธรรมในการตรวจสอบ
เมื่อถามว่า หากเห็นภาพของซีดีนั้นจากเอเอสทีวี มั่นใจว่าจะชี้แจงได้ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนอยากดูซีดีแผ่นนั้น ที่สันติบาลนำมาเป็นหลักฐาน ตนจะได้ไปชี้แจง เพราะตนเชื่อว่าไม่มีภาพของตนปรากฏอยู่ ฉะนั้นในวันที่13ม.ค.ตนจะไปที่สำนักงานกกต.เพื่อขอดูซีดีพร้อมช่างเทคนิคว่า ซีดีนั้นตัดต่อหรือไม่ หากมีการตัดต่อ ตนก็จะฟ้องร้องสันติบาล
เมื่อถามว่า กรณีนี้ถือว่าล่อแหลมกับความเป็นไปของพรรคหรือไม่ นางยงยุทธกล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าเป็นเหตุล่อแหลม มันเป็นเพียงกระบวนการหนึ่งที่จัดฉากเล่นงานตนเพื่อนำไปสู่การยุบพรรค ฉะนั้นหากการตรวจสอบไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา299 พรรคก็จะได้รับผลกระทบตามที่ฝ่ายนั้นต้องการ หากมีการตัดสินไม่เป็นกลาง เชื่อว่าหลายฝ่ายจะรับไม่ได้ เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าให้ฝ่ายสอบสวนชุดใหม่ ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากประชาชนจ.เชียงรายนั้น สมมติว่า หากผลการสอบสวนไม่ตรงตามที่ประชาชนต้องการ จะมีมวลชนมาก่อม็อบหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ทราบ
'ยอมรับว่าเรื่องนี้ส่งผลกับพรรคและการจับขั้วตั้งรัฐบาล เพราะฝ่ายนั้นไม่ต้องการให้พรรคพลังประชาชน ตั้งรัฐบาล ต้องการยุบพรรค จุดประสงค์มันชัด ก็เล็งมาที่ผม เพื่อโยงไปถึงพรรค เพื่อยุบพรรค เรื่องนี้เป็นกระบวนการ ทางการเมือง ตอนนี้ผมขอทำเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน เพราะผมยังมีเรื่องเด็ดที่จะนำมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้ด้วยว่าใคร บางคนกำลังทำอะไรและเล่นการเมืองแบบนี้เพื่ออะไร ผมรู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไรกับผม ยุทธ ตู้เย็น เป็นคนแบบนี้ อยู่มาได้จนถึงวันนี้เพราะพูดความจริง'นายยงยุทธกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ประชาสัมพันธ์ของพรรคแจ้งกับสื่อมวลชนว่า เวลา10.00 น.นายยงยุทธ จะแถลงข่าว แต่ก็เลื่อนมาแถลงข่าวในเวลา 13.15 น. โดยนายยงยุทธอ้างว่า ขอโทษที่เลื่อนเวลา เพราะตอนเช้าไปทำบุญกับครอบครัว
รายงานข่าวที่ใกล้ชิดนายยงยุทธเปิดเผยว่า ตอนนี้นายยงยุทธได้เตรียมพยานบุคคลมาซักค้าน การสอบสวน คดีนี้ใหม่แล้ว โดยนายยงยุทธมั่นใจว่า ข้อกล่าวหาที่พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผบ.สันติบาล กล่าวหานั้น นายยงยุทธจะแก้ข้อกล่าวหาได้แน่นอน เพราะเรื่องนี้นางยงยุทธแจ้งกับแกนนำพรรคว่าเป็นการจัดฉาก เพื่อทำลาย นายยงยุทธและพรรคพลังประชาชน ที่แม้จะชนะเลือกตั้งแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องการทำลายนายยงยุทธ และพรรคต่อไป แต่ข้อมูลอีกด้านหนึ่งในพรรคระบุว่า แกนนำพรรคและพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สบายใจและตำหนินายยงยุทธว่า ทำไมประมาทแบบนี้จนเรื่องราวใหญ่โต ที่อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้