WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, September 19, 2008

นปก.รุ่น 2 ชี้ภาคประชาชนข้มแข็งต่อสู้ระบอบเผด็จการ

นปก. รุ่น 2 เผย 2 ปี ภาคประชาชนรวมตัวเข้มแข็งต่อสู้ระบอบเผด็จการอำมาตยาธิปไตย ซัด รัฐธรรมนูญ ปี 2550 เป็นหนึ่งในมรดกของเผด็จการ ที่วางเอาไว้เป็นกับดัก ชี้เป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งต่อการทำงานของรัฐบาล

ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) รุ่น 2 เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงขึ้นเป็นอย่างมาก ในภาคประชาชน มีพัฒนาการที่ดีขึ้น มีการรวมตัวกันจนเข้มแข็งเพื่อที่จะออกมาต่อสู้กับระบอบเผด็จการและอำมาตยาธิปไตย ที่คอยจ้องจะบ่อนทำลายความเป็นประชาธิปไตยของประชาชน

ขณะเดียวกันด้านของเผด็จการเองก็มีความพยายามที่จะสร้างระบอบการเมืองใหม่อยู่เสมอ โดยไม่ยอมลดละ และยังพยายามใช่มุขเดิมดึงเอาทหารเข้ามาร่วมให้ทำการยึดอำนาจอีกครั้ง ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น การต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยและอำมาตยาธิปไตยมีปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้เรื่องมา ซึ่งเปลี่ยนจาการใช้กำลังและอาวุธ เข้าทำการยึดอำนาจ มาเป็นการใช้ตุลาการภิวัฒน์เข้าแทรกแซงอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ จนทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพทางการเมืองไม่สามารถที่จะเดินหน้าหรือถอยหลังได้เลย

ฉะนั้น หากเราไม่สามารถแก้ไขวิกฤติ และเอาอำนาจอำมาตยาธิปไตยออกไปจากประเทศไทยได้ บ้านเมืองคงจะไม่สามารถที่จะเจริญและพัฒนาไปตามระบอบของประชาธิปไตยได้อย่างแน่นอน ดร.เมธาพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2550 เองก็เช่นกันที่เป็นหนึ่งในมรดกของเผด็จการ ที่วางเอาไว้เป็นกับดัก ซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของรัฐบาล

ดังนั้นประชาชนควรที่จะลุกออกมาเพื่อแสดงจุดยื่นให้มีการแก้ไข รัฐธรรมนูญ 50 อย่างจริงจังโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้น ฝ่ายประชาธิปไตยก็จะต้องพ่ายแพ้ในที่สุด ซึ่งตนขอยืนยันว่า แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาและเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือ แก้ไข รธน.50 และทำให้ตุลาการกลับเข้าไปอยู่ในที่ตั้งของตนเอง ไม่ให้เข้ามาก้าวก่ายอำนาจด้านอื่น เพื่อมีสมดุลของอำนาจทั้ง 3 ฝ่าย

“ผมอยากจะฝากให้ทุกคนได้สำนึกถึงเจตนารมณ์ของล้นเกล้า รัชกาลที่ 7 ซึ่งพระองค์ไม่ได้ต้องการให้มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยู่คู่กับประเทศไทย และต้องการให้ประชาชนทุกคนมีถือครองอำนาจปกครองอย่างเท่าเทียมกัน” ดร.เมธาพันธ์ กล่าว