ศาลฎีกานักการเมือง จำหน่ายคดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ให้พม่าชั่วคราว ออกหมายจับ"ทักษิณ"มาฟังคำพิพากษา ขณะที่ อัยการฝ่ายคดีพิเศษ4 สั่งเลื่อนนัดคดีทุจริต"เอสซี แอสเสท" 29ต.ค.
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เวลา 10.00 น. นายปัญญา สุทธิบดี รองประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คนออกนั่งบัลลังก์นัดพิจารณาคดีครั้งแรก หมายเลขดำที่ อม.3/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลย
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์สินเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการ เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา 152 ,157 กรณีที่มีการอนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ให้กับรัฐบาลพม่า จำนวน 4 พันล้านบาทในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่าซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลพม่า ติดต่อซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมกับบริษัทครอบครัวของชินวัตร
โดยวันนี้ มีทนายโจทก์ และทนายจำเลย เดินทางมาศาล แต่ตัวจำเลยไม่มา ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พฤติการณ์จึงน่าเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี และเมื่อยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อออกหมายจับแล้ว จะติดตามตัวจำเลยมาได้เมื่อใด จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว จนกว่าจะติดตามตัวจำเลยมาพิจารณาคดีได้ โดยออกคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยเพื่อติดตามตัวมาพิจารณาคดีต่อไป ส่วนที่จำเลยมอบหมายให้นายคทาพล สิงหทัต ผู้รับมอบอำนาจ ยื่นคำร้องแมื่อ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อศาล เพื่อขออนุญาตถอนทนายนั้น
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องอ้างว่าข้อกฎหมายที่ใช้บังคับคดีนี้ขัดหรือแย้งต่อ รธน.นั้นโดยยื่นคำร้องเมื่อ 31 ก.ค.51 ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรให้พิจารณาประเด็นดังกล่าวไว้ในคำพิพากษา โดยเมื่อได้ตัวจำเลยมาแล้วจึงจะนำคดีขึ้นมาพิจารณา
ขณะที่วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาฯ อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีคำสั่งเลื่อนนัดสั่งคดีทุจริตปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บ.เอส ซี แอสเสท จำกัด มหาชน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา กับพวกรวม 4 คนตกเป็นผู้ต้องหาออกไปเป็นวันที่ 29 ต.ค.นี้เวลา 10.00 น. เนื่องจากอัยการต้องใช้เวลาพิจารณาพยานหลักฐานเอกสารที่ได้มาจากต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งหากวันนัดสั่งคดี 29 ต.ค.นี้ ผู้ต้องหาไม่เดินทางมาฟังคำสั่งจะพิจารณาสั่งปรับนายประกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการคนละ 1 ล้านบาท