WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, September 18, 2008

ซัดผลงานอัปยศ2ปีรัฐประหาร


*นปช.นัดประกาศจุดยืนปชต.ที่สนามหลวงวันนี้
รุมชำแหละ 2 ปีรัฐประหาร ผลงานอัปยศอำนาจเผด็จการ ทำบ้านเมืองถอยหลังหลายก้าว สังคมเกิดความแตกแยกรุนแรงจนส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ระบุแม้ คมช. จะหมดสภาพไปแล้ว แต่ทายาทอสูรยังอยู่ โดยเฉพาะบรรดาองค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช. กกต. คตส. หรือแม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ขับเคลื่อนทำลายประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง แนะประชาชนต้องร่วมกันแสดงพลังรักษา ปชต. ต่อต้านดอกผลของการรัฐประหาร ด้าน นปช.จัดงาน “2 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 กำจัดพันธมิตรฯ ยุติการเมืองใหม่ 70:30” ย้ำจุดยืน ที่ท้องสนามหลวง 6 โมงเย็นวันนี้

+ จี้นายกฯใหม่รักษาประชาธิปไตย-แก้ไขรธน.
ในโอกาสครบรอบ 2 ปีแห่งความหายนะ จากการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 นั้น เมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เปิดแถลงข่าวการจัดงานชุมนุมครั้งใหญ่ ณ ท้องสนามหลวง ที่ห้องสีดา 3 โรงแรมรัตนโกสินทร์ โดยมี ผศ.จรัล ดิษฐาอภิชัย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่ม นปช. ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และร่วมประกาศจุดยืนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

2 ปีผ่านไปทายาทเผด็จการยังอยู่
ผศ.จรัล กล่าวถึงที่มาของการจัดงานว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติเกิดความถอยหลัง สังคมแตกแยกจนทำให้เกิดความขัดแย้ง แม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะสิ้นบทบาทไปแล้วหลังจากที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ผลพวงหรือผลผลิตของ คมช. ก็ยังคงอยู่ โดยออกมาในรูปแบบขององค์กรอิสระ คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยังคงมีการขับเคลื่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การชุมนุมครั้งสำคัญของกลุ่ม นปช. นั้น เพื่อให้ประชาชนได้วิเคราะห์ปัญหา วิจารณ์ และทำการพิจารณาร่วมกัน โดยนอกจากประชาชนต้องร่วมกันรักษาความเป็นประชาธิปไตยแล้ว ยังต้องช่วยกันขจัดดอกผลของการรัฐประหาร 19 กันยายนด้วย

นปช.ย้ำชัดจุดยืนประชาธิปไตย
ดังนั้นจุดยืนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของกลุ่ม นปช. คือ 1.นปช. จะไม่ยอมรับการแก้ปัญหาทางการเมืองโดยวิธีการรัฐประหารโดยเด็ดขาด และ 2.การแก้ปัญหาทางการเมืองต้องใช้วิถีทางในระบบรัฐสภาและครรลองของระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น

“ดอกผลของ คมช. เรียกว่าเป็นมารดา คมช. เลยก็ว่าได้ เพราะมีการโอบอุ้ม คมช. และองค์กรที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร ทำให้ระบบทั้งหมดอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันตำรวจ สถาบันประชาธิปไตย ลามมาจนถึงการยึดทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่มีการยึดทำเนียบรัฐบาลได้อย่างยาวนาน” ผศ.จรัล กล่าว

ประชาธิปไตยถูกทำลายย่อยยับ
ขณะที่ นายวิภูแถลง กล่าวถึงผลพวงความเสียหายจากการทำรัฐประหาร เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาว่า การโค่นล้มประชาธิปไตยของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้สร้างหายนะให้กับประเทศอย่างมากมายหลายประการ คือ ทำลายเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ความน่าเชื่อถือของชาติและประชาชนในการเมืองระหว่างประเทศ สร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่เลวร้าย ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยและกระแสของโลก

รวมทั้งทำลายหลักการประชาธิปไตย เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรง และกว้างขวางของคนในชาติ เกิดผลร้ายต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะนักลงทุนทั้งในและต่างชาติขาดความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นการทำลายบรรยากาศการลงทุนของประเทศอย่างยับเยิน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อถือศรัทธาที่มีต่อสถาบันหลักของประเทศ

ซัดม็อบลากบ้านเมืองสู่เผด็จการ
ด้านนายสมยศยังกล่าวประณามกลุ่มพันธมิตรฯ ในการยึดทำเนียบรัฐบาล และแนวคิดการเมืองใหม่ หรือ รัฐบาลประชาภิวัตน์ โดยระบุว่า การบุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลอย่างยิ่ง ถือเป็นรัฐประหารเงียบ แต่ยังไม่เกิดความสัมฤทธิ์ผลเสียทีเดียว จึงต้องมีความยืดเยื้อในการชุมนุมอย่างไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุด ส่วนแนวคิดการเมืองใหม่นั้น เป็นแนวคิดที่จะทำลายระบอบความเป็นประชาธิปไตย และจะเป็นการเมืองที่นำมาสู่ระบอบเผด็จการในที่สุด ซึ่งการชุมนุมใหญ่ในครั้งสำคัญนี้จะเป็นไปในโดยสันติวิธี พร้อมรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเสพหรือรับข่าวสารจากกลุ่มกบฏอย่างสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี หรือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

ทั้งนี้ นายสมยศ ยังได้แสดงความยินดีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ต่อจาก นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นการได้มาตามระบบรัฐสภา พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายสมชายเร่งดำเนินการทวงทำเนียบรัฐบาลคืนกลับมาโดยเร็ว พร้อมให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 อย่างเร็วที่สุด โดยให้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ทำการรวบรวมรายชื่อประชาชนกว่า 7 หมื่นรายชื่อ หยิบยกขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ยืนยันชุมนุมสงบ-วันเดียวเลิก
เมื่อสอบถามถึงการป้องกัน และรักษาความสงบในการชุมนุมครั้งใหญ่ในวันศุกร์นี้ นายสมยศ หนึ่งในแกนนำ นปช. กล่าวว่า ทางกลุ่ม นปช. ขอยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมไปที่ไหน อย่างที่ตกเป็นกระแส และไม่มีการปักหลักยืดเยื้อ ซึ่งจะทำการชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงเพียงวันเดียวเท่านั้น

พร้อมกันนี้ทาง นปช.จะมีกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นคน หนุ่ม-สาว และอดีตข้าราชการตำรวจ และทหารผ่านศึกที่พร้อมจะช่วยกันรักษาความปลอดภัย โดยขณะนี้มีจำนวนกว่า 100 คน ที่พร้อมจะพลีชีพ และจะมีการฝึกเตรียมความพร้อมในรูปแบบการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้เต็มรูปแบบภายใน 1 เดือน โดยมี นายสุรชัย แซ่ด่าน เป็นหัวหน้าในการจัดตั้งกองกำลังอาสาชุดดังกล่าว

จัดกำลังอาสาสมัครดูแลความสงบ
อย่างไรก็ตาม หากมีการปะทะของกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มผู้ชุมนุมของ นปช. หรืออาจจะเป็นการสร้างความปั่นป่วนจากกลุ่มมือที่สาม ก็ขึ้นอยู่กับการวางกำลังรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนก็ขอฝากผ่านสื่อมวลชนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังอย่างเข้มแข็งเพื่อการชุมนุมที่สงบ

เมื่อถามว่าการจัดกองกำลังอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยเป็นการส่งสัญญาณบีบให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายสมยศ กล่าวว่า ในอนาคตอาจเป็นไปได้ว่ากลุ่ม นปช. จะเคลื่อนพลไปกดดันกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ขอยืนยันว่า การจัดตั้งกลุ่มอาสาไม่ได้เป็นการบีบบังคับให้ออกจากทำเนียบรัฐบาลเร็วหรือช้า แม้ในความเป็นจริงแล้วกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ในทำเนียบอีกต่อไป เพราะการยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และการเตรียมกลุ่มอาสาชุดดังกล่าวขึ้นมานั้น เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น

เชิญร่วมเวทีปชต.6โมงเย็นวันนี้
ทั้งนี้ การชุมนุมจะจัดขึ้นในเวลา 18.00 -23.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ภายใต้คำขวัญของงานว่า “2 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 กำจัดพันธมิตรฯ ยุติการเมืองใหม่ 70:30” โดยมีกิจกรรมต่างๆ ต่อไปนี้

1.แถลงการณ์ประกาศจุดยืน และท่าทีทางการเมืองต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน

2.การปราศรัยให้ความรู้ทางการเมืองโดยนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.00 น.

3.มีการเสวนาทางการเมืองในหัวข้อเรื่อง การเมืองใหม่ กับอนาคตประชาธิปไตย และ 2 ปี หายนะประเทศไทย จาก คมช. ถึงพันธมิตรฯ 4.มีการแสดงดนตรีจากนักแสดงที่เรียกร้องประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการมาร่วมงาน

จี้นายกฯใหม่ทำชาติให้เป็นปชต.
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์เพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในบ้านเมืองขณะนี้แสดงให้เห็นว่า อำนาจของระบอบเผด็จการอำมาตยาธิปไตยยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ยังไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย

ซึ่งในความคิดเห็นของตนนั้น ความหวังเดียวของประชาชนที่ต้องการเห็นอนาคตของประชาธิปไตยที่สดใสนั่นคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งจะต้องสร้างปรากฏการณ์ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ และแก้ไขปัญหาความวุ่นวายที่เกิดจากน้ำมือของพวกเผด็จการจ้องจะทำลายความเป็นประชาธิปไตย อีกทั้งยังต้องสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยอีกครั้ง

โดยหลังจากเหตุการณ์การสูญเสียประชาธิปไตยไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ได้ผ่านพ้นไปจนมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ต่างชาติและประชาชนคนไทยต่างก็มีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยกำลังจะกลับมาเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็งอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ค่อย ๆ เกิดการพัฒนาขึ้นในทุกภาคส่วน

แต่เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเริ่มจะย้อนกลับไปวุ่นวายอีกครั้งโดยพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันอย่างไร้เหตุผลเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ทำให้การท่องเที่ยว การลงทุน ความเชื่อมั่นต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นหดหายไปอย่างเดิม