กรุงเทพฯ/นนทบุรี 14 ก.ย.- 3 ส.แกนนำพรรคพลังประชาชน เดินสายพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้งประชาราช รวมใจไทยชาติพัฒนา ต่างให้คำมั่นจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป ส่วนผู้ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีให้พรรคพลังประชาชนเป็นผู้เสนอ ขณะที่ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ยืนยันหากต้องมาเป็นนายกฯ จะทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อความสงบของประเทศ ส่วนอีก 2 ส.ย้ำโอกาสเป็นนายกฯ ยังเปิดกว้างสำหรับทุกคน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(14 ก.ย.) เวลา 13.10 น.แกนนำพรรคพลังประชาชน ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้า และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ได้เดินทางไปที่บ้านพักเมืองทองธานีของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพื่อเข้าพบนายเสนาะ และนางอุไรวรรณ เทียนทอง ภริยา โดยหารือกันนานกว่า 30 นาที นายสมชาย เปิดเผยว่าได้มาพบนายเสนาะ เพื่อเชิญให้เข้าร่วมงานการเมืองเป็นรัฐบาลกันต่อไป ซึ่งต้องขอบคุณที่นายเสนาะให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และวันนี้เป็นเพียงการหารือในหลักการ โดยนายเสนาะได้ให้พรรคพลังประชาชนเป็นผู้พิจารณาเสนอชื่อคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีการกำหนดสเปคว่าจะต้องเป็นอย่างไร ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชาชนจะประชุมกัน และจะแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบในวันที่ 16 กันยายนนี้ ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เคยบอกว่า นายสมชาย เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะเป็นคนกลาง ไม่เคยทำอะไรที่ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ แต่วันนี้ยังไม่มีการพูดกันในเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการพบปะกับนายเสนาะ แล้ว 3 แกนนำพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางต่อไปยังที่ทำการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ในเวลา 15.00 น.เพื่อเข้าพบ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรค และ ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ แกนนำพรรค โดยใช้เวลาหารือประมาณ 15 นาที ซึ่งนายสมชาย ย้ำว่าเป็นการมาเชิญให้มาร่วมทำงานเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งการทำงานร่วมกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดีมีหลายนโยบายที่ร่วมกับพรรคพลังประชาชนแล้วสามารถขับเคลื่อนไปได้ ซึ่ง พล.อ.เชษฐา ได้ตอบรับ นายสมชาย กล่าวถึงกรณีที่เป็น 1 ในตัวเก็งที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีว่า พรรคยังไม่ได้ข้อสรุป ซี่งในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และเวลา 14.00 น.จะประชุม ส.ส. ทั้งนี้พรรคยึดระบอบประชาธิปไตยเป็นหลัก โดยให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ใช้ดุลยพินิจพิจารณาโดยยึดเสียงข้างมาก “หากต้องเข้ามารับตำแหน่งจะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ เพราะหากปล่อยให้บ้านเมืองวุ่นวายตลอดไปคงลำบาก และเมื่อเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็ต้องพยายามประสาน” นายสมชาย กล่าว ส่วนกรณีที่นายเสนาะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นายสมชาย เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าต้องขอบคุณที่ให้เครดิต และในกรณีที่มองกันว่าพรรคพลังประชาชนได้แตกเป็น 2 ขั้วนั้น ยืนยันว่าไม่มีขั้วอะไรทั้งสิ้น พรรคจะลงมติเลือกใครต้องยึดมติ ส.ส. ทั้งนี้เราสามัคคีและพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป ด้าน พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการยืนยันครั้งที่ 3 ที่จะร่วมทำงานกับพรรคพลังประชาชนนับตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.2551 โดยยืนยันด้วยคำพูดเดิมว่า ด้วยเหตุผลและความชอบธรรมที่พรรคพลังประชาชนมีคะแนนอันดับ 1 ทางพรรคขอร่วมทำงาน แม้จะมีเสียงไม่มาก แต่อยากนำนโยบายไปสู่การบริหารประเทศชาติ ซึ่งเรื่องการกำหนดตัวนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชน หากเสนอใครมาพรรคก็รับได้ และเชื่อว่าในพรรคพลังประชาชนมี ส.ส.ตั้ง 200 กว่าคน แต่ละคนมีศักยภาพหากเสนอมาก็พร้อมสนับสนุน ด้านนายสมพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่เป็น 1 ในตัวเก็งที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ถือว่าได้รับเกียรติ ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การสรรหาผู้ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับคนในพรรคที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คน 3 คนเท่านั้น โดยโอกาสยังเปิดกว้างสำหรับทุกคน แต่สุดท้ายผู้ที่จะตัดสินใจคือ ส.ส.ในพรรค. - สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-09-14 18:25:02