‘พันธมิตร’ค้านยึดทำเนียบชุมนุมต่อ
“สมชาย" ผงาดนายกฯ ตามคาด ชนะขาด "อภิสิทธิ์" 298 ต่อ 163 ภาคเอกชนขานรับทันควัน ตลาดหลักทรัพย์คึกคัก เชื่อนายกฯ คนใหม่จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ส่วนสมาคมท่องเที่ยวเชื่อจะช่วยพลิกสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เลวร้ายให้ฟื้นตัวได้ “อภิสิทธิ์” แนะให้ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม ให้เรื่องของคนใกล้ตัวเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย และต้องมีแนวทางชัดเจนในการพาบ้านเมืองให้พ้นวิกฤติ ระบุหากรัฐบาลทำในสิ่งถูกต้องก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ รับไม่ได้ เชื่อยิ่งกว่า “นอมินี” ประกาศปักหลักชุมนุมไล่รัฐบาลต่อไป
* ขอเวลาอีก 2 วันครม. “สมชาย 1” คลอดแน่
หลังจากเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทน นายสมัคร สุนทรเวช โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้สนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นลำดับที่ 1 และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ เป็นลำดับที่ 2 เมื่อดำเนินการโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ปรากฏว่านายสมชายได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามความคาดหมาย
ทั้งนี้ มีผู้ลงคะแนนเสียงเห็นชอบจำนวน 298 คะแนน ซึ่งถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าประชุม ส่วน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ 163 คะแนน และมีผู้งดออกเสียง 5 คน
ปธ.วุฒิฯ มั่นใจนายกฯ ใหม่
เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่า นายสมชาย ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะสามารถตั้ง ครม. ชุดใหม่ให้เป็นที่น่าเชื่อถือได้เพราะนายสมชายเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ และประสบความสำเร็จเป็นผู้พิพากษาและเป็นถึงอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นคนมีบุคลิก ประนีประนอม
ดังนั้นตนขอฝากให้นายกฯ คนใหม่ คลี่คลายปัญหาวิกฤติของชาติ เรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจซึ่งมั่นใจว่านายสมชายจะสามารถสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมืองได้นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้พันธมิตรฯ รับฟังเหตุผลต้องดูรัฐบาลใหม่ อย่างเพิ่งไปคิดว่าเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณเพราะอดีตผู้พิพากษา ไม่ได้เป็นตัวแทนของใครยึดผลประโยชน์ของชาติจึงอยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ตลาดหุ้นเชื่อสถานการณ์ดีขึ้น
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่านายสมชายมีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำในการบริหารราชการแผ่นดิน สถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนรัฐมนตรีที่มาร่วมรัฐบาล หน้าตาก็คงจะเหมือนเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้ นโยบายด้านเศรษฐกิจการเงิน-การคลัง ก็คงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติก็คงเห็นว่าเหตุการณ์สงบและการบริหารราชการแผ่นดินก็คงดำเนินการต่อไปได้
เมื่อถามว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงมามากนับแต่มีการชุมนุม นายปกรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีปรับตัวลงมาประมาณ 20% กว่า เป็นการปรับตัวตามภูมิภาคอื่นๆ และทั่วโลก ช่วงที่พันธมิตรฯไปชุมนุมในทำเนียบฯ ราคาหุ้นของไทยลดลงไปประมาณ 2% กว่า ขณะที่ราคาหุ้นในภูมิภาค ปรับตัวลดลงมากกว่าของไทยซึ่งคาดว่าหลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้วสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
นโยบายแบงค์ชาติต่อเนื่อง
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า นโยบายทางการเงินการคลังเป็นหน้าที่แบงก์ชาติต้องดูแลอยู่แล้ว ขณะนี้ที่มีข้อกังวลก็คือสหรัฐฯมีปัญหาเรื่องสถาบันการเงินก็ติดตามดูแลใกล้ชิด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับไทยก็มีน้อยมาก เพราะธนาคารพาณิชย์ไทยไปลงทุนในเลห์แมน ประมาณ 6 พันกว่าล้าน เมื่อเทียบกับพอร์ตที่ไปลงทุนนับแสนล้าน
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ กล่าวต่อว่า นโยบายไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน แบงก์ชาติจะดูแลเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป ในเรื่องของดอกเบี้ย ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน ก็ขึ้นกับตลาดโลก ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ดอลลาร์ก็อ่อนลง บาทก็ไปด้วยกัน เกาะกลุ่มกันไป ไม่ได้มีข้อน่ากังวลใดๆ ตัวเลขการส่งออกก็ค่อนข้างดีทีเดียว
“เรามีการประสานงานกับกระทรวงการคลังตลอด มีการรายงานให้ รมว.คลัง ด้วยวาจาตลอด ไม่ได้มีปัญหาใดๆ” นางธาริษากล่าว
สมาคมท่องเที่ยวมั่นใจดีขึ้น
นายทรงศักดิ์ ศรีเคลือบ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย หรือ สธทท. กล่าวว่า หลังจากที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้นสามารถเดินหน้าเข้าสู่สภาวะปกติได้ ซึ่งสมาชิกในกลุ่มก็พอใจในตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเชื่อว่าจะสามารถบริหารงานได้ดี
นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย กล่าวอีกว่า ในส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้ น่าจะเป็นคนเดิม เพื่อได้ง่าย รวดเร็วในการเดินหน้าขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ที่กำลังซบเซาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
“สมชาย” ผงาดนายกฯ ตามคาด
ขณะที่ บรรยากาศการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. โดย นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ประกาศให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียบบัตรแสดงตน โดยมีผู้เสียบบัตรแสดงตนจำนวน 370 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุม สามารถดำเนินการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผย โดยในเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขานชื่อ ส.ส. เป็นรายบุคคล โดยให้ระบุว่าเห็นชอบให้บุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ระหว่างรอผลการนับคะแนนนั้น นายสมชายได้ลุกจากเก้าอี้เพื่อไปทักทายพุดคุยกับ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราษฎร พร้อมกับมี ส.ส. พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา และกลุ่ม ส.ส. เพื่อนเนวิน ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาร่วมแสดงความยินดีล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีการประกาศผลโหวตเสร็จสิ้น นายสมชาย กล่าวว่า ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี ตนขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่ได้มาลงคะแนน และได้ให้ความไว้วางใจแก่ตน โดยยืนยันว่าจะขอปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างดีที่สุด
“เป๋ คลองเตย” นำทีมให้กำลังใจ
ส่วนบรรยากาศนอกรัฐสภา ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นายณรงค์ชัย มณี หรือเป๋ คลองเตย นำผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชนจำนวนกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากหลายพื้นที่ในเขต กทม. โดยเฉพาะเขคคลองเตย และจากจังหวัดใกล้เคียง อาทิ นครปฐม ราชบุรี ฯลฯ เดินทางมาให้กำลังใจนายสมชาย ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดเวลา โดยนำป้ายผ้าที่มีข้อความให้กำลังใจมาขึงที่รั้วหน้ารัฐสภายาวตลอดถนนอู่ทองใน
ต่อมาเมื่อทราบผลการลงมติว่าสภาเลือกนายสมชายเป็นนายกฯด้วยคะแนน 298 เสียง ผู้ชุมนุมต่างโห่ร้องแสดงความยินดี พร้อมปรบมืออย่างพึงพอใจและตะโกนว่า “นายกฯ สมชาย สู้ๆ”
จากนั้นนายสมชายได้เดินตากฝนลงมารับดอกไม้จากมือของผู้ชุมนุมทำให้เกิดการชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เมื่อผู้ชุมนุมต่างพยายามกรูเข้าให้ถึงตัวนายสมชาย ต่อมานายสมชายได้เข้าถือไมค์พร้อมกล่าวขอบคุณผู้ชุมนุมที่เดินทางให้กำลังใจ
มาร์คแนะบริหารให้พ้นวิกฤติ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการการประชุมสภาว่า นายสมชายกับตนได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งตนก็ได้แสดงความยินดี ส่วนนายสมชายระบุว่า ยังต้องร่วมงานกันในฐานะเป็น ส.ส. ในสภากันต่อไป หากจะคลี่คลายวิกฤติได้ ก็ต้องช่วยกัน
ทั้งนี้ ตนต้องให้เวลานายสมชายได้สรรหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ แต่ต้องชัดเจนว่าจะใช้แนวทางไหนในการบริหารบ้านเมืองให้พ้นจากวิกฤติ ซึ่งเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่สุด และอยากให้นายสมชายมีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงานโจทย์สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองพ้นความขัดแย้งให้ได้ และการจะทำได้ต้องมีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงที่นายสมชายต้องตอบให้ชัดว่าสัญญาณนั้นคืออะไร และหากเป็นไปในทางที่ดีเชื่อว่าสังคมคงต้องช่วยกันหาทางออก ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหากทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราร่วมมือแน่นอน
ส่วนหน้าตาของครม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อความขัดแย้งในสังคมว่าจะมีทางออกอย่างไร เพราะถ้าตรงนี้ยังแก้ไม่ได้ก็ยังมีความน่ากังวลว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยก็จะเหมือนอยู่กับที่ต่อไปอีก และสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ไปคิดว่าอยู่ที่รัฐบาลใหม่ว่าจะสามารถประกาศความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไม่เหมือนรัฐบาลที่พึ่งพ้นไปว่ามีอะไรบ้าง เราก็มีความหวังแต่หากคิดในกรอบเดิมว่าสิ่งที่ทำมาจะทำต่อไปสภาพบ้านเมืองก็คงไม่เปลี่ยนแปลง
พธม.ยึดทำเนียบชุมนุมต่อ
ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ย้ายกลับไปแถลงข่าวในห้องผู้สื่อข่าวอีกครั้งหลังโดนบอยคอตโดยระบุว่าไม่ต้องการนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชาชน แม้ว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะโหวตเลือก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยจะปักหลักในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป และจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นอาวุธและเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกแอบแฝงเข้ามา เนื่องจากทราบว่าจะมีตำรวจนอกเครื่องแบบสวมเสื้อเหลืองมาปะปนกับผู้ชุมนุม ทำให้เกรงว่าจะมีการพยายามที่จะสลายการชุมนุม
แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันด้วยว่า ถ้านายกรัฐมนตรีคนใหม่ขอใช้อำนาจศาลเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกไปจากทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง ต้องมีการประเมินสถานการณ์กันก่อน แต่ว่าขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแพ่งเพื่อได้อยู่ในทำเนียบต่อไป
นอกจากนี้ พันธมิตรฯ ยังแสดงท่าทีต่อต้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เคยออกมาพูดว่ารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพผู้ชุมนุมที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ ควรจะไปห่วงเรื่องของการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากกว่า
รอ2วัน เผยโฉม ครม. “สมชาย1”
สำหรับความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าได้เรียกประชุม ส.ส. เป็นการด่วน เพื่อพูดคุยถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะรีบจัดสรร ครม.ของรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด ส่วนที่พรรคชาติไทย ระบุว่า จะส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ ได้ภายใน 3 วัน พรรคพลังประชาชน อาจจะใช้เวลาแค่ 2 วันก็ได้
ด้าน นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า โควตารัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาราชจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คือ เป็น นางอุไรวรรณ เทียนทอง รักษาการ รมว.แรงงานฯ เหมือนเดิม ส่วนการแถลงผลงานของรัฐบาลนั้นคาดว่าไม่น่าจะเกินเดือนกันยายนนี้
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนแจ้งว่า แกนนำพรรคหารือเบื้องต้นแล้วว่าการปรับ ครม.สมชาย 1 นั้น น่าจะมีการปรับ ครม. 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลงคือ รองนายกฯ รมว.ต่างประเทศ รมว.กลาโหม และ รมว.ศึกษาธิการ
ส่วนตำแหน่งอื่นๆของโควตากลุ่มต่างๆนั้น กำลังพิจารณาความเหมาะสม และอาจจะยกเครื่อง ครม.เศรษฐกิจของพรรคขึ้นใหม่ด้วย เพราะต้องกู้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลใหม่ขึ้นมาให้เร็วที่สุด โดยมีกระแสข่าวว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกฯและรมว.คลัง อาจจะต้องเปลี่ยนหน้าที่ เพราะต้องนำคนนอกเข้ามานำทีมเศรษฐกิจ
สำหรับบรรยากาศที่บ้านพักย่านแจ้งวัฒนะ ของนายสมชาย ว่าที่นายกรัฐมนตรี เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการจัดเตรียมโต๊ะเลี้ยงอาหารแสดงความยินดี จำนวน 30 โต๊ะ และเตรียมสถานที่รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมไว้แล้ว