คอลัมน์ : ละครชีวิต
ผมนั่งดูหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์มติชนที่ลงรูปความเสียหายของ “ขาโต๊ะไม้สัก” ที่อยู่ในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลแล้วอยากจะร้องไห้
สลดหดหู่กับทรัพย์สินของประเทศชาติที่โดนทำลายโดยแก๊งอันธพาลแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
จากข่าวที่นักข่าวคนนี้รายงานระบุว่า พบขาโต๊ะไม้สักหรูหรา โดยส่วนหัวมีลวดลายแกะสลักเป็นรูปดอกไม้ทาด้วยสีทองทั้งสองข้าง ส่วนกลางของขาโต๊ะมีลักษณะเป็นเกลียวได้สัดส่วนสวยงาม ลักษณะคล้ายกับชิ้นส่วนภายในตึกสันติไมตรี มีความยาวกว่า 1 ฟุต ถูกนำมาวางไว้บนผ้าใบคลุมลำโพงขยายเสียงเพื่อกันฝน ด้านหลังของตึกสันติไมตรี
จากการสังเกตของนักข่าวได้มองผ่านกระจกเข้าไปพบว่าภายในตึกสันติไมตรีมีโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ตัวหนึ่งมีลักษณะชำรุดเสียหายบริเวณขาโต๊ะหายไปข้างหนึ่ง คาดว่าชิ้นส่วนจะเป็นขาโต๊ะตัวดังกล่าว
นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังของตึกสันติไมตรียังมีการ์ดพันธมิตรฯ กลุ่มหนึ่งจากภาคใต้ มาปักหลักตั้งเต็นท์เฝ้าอยู่บริเวณดังกล่าว พร้อมคอยสอดส่องไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเข้าไปใกล้บริเวณดังกล่าว
และที่น่าตกใจยิ่งขึ้นเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งได้นำ “เครื่องปั่นไฟ” มาติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณด้านหลังเวทีปราศรัย เนื่องจากได้มีการนำเครื่องซักผ้าชนิดปั่นอบแห้งขนาดใหญ่มาติดตั้งที่ทำเนียบรัฐบาลจำนวนมาก เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ใช้ซักผ้ากันอย่างทั่วถึง
ช่วงนี้นักข่าวหลายสำนักเริ่ม “ตาสว่าง” กันมากขึ้นแล้ว เพราะจากเดิมที่อาจจะมองเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพวกนี้รวมตัวกันมา “กู้ชาติ”
แต่นานวันสันดานเดิมก็เริ่มออก ทั้งมั่วยาเสพติด ทำลายข้าวของ ปัสสาวะ อุจจาระกันเรี่ยราด ราวกับว่าที่มาปักหลักชุมนุมกันนั้นไม่ใช่ “ทำเนียบรัฐบาล” แต่เป็นที่พักของคนงานก่อสร้าง หรือไม่ก็ชุมชนแออัด
พฤติกรรมที่ทุเรศ ต่างๆ เหล่านี้บ่งบอกถึงการเป็นพวกอันธพาลที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย อาศัยคำว่า “กู้ชาติ” มาฉกฉวยโอกาสเพื่อตัวเอง
พวกอันธพาลเหล่านี้ กินอยู่ในทำเนียบรัฐบาล มีน้ำมีข้าวกินอย่างอุดมสมบูรณ์ เพราะมีคนทรยศต่อชาติบ้านเมืองโยนเศษเงินบริจาคกันทุกวัน
ล่าสุดก็มีการระดมทุนแบบไร้ยางอาย ไม่รู้ว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะรู้สึกอับอายขายขี้หน้าคนที่รู้เบื้องหลังของนายสนธิบ้างหรือไม่
ผมเห็นนายสนธิขึ้นเวทีพร้อมกับทำท่าทางเขินอาย และโยนไปที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ว่า พล.ต.จำลองได้เสนอเป็นตัวตั้งตัวตีในการขอรับบริจาคเงินจากพี่น้องพันธมิตรฯ เพื่อช่วยเหลือพนักงานเอเอสทีวีในเดือนนี้
นายสนธิบอกว่ารู้สึกเขินที่ต้องทำเรื่องแบบนั้น พร้อมทั้งเปิดเผยรายจ่ายประจำวันในการถ่ายทอดสด รวมทั้งค่าใช้จ่ายทุกอย่างตลอด 24 ชั่วโมง เฉลี่ยแล้ววันละ 1 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อชุมนุมมา 116 วัน ก็รวมแล้วประมาณ 116 ล้านบาท
สรุปแล้วคือนายสนธิต้องการเงินบริจาคนำมาต่อลมหายใจ เพื่อทำลายประเทศชาติบ้านเมืองอีกต่อไป
ซึ่งผมก็คิดว่าจะต้องมี “คนใจบาป” โยนเศษเงินให้พวกนี้อีกต่อไป ตราบใดที่ยังทำลายประเทศชาติยังไม่พอ
กระทั่งวันนี้ประเทศไทยกำลังจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ยังไม่มีสถานที่ทำงาน เพราะทำเนียบรัฐบาลถูกกระทำย่ำยี สร้างความอับอายไปทั่วโลก
ท่านผู้อ่านลองมองดู “ตึกไทยคู่ฟ้า” ในอดีตก่อนที่พวกอันธพาลจะบุกยึด ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นหน้าตาของประเทศ
เห็นแล้วนำมาเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้วอยากจะร้องไห้กันบ้างไหม
ถ้าสงสารประเทศ ผมขอเรียกร้องให้ “พลังเงียบ” ทั่วประเทศ ช่วยกันออกมาทวงคืน “ทำเนียบรัฐบาล”
ช่วยกันประณามพร้อมกับปลุกสังคมให้ตื่นขึ้นมาปกป้องประเทศชาติ และช่วยกันขับไล่กลุ่มอันธพาลออกไปจากแผ่นดินไทย!
ลวดหนาม